ผมให้คลิปนี้เป็น content of the year เลย มีประโยชน์มากๆ คนไทยยังอ่อนเรื่องการให้้หตผลกันอยู่เยอะ (รวมถึงตัวผมด้วย) ที่เจอเยอะๆเลยคือคนชอบฟันธงโดยใช้ประสบการณ์ และพวกใช้อำนาจหรือฐานะในสังคมมาเป็น Back up เหตผลของตัวเอง
บางครั้งมันถูกนะ เพราะ บางทีเราจะไม่เคยพร้อมเลย หรือจะพร้อมก็สายไปแล้ว. เขาไม่เรียกตรรกะนะ เข้าเรียน คำสอน จากคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน. .. just go for it because you ll never feel ready. มันก็เหมืนคำให้กำลังใจให้เรากล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ. ถ้าเรารู้สึกไม่พร้อมจริงๆ ก็อย่าไปเครียด . ได้อย่างก็ต้องเสียอีกอย่าง .
เนื้อหาในอีพีนี้มาจากการอ่านหนังสือหลายๆ เล่ม แต่ที่อยากแนะนำเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องการให้เหตุผลและการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล คือ ลือชา ลดาชาติ, “การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ที่เป็นวิทยาศาสตร์ :ประวัติศาสตร์ ปรัชญา และการศึกษา”
เนื้อหาในตอนนี้ได้แรงบันดาลใจสำคัญมาจากรายการ WitCast โดยเฉพาะตอน
WiTcast 116 - ฟิสิกส์ของการตากฝน / ตรรกะวินาศ สรุปรวมตรรกะวิบัติ logical fallacies
(th-cam.com/video/MtWLTkScGU0/w-d-xo.html)
ใครพอฟังภาษาอังกฤษได้ คลิปวิดีโอที่อธิบายเรื่องตรรกะและการให้เหตุผลแบบต่างๆ ได้สนุกคือ
How to Argue - Philosophical Reasoning: Crash Course Philosophy #2 (th-cam.com/video/NKEhdsnKKHs/w-d-xo.html)
How to Argue - Induction & Abduction: Crash Course Philosophy #3 (th-cam.com/video/-wrCpLJ1XAw/w-d-xo.html)
00:36 เกริ่นนำ
01:06 ตรรกะในทางปรัชญา
01:58 ตรรกะบ้งไม่บ้งดูยังไง
03:54 บ้งด้วยรูปแบบ
10:37 บ้งด้วยเนื้อหา
13:31 บ้งด้วยบริบท
18:18 อะไรทำให้ความบ้งยังคงอยู่
20:33 อยากตรรกะดีต้องทำยังไง
26:30 คำถามทิ้งท้าย
อยู่ที่ปัญญาคนฟังงงงค่าาาา😊
ขอส่งตรรกะบ้งประกวด
”เคยเป็นรัฐบาลมาก่อน มีประสบการณ์ บริหารงานดีแน่นอน“
คิดเหมือนกันเลย5555
เห็นด้วยกับประโยคทองเปลวนี้ครับ บ้งจริง แต่ถ้าจะไม่ยอมให้เป็นคนบ้ง ทุกพรรคโยนตรรกะบ้งออกมาทุกพรรคจริงๆ
รียูสซ้ำคราวหน้าบ้งจริงแน่ค่ะ 😂😂😂
เช่น พรรคแดงเคยเป็นรัฐบาลแล้วทำให้รวย ดังนั้นต่อไปนี้เราต้องรวยแน่นนอน หรือ รวยแล้วเค้าไม่โกงหรอก หรือ ฟรือรวยแล้วไม่ต้องติดคุกเป็นต้น
++++ จริง 😂 เอาอะไรมามั่นน้อออ
เราต้องระวังคำว่า "อาจจะ, น่าจะ" เพราะคำนี้ทำให้ความระมัดระวังและรอบคอบของเราลดลง ทั้งๆที่เรื่องจริงแล้วความน่าจะเป็นมันอาจจะมีต่ำมากมากถึงระดับ 0.001 เปอร์เซ็นต์, แต่เมื่อเราชะล่าใจ ทำให้เราคิดว่า แม้มันไม่ 100% หรอก, แต่มันก็คงจะจริงระดับ 95% ขึ้นไป
ผมให้คลิปนี้เป็น content of the year เลย มีประโยชน์มากๆ คนไทยยังอ่อนเรื่องการให้้หตผลกันอยู่เยอะ (รวมถึงตัวผมด้วย) ที่เจอเยอะๆเลยคือคนชอบฟันธงโดยใช้ประสบการณ์ และพวกใช้อำนาจหรือฐานะในสังคมมาเป็น Back up เหตผลของตัวเอง
วิธี 2 แบบที่โดดเด่นในทางตรรวิทยาคือ
1.อุปนัย
2.นิรนัย
อุปนัยคือการหาข้อสรุปใหม่จากข้ออ้างที่มีอยู่ ทำให้ได้ข้อสรุปใหม่ๆ(อนุมานจากข้ออ้างและเหตุผล/ข้อสนับสนุน แต่จะไม่เป๊ะ100% มากสุดอาจได้แค่99.99%) เช่น ดาราดังโปรโมตยาผิวขาว แล้วยืนยันว่าไม่มีผลข้างเคียง แล้วยานั้นหลายคนก็ใช้เยอะแล้วยังไม่มีใครเป็นอะไร เราเลยได้ข้อสรุปว่ายานั้นดี (แต่ความเป็นจริงคือถ้าเชื่อแค่ดาราว่าน่าเชื่อถือ ยาเลยปลอดภัย จะถือว่าตรรกะบ้ง หรือทิ้งเหตุผล แต่การอ้างว่าหลายคนใช้ยาตัวนี้แล้วไม่มีใครเป็นอะไร สามารถใช้อ้างเหตุผลได้ แต่ยังไงในทางตรรกะก็มีโอกาสที่ยาจะไม่ได้ผล หรือส่งผลเสียได้)
ตรรกะนิรนัยคือการนำข้อสรุปที่มันมีอยู่ในข้ออ้างอยู่แล้ว เช่น คนทุกคนต้องตาย นาย A เป็นคน นาย A จึงต้องตาย (แต่ก็ต้องระวังอีกจุดหนึ่งที่อาจโดนหลอกได้ สมมติมีโจทย์ว่า คนทุกคนต้องตาย กระต่ายเป็นสัตว์ กระต่ายจะตายหรือไม่? คำตอบคืออาจจะตายได้เหมือนกัน เพราะกระต่ายเป็นสับเซ็ตที่อยู่ในอาณาจักรของสิ่งที่ต้องตาย
Inductive
วิธีการใช้เหตุผลที่ดำเนินจากส่วนรวมไปหาส่วนย่อย
Induction
การแสดงเหตุผลจากส่วนย่อยไปหาส่วนใหญ่ เป็นการรวบรวมความจริงจากพื้นที่ต่าง ๆ แล้วสรุปเป็นทฤษฎี, การอ้างเหตุผลโดยอาศัยหลักฐานจากประสบการณ์
ชอบมากเลย "หากเราได้ประโยชน์จากการมีตรรกะวิบัติเชิงบริบท โดยมากเราจะไม่อยากให้ใครตั้งคำถามกับเรา เราอยากรักษา (หวง) ผลประโยชน์และอำนาจจากตรรกะเพี๊ยนๆนั้นไว้ เพราะหากเราเป็นคนที่คิดเชิงตรรกะอย่างสมเหตุสมผล อาจทำให้สูญเสียประโยชน์ หรือไม่สามารถเป็นในสิ่งที่เราภาคภูมิใจได้ เช่น เงิน ยศ อำนาจ สถานะทางสังคมที่มองว่าสูงส่งกว่าคนอื่น ดังนั้น เพื่อลดโอกาสและหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ เราอาจต้องเปิดฏอกาสให้คนอื่นๆ ตั้งคำถามกับเรา เปิดโอกาสให้คนอื่นๆ วิพากษ์วิจารณ์เรา เปิดโอกาสให้คนในสังคมถามเรา เพื่อที่เราจะได้ให้โอกาสตัวเองหรือผู้มีอำนาจตอบคำถามอย่างเป็นเหตุเป็นผล"
ตรรกะที่บ้งที่สุดและไม่อยากให้รุ่นลูกและรุ่นหลานต้องเจอแบบเราคือ "ที่เขาทำรัฐประหาร เพราะเขายอมเสียสละตัวเองทำเพื่อชาติบ้านเมือง"
เพราะคนสมัยก่อนทำอะไรไม่ได้ เลยสร้างความคิดมาเข้าข้างตัวเองให้ไม่ต้องทำอะไร เดี้ยวนี้สามารถพิมพ์บนโลกออนไลน์พอเกิดดราม่าทุกคนก็รับรู้กดดันรัฐบาลได้
ตรรกะ ที่เราควรท้าทายกับ มันคือ ประชาธิปไตย มันไร้จุดอ่อน ถ้ายอมรับแล้ว ค่อยถามว่า จุดอ่อนนั้นคืออะไร ก่อนที่เราจะไปไขว่ขว้ามัน และเป็นเคืร่ิงมือของสื่อ หรือ นักการเมือง. จริงไหมที่คนถูกเลือกตั้งมา เป็นคนดี ไม่โกง . จริงไหม ที่บอกว่า ศาล เป็นองค์กรอิสระ จริงไหม คนดี ไม่เคยทำเลว หรือ คนเลวไม่เคยทำดี คนพูดสิ่งที่เราไม่ชอบ เป็นคนไม่ดั จริงไหม คนที่ชอบสิ่งที่เราพผูดเป็นคนดี 😅😅😅 คนดี ที่เราคิด เคยหักหลังคนอื่นไหม หัดหลังเปผ็นสิ่งที่ควรยอมรับได้ไหม ทำผิดไม่ติดคุก ถูกไหม ยอมรับได้ไหม ทุกอย่างมีทั้งเหตุและผล การเลือกตั้งโกงได้ไหม ดารเอาสมบัติชาติไปให้เพื่อนบ้านเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวยอมรับได้ไหม
555
รายการแบบนี้จรรโลงสังคมให้คนฉลาด ทำต่อไปครับ ดีมากๆ
เลยต้อง บรรจุ "วิชาตรรกศาสตร์" เข้ามาในวิชาคณิตศาตร์ไง 🥰 เพราะ ถ้า ตรรกะผิด logicไม่ได้ สูตรก็จะผิดไปหมด(ในทางคณิต) และชีวิตก็เช่นกัน 😇 ตรรกะ = การคิดเชิงเหตุและผล
ขอบคุณสำหรับคอนเท้นดีๆฮะ
ตรรกะบ้งนี่ ภาษาอังกฤษน่าจะตรงกับคำว่า ‘logical fallacy' ซึ่งมันมีรูปแบบเยอะมากๆเลย เป็นสิบยี่สิบแบบ ที่ผมเจอกับคนรอบข้างบ่อยๆจะมี
ad hominem(โจมตีตัวบุคคล)
A: พี่ พี่เป็นเบาหวาน ต้องลดของหวานนะ
B: แต่วันก่อนชั้นยังเห็นแกซื้อชานมอยู่เลยนะ
(คือมองข้ามเนื้อหาการสื่อสาร ไปโจมตีที่คนพูดแทน)
- hindsight bias(อคติจากการมาเห็นทีหลัง)
สมมติเราทำงานที่ร้านคาเฟ่ ตอนเย็นพบว่าของหายไป พอมาเปิดกล้องดู พบว่าขโมยคือชายเสื้อดำที่เราเสิร์ฟกาแฟให้ พอเจ้านายรู้เรื่อง เลยถามว่า “อ้าว แล้วทำไมไม่จับตาดูชายเสื้อดำคนนั้นตั้งแต่แรกล่ะ”
(เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันนั้นจะเกิดการขโมยขึ้น แต่เจ้านายรู้คำตอบตอนจบอยู่แล้ว เพราะมาดูทีหลัง)
สมัยเรียนมหาลัยสนุกมาก ในวิชาตรรกศาตร์ ตอนสอบคือมันมาก แล้วเพื่อนก็บ่นอุบ และตกวิชานี้หลายคนเลย เพราะติดกับดักความจริง แต่ในข้อสอบ และเนื้อหาคือ ให้ตีโจทย์ให้แตกว่าข้อความเหล่านี้มันเป็นไปตามกฏของตรรกศาสตร์ไหม
ขอบคุณep นี้ที่ทำให้ได้สติ และระลึกถึงอดีตที่บ้งๆ และ การไม่กล้าแสดงความเห็นเพราะกลัวบ้ง
ซึ้งบางทีเราต้องปล่อยให้บ้งบ้างก็ได้ เผื่อบางทีเราอาจจะไม่บ้งในครั้งต่อไป บางครั้งกลัวบ้งจนไม่กล้าแสดงความคิดเห็นออกมา
When your boss said : How can we educate คนทั้งประเทศ = ออกมาเป็นรายการนี้
ขอขอบคุณ
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปค่ะ 💜
ขอบคุณรายการดีๆ ค่ะ
ปรัชญาทำให้เราได้มีเวลาหยุดคิด ได้ตั้งคำถาม ได้หาคำตอบด้วยเหตุผล และได้ค้นพบว่าบางทีตัวเราเองก็มีตรรกะบ้ง 😂
การที่ตรรกะบ้งยังคงอยู่ อาจเพราะคนไม่ได้หยุดคิดเลยไม่รู้ว่าตนเองตรรกะบ้ง เมื่อไม่รู้จึงไม่ได้ปรับแก้ไข หรือบางคนรู้ แต่เพราะตรรกะบ้งทำให้ตนเองหรือพวกได้รับประโยชน์จึงยังตีเนียนไม่ยอมรับสักที😅
นโยบาย ที่ดี ไช้งานได้ และเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงนั้น ต้องผ่านประชามติจากประชาชน
ขอบคุณที่ทำรายการดีๆใหม่ๆออกมา ติดตามเสมอครับ
อธิบายได้นุ่มนวลกว่าจารย์ตอนเรียนมหาลัยผมมาก 55555 จารย์ผมยิ่งเข้าเนื้อหายิ่งของขึ้น
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปค่ะ 💜
😂😂😂
ใส่เสื้อสีเหลือง = เป็นคนดี รักชาติ😊
ณ ชั่วโมงนี้ ดันมีเสื้อม่วงงอกเพิ่มขึ้นมาอีก หัวจะปวดครับ 😅
ทำบุญมากได้ บุญมาก ทำบุญน้อยได้บุญน้อย ทำบุญมากจะได้ขึ้นสวรรค์ ทำบุญน้อยก็จะลำดับขั้นตามลงมา สรุปเราทำบุญเพื่อขึ้นสวรรค์หรือเราทำบุญเพราะช่วยเหลือ หรือมีจิตใจเมตตาที่อยากจะให้ครับ แล้วการทำบุญมากจะได้ผลที่มากจริงไหม? หรือแล้วเเต่จิตศรัทธา หรือเรากำลังถูกผู้ที่หวังผลประโยชน์หลอกใช้อยู่ครับ
ทำบุญเพราะอยากได้บุญ ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรนี่ครับ
ต้องให้คำจำกัดนิยามของคำว่า "บุญ" คืออะไรโดยแท้จริงเสียก่อน ต้นเหตุของบุญคืออะไร ได้มาได้อย่างไร และใช้อย่างไร มันถึงจะพอเห็นเค้าโครงคำตอบ เพราะนิยามคำว่า "บุญ" ของแต่ละคนผมเชื่อว่าน่าจะแตกต่างกันตามความรับรู้
ขอบคุณทุกท่านครับ ผมเริ่มต้นจากคำว่าไม่รู้ครับเลยพยายามสอบถามหาคำตอบจากผู้รู้ครับ ไม่ได้มีเจตนาอคติ หรือ ตำหนิ ครับ ผมอยากทราบเพื่อเป็นประโยชน์ เพิ่มพูนความรู้ของผมเองครับผม
‘บุญ’ น่าจะเป็นเรื่องของ ความรู้สึก
การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ช่วยสร้างสังคมที่สงบสุข
คอนเทนต์ดีมาก อยากให้มี ep 2 ต่อครับ
ชอบรายการใหม่นี้มากค่ะ สนุก เพลิน ทำให้ปรัชญาดูไม่ยากเข้าใจกันง่ายๆไปเลย
คิดถึงใดๆจัง มีเรื่องอีกเยอะเลยที่รอฟัง
ด้วยครับ
เนื้อหาดีมากครับ 👍👍👍
ใช่หลัก...
เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี
เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
เมื่อมีตัญหา จึงมีการแสวงหา
เมื่อการแสวงหาเกิด ย่อมได้มา .
❤ปฏิจจสมุปบาท.❤.
ตรรกะบ้งที่เคยเจอ
-บ้งแบบรูปแบบ
คนนี้ทำงานดี เพราะจบมหาลัยA
อีกคนทำงานแปลกๆ เพราะไม่ได้จบมหาลัยA
-บ้งแบบบริบท
A:น้องคนนี้ทำงานผิดพลาด
B: แต่น้องเค้าเป็นคนดี ไม่เคยโกหก มาตรงเวลา
...
ทำไมอันที่ 2 ถึงบ้ง?
ขอเห็นต่าง ตรงที่ว่า "เลี้ยงลูก ให้ดีลูกจะมาเลี้ยงเราหรือตอบแทน" คำว่าเลี้ยงให้ดี มันต้องเป็นไปตามวิธีการที่ดี คือดีให้เงินมาก ตามใจเวลาอยากได้อะไร หรือเลี้ยงให้ดีคือสอนดีๆ แต่พ่อแม่ ทำอีกอย่าง คือเลี้ยงให้ดี แต่ละครอบครั้วทำได้ดีไม่เหมือนกันไงครับ .... สรุปคือเลี้ยงลูกให้ดี จริงๆ สอนเขาให้ช่วยทำงานบ้าน สอนให้ตรงต่อเวลา สอนให้ช่วยเหลือสังคม สอนให้ประหยัด สอนโดนยการคุณพ่อ คุณแม่ทำให้ลูกๆดูเป็นตัวอย่างครับ...
เก่ง อธิบายเข้าใจง่าย เลิฟๆ❤❤❤
พี่ภาคินนี้พูดจา ฉะฉาน เข้าใจง่ายมากก สมแล้วที่เป็นคุณครู ปรบมือสิครับบบ 🎉
เป็นตุ๊ดเพราะชาติที่แล้วไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้านค้าาาาาา บ้งเพราะเคยเชื่อหมอดู โอ๊ยน๊ออออออ (ตอนนี่้เลิกแล้วค่ะ)
บ้งด้วยเนื้อหา
อืมน่าสนใจ อันนี้คือบ้งด้วยรูปแบบหรือเนื้อหา
ผมให้รูปแบบ เพราะ lgbt ไม่ได้เกี่ยวกับอดีตชาติ
@@GGcxvw558@GGcxvw558 แบบนั้นไม่ได้ครับ เพราะว่ากฎเขาตั้งมาถูกต้องแล้ว ใครเป็นชู้กับเมียชาวบ้านชาติที่แล้วชาตินี้จะต้องเป็นตุ๊ด ฉะนั้นมันผิดมาตั้งแต่กฎแล้วครับ เพราะการตั้งกฎไม่สมเหตุสมผล และพิสูจน์ไม่ได้
ถ้าจะให้เป็นการบ้งเชิงรูปแบบ
1.ต้องมีกฎที่เป็นจริงและต้องให้เหตุผลที่เกินกฎ
2.ถ้าไม่มีกฎก็ต้องมีตัวอย่างหรือไม่ ประสบการณ์ที่เป็นจริงแล้วมีการอ้างว่าสิ่งที่จะเกิดต้องแบบตัวอย่างหรือ ประสบการณ์ที่เคยผ่านมา
ถ้าใช้คำว่า อาจจะเกิด อาจเป็น
ก็จะไม่ตรรกะวิบัติ
สรุปในที่นี้ มันไม่มีกฎที่เป็นจริง มันไม่ได้มีประสบการณ์ที่มันเกิดจริง มันไม่ได้มีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง
มันจึงผิดมาตั้งแต่การตั้งกฎแล้ว
กดมันบอกว่า ใครเป็นชู้กับเมียชาวบ้านในชาติที่แล้ว ชาตินี้จะเป็นตุ๊ด
มันวัดไม่ได้ มันพิสูจน์ไม่ได้ มันจึงตรรกะวิบัติเชิงเนื้อหา.
@@GGcxvw558แต่ที่ผมเห็นคือกฎเขาตั้งมาถูกต้องแล้ว กฎคือ ชาติที่แล้วใครเล่นชู้กับเมียชาวบ้านชาตินี้จะเกิดเป็นตุ๊ด ฉะนั้นมันผิดมาตั้งแต่กฎแล้วครับ เพราะการตั้งกฎไม่สมเหตุสมผล และพิสูจน์ไม่ได้
ถ้าจะให้เป็นการบ้งเชิงรูปแบบ
1.ต้องมีกฎที่เป็นจริงและต้องให้เหตุผลที่เกินกฎ
2.ถ้าไม่มีกฎก็ต้องมีตัวอย่างหรือไม่ก็ประสบการณ์ที่เป็นจริงแล้วมีการอ้างว่าสิ่งที่จะเกิดต้องเกิดแบบเดียวกันกับตัวอย่างหรือ ประสบการณ์ที่เคยผ่านมา
ถ้าใช้คำว่า อาจจะเกิด อาจเป็น
ก็จะไม่ตรรกะวิบัติ
สรุปในที่นี้ มันไม่ได้มีกฎที่เป็นจริงแล้วอ้างเกินกฎ มันไม่ได้มีประสบการณ์ที่มันเกิดจริง มันไม่ได้มีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง
มันมีแค่การตั้งกฎขึ้นมาและการให้เหตุผลมันก็ถูกต้องตามกฎที่เขาตั้ง แต่มันวัดไม่ได้พิสูจน์ไม่ได้ ไม่สมเหตุสมผล
มันจึงผิดมาตั้งแต่การตั้งกฎแล้ว
กฎมันบอกว่า ใครเป็นชู้กับเมียชาวบ้านในชาติที่แล้ว ชาตินี้จะเป็นตุ๊ด
เพราะเหตุนี้มันจึงตรรกะวิบัติเชิงเนื้อหา.
หมายถึงคุณเป็นตุ๊ดเหรอครับ เลิกแล้วคือเลิกเป็นตุ๊ดหรือเลิกเชื่อหมอดูครับ
ตรรกะบ้งที่ได้ยินมาเสมอในที่ทำงานคือ
“ ทำไปวันๆก็พอ จะคิดมากอะไรนักหนา ” หรือ
“ ฉันทำงานที่นี่ได้นานไม่คิดเปลี่ยนงานใหม่ เพราะฉันไม่ใช่คนทะเยอทะยาน ฉันเลยอยู่ได้นาน ”
คำบอกเล่าเหล่านี้ สะท้อนอุปนิสัยระยะยาวของคนๆนึงได้มาก แต่ที่น่าเศร้าคือ เขาอยู่ในระดับหัวหน้า ไม่ humble และไม่เคยอยากฟังคอมเม้นท์จากใครเลยค่ะ😅
สิ่งที่เราทำได้ คือทบทวนและเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยู่เสมอๆ
ลื่นไหลดีครับ ฟังแล้วเข้าใจง่าย
พระเจ้ามีจริงพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลก ทั้งๆที่เราวิวัฒนาการมากับสิ่งมีชีวิตบนโลกพร้อมๆกัน
เจอมากับตัวกว่าจะเอาชนะตรรกะนี้กับคนรอบข้างได้มันก็โคตรเจ็บปวด
เอาชนะอย่างไรครับ ให้เหตุผลอย่างไรว่า พระเจ้าไม่มีอยู่จริง พระเจ้าไม่ได้สร้างโลก
อยากให้มีซับภาษามากเลยครับ
น่าสนใจมากเลยค่ะ ทั้งเรื่องของท้อปปิก ตัวอย่างแล้วก็คำอธิบาย สังคมที่มีการถกถามกันถึงเนื้อหาและตรรกะกันจริง ๆ มันจะนำไปสู่การแก้ไขที่ตัวปัญหาจริง ๆ แต่การอ้างถึงที่บ้ง ๆ จะทำให้ปัญหามันนำไปสู่ทางตัน ตัวอย่างปัญหาที่เราเคยเจอคือการถกกันเรื่องความเป็นกรดเบสในเลือดหลังจากที่กินอัลคาไลน์ไปค่ะ
น้องสาวไปเรียนใบประกอบอาหารเสริมมาก็บอกว่าอ. หมอบอกมาแบบนี้นะ ว่าการกินอาหารของคนเราทำให้เซลล์อักเสบ เลือดเป็นกรด เลยต้องกินอะไรที่เป็นเบสเพื่อปรับสมดุล เราเลยต้องถามต่อว่าแล้วดีเทลของปฏิกิริยาเป็นยังไง มันเป็นไปได้เหรอที่เลือดเราในร่างกายมีสมดุลกรดเบสอยู่ที่ 7.0-7.4 จะดีดไปที่ 8+ หลังจากที่กินอัลคาไลน์ สภาวะนั้นจะส่งผลต่อไตแล้วนะ เถียงกันยาวนานมาก อยากเอาเปเปอร์มากาง แต่ที่บ้านก็ไม่ชอบ environment แบบนี้เลยโดนจับแยก สุดท้ายน้องไปถามอ. มา ยังโดยเหน็บว่าเราเป็นนักเคมีแล้วจะรู้อะไร (เพราะเราไม่รู้เลยถาม และถ้าอ. ต้องการยืนยันในเนื้อหาของตัวเองก็ต้องอธิบายสิคะ) แต่ที่ อ. เอามาสอนในคลาสนี่ทดลองในหลอดทดลองนะ ไม่ใช่ในคนจริง ๆ เอ้าแล้วงี้จะมีอีกกี่คนที่ไปเรียนแล้วได้รับสารมาผิด ๆ ละ เวลาโดนถามมันก็ต้องอธิบายให้ได้สิ่ท่าน
นี่ก็ยังไม่เข้าใจตรรกะของที่บ้าน อยากให้ลูกเรียนสูง ๆ มีความรู้มาก ๆ แต่ไม่อยากให้โต้เถียง ตั้งคำถาม
25:09 คิดเหมือนกันเลยครับ😊
ขอบคุณที่ทำเรื่องปรัชญา เราสนใจอยู่แล้ว แต่ขี้เกียจอ่านหรือตามหาช่องทางที่มันเข้าใจง่าย กระชับแบบนี้ ชอบรายการนี้มาก ฟังไปจดไป นำไปฝึกว่ายน้ำ เห้ยฝึกฝนตัวเองได้ เป็นกำลังให้ กับคอนเท้นดีๆแบบนี้
อยากให้ทำเรื่อง
1 มีชีวิตอยู่ทำไม เคยเรียนมา คือ ตามหาความสุข เป้าหมาย สนองตัณหาต่างๆ ทำภารกิจหรือรับใช้พระเจ้า แต่ก็อยากฟังมุมอื่นๆอีก
2 ความรัก(ไม่ใช่เชิงชู้สาวอย่างเดียว) ในแง่ปรัชญา นอกจากความสืบพันธุ์ มีแง่คิดไหนอีกบ้าง
ชอบมากครับ ทำต่อไปนะครับ
จริง ๆ มนุษย์ทุกคนไม่ต้องตายก็ได้ ถ้านักวิทยาศาสตร์เจอวิธีต่อต้านการหมดอายุของเซลล์ให้มันสร้างใหม่เรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังได้รับสารอาหารอยู่
การเลี้ยงลูกให้ดีจะทำให้เขากลับมาดูแลเราเป็นคำถามที่ ทำให้เอะใจ เพราะว่าการเลี้ยงคนคนหนึ่งให้ดีเพราะให้เค้าได้ดีเพื่อชีวิตที่ดีของตัวเองไม่ได้เพื่อให้กลับมาดูแลเราผมตีความแบบนี้มากกว่าจึงเอะใจ ไม่ได้สงสัยในการเลี้ยงให้ดีดีหรือไม่ดีแต่สงสัยกับความคิดที่ต้องให้เค้ากลับมา
ชอบอีพีนี้มากค่ะ
ชวนคิดค่ะ ว่า เนื้อหาจำแนกประเภทตรรกะวิบัติ ไม่วิบัติ อาจมีส่วนนำไปสู่ การ labeling หรือการแปะป้ายหรือไม่?
หากแนวคิดเชิงปรัชญาเริ่มเกิดขึ้นในบริบทสังคมที่ไม่เคย normalize การตั้งคำถาม-การคิดเป็นเหตุเป็นผล ก็ค่อนข้างน่ากลัวสำหรับผู้เริ่มต้นทางความคิดเชิงการให้เหตุผลนะคะ ที่อาจจะถูกแปะป้ายว่าเป็นผู้ตรรกะวิบัติ โดยไม่มีพื้นที่ได้แสดงรากฐานหรือที่มาของแนวคิด หรือพื้นที่ได้ถกเถียงกัน หรือก็อาจจะเป็นไปได้ว่า เราคอยจับจ้องความคิดบุคคลภายในแวดวงสังคมตนมากขึ้น หรืออาจจะ “มากเกินความจำเป็น” จนกลายเป็นตำรวจทางตรรกะ (ล้อกับคำว่าตำรวจไวยากรณ์) เพื่อจะคอยจับผิดว่า คนนี้ตรรกะวิบัติหรือไม่
คิดว่า สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะร่วมสร้างให้เกิดวัฒนธรรมการคิดเชิงเหตุผล หรือแนวคิดเชิงปรัชญาให้แข็งแรงได้ เราคงจะต้องเริ่มจากการสร้างพื้นที่ถกเถียงไปพร้อมด้วยกันค่ะ
เห็นด้วยเลยครับ ผมคิดว่าไม่มีใครเกิดมาแล้วตรรกะดีทันที การใช้เหตุผลต้องฝึกฝนไม่แพ้การออกกำลังกาย ดังนั้น การมีพื้นที่ให้ฝึกฝนและถกเถียงจึงสำคัญมากกว่าการคอยจับผิดกันแน่นอน
ในทางกลับกัน การเข้าใจว่าตรรกะแบบไหนที่วิบัติหรือไม่วิบัติ อาจมีประโยชน์ด้วยในฐานะหนทางหนึ่งของการฝึกฝนตัวเอง คือช่วยให้เราสำรวจการใช้เหตุผลของตัวเองอยู่เรื่อยๆ ว่ามันถูกต้องหรือไม่
ในระดับชีวิตส่วนตัว ผมคิดว่า ของจำนวนมากบนโลกนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจริยศาสตร์ อะไรดี อะไรงาม อะไรถูก อะไรผิด มีประโยชน์มากๆ เมื่อเราใช้กำกับตัวเอง และมีประโยชน์น้อยลงเมื่อเราใช้เพียงเพื่อแปะป้ายผู้อื่น อย่างไรก็ตาม ในระดับชีวิตสาธารณะ ของพวกนี้ยังอาจจำเป็นอยู่เพื่อไม่ให้คนที่อำนาจมากใช้อำนาจตัวเองได้ตามอำเภอใจ เราไม่ได้บอกว่าเขาใช้เหตุผลที่ผิดเพื่อบุลลี่หรือแปะป้าย แต่เพื่อบอกว่า ในฐานะคนที่มีอำนาจมาก คุณต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ และหนึ่งในความรับผิดชอบนั้นก็คือ จงคิด ทำ พูด แสดงออก ด้วยเหตุผลที่ไม่วิบัติ
"ผมทำได้ DNA ผมก็ทำได้"
สนุกและได้คิดทบทวนทำความเข้าใจเพิ่มขึ้นครับ ขอบคุณครับ
จะว่าไป น่าจะมีคนหลายคนเลย ที่ไม่สามารถดูสิ่งนี้ได้
ถ้าบอกว่า
1. ในบางสถานการณ์ ความบ้งก็จำหรือมีประโยชน์ เนื่องจากมนุษย์ย่อมไม่อยากเสียเปรียบ หรือเสียประโยชน์ส่วนตน ในขณะที่บางสิ่งบางอย่าง ต้องมีใครสักคนยอมเสียประโยชน์ของตัวเองเพื่อทำมัน ดังนั้น การมีตรรกะบ้งที่ทำให้บางคนยอมไปทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ยอมทำก็เป็นสิ่งที่ดี
2. การถกเถียงในบางประเด็น ไม่ใช่สิ่งที่สามารถหาข้อสรุปได้ในเวลาอันสั้น แต่ในบางสถานการณ์ต้องเลือกหรือตัดสินใจในเวลาที่จำกัด การบ้งเพื่อยุติกาถกเถียงก็อาจเป็นสิ่งจำเป็น
2 อันนี้บ้งไหมคับ
อยากรู้ความเห็นพิธีกรกับคนที่ดูตอนนี้ค่ะ ฟังเรื่องบ้งเรื่องจำนวนมากถูกเพราะทุกคนก็ทำกันแล้วนึกถึงดราม่านึง
ที่มีคนออกมาแฉถึงพฤติกรรมนางแบบและนายแบบร้านเสื้อผ้าดังในไอจี มีตั้งแต่นินทาบุลลี่ไปจนถึงคบซ้อนนอกใจแฟน และเรื่องที่ผิดกฎหมายเช่นการสูบบุหรี่สูบพอร์ตเข้าผับ (อายุไม่ถึงตามกฎหมาย) แต่คนส่วนใหญ่ มักมีความเห็นไปในทางว่าคนทั่วไปก็ทำกันแค่ยังไม่ดัง เป็นเรื่องปกติ เรื่องมันผ่านมาแล้วพูดทำไม จบที่กลายเป็นออกไปทางกล่าวโทษฝั่งที่ออกมาพูดแทน เหมือนกับว่าพอเป็นคนที่หน้าตาดีเราปลื้มรวมถึงทุกคนก็ยกย่องเรื่องเหล่านั้นก็ถูกขึ้นมา แต่ถ้าเป็นคนที่ตัวเองไม่ได้ปลื้มไม่ได้ชอบขี้หน้าอยู่แล้วและทุกคนรุมสาป ก็จะสาปไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นพีเคละกันค่ะ (ถามถึงเรื่องการมีตรรกะที่ความผิดเหล่านี้กลายเป็นไม่ผิด ของเหล่าแฟนคลับและอาจจะบางคนที่ไม่ใช่แฟนคลับนะคะ ส่วนเรื่องตัวดราม่าเราไม่ได้ตาม แต่เท่าที่เห็นก็ไม่ได้มีที่ออกมาบอกว่าที่มีคนออกมาแฉไม่ใช่เรื่องจริง (อาจมีแค่เราไม่รู้) เห็นแค่คลิปนายแบบคนนึงทำคลิปประมาณว่าเพื่อนเค้าก็ทำกันทุกคนและยังหนักกว่าอีกแค่ไม่ดัง และทุกคนก็เห็นชอบ)
ผมคิดว่าหลักการใช้เหตุผลของพระพุทธเจ้า(กาลามสูตร)น่าจะใช้วิเคราะห์ได้ว่าการใช้เหตุผลใดบ้งหรือไม่บ้ง
ลูกคุณ/ฉัน ไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน แล้ว คุณแม่ๆ ก็ตอบว่า ไม่จริง เพราะให้เหตุผลส่วนหนึ่งว่า ยังเด็กอยู่ แล้วถ้าลูกคุณโต เป็นผู้ใหญ่แล้วยังไม่น่ารักเหมือนเดิม ถือว่า แม่ๆ เหล่านั้น บ้ง ไหมครับ
จริงครับ ยิ่งผมนี่เกลียดเด็กที่พ่อแม่ปล่อยละเลยไม่ดูกาลเทศะ วิ่งเล่นซน งอแงร้องเสียงดัง พูดหยาบคาย ตามใจ แล้วพ่อแม่เด็กอวยเด็ก ไม่ห้ามเด็กสั่งสอน บอกว่าใครๆก็รักเด็ก จนผมมีหลาน ลูกของพี่สาว เวลาน้องทำผิดพูดไม่ฟัง ห้ามแล้วยังทำ ผมก็ตีดุสอนไป มันไม่ได้แรงมากหรอก แต่เด็กมันสำออย เพราะโดนโอ๋มาตลอด พี่สาวก็ว่าผมทำเกินเหตุ ผมก็บอกว่าลูกเราไม่ได้น่ารักกับทุกคน อยากให้ลูกโตไปเป็นแบบไหนกันละ ให้สอนตอนที่ยังสอนได้ ช่วงหลังนี้ติดโทรศัพท์งอมแงม เพราะเป็นวิธีเดียวที่ทำให้เด็กไม่งอแงก้าวร้าว ผมก็ต้องแย่งออก แล้วชวนไปทำอย่างอื่นแทน ตอนนี้ทุกคนก็เข้าใจสิ่งที่ผมทำ
สนุกมาก ทำต่อยาวๆ สู้ๆ ค้าบ
ผมมีคำถามอยากถามพี่ภาคินครับคำถามนี้เกิดขึ้นจากตัวผมเองจากการตั้งคำถามในตอนที่แล้วที่สุดท้ายแล้วอะไรสำคัญที่สุดในชีวิตจริงๆแล้วสิ่งที่ทำอยู่นี้เพื่ออะไรหนึ่งในคำตอบของผมคือ“การถูกยอมรับ”ผมก็เลยสงสัยว่าทำไมมนุษย์บางคนถึงโหยหาการถูกยอมรับจังครับ
"เวลานี้"สำคัญที่สุดครับ เพราะมันคือเหตุของการมี"ฉัน"ตอนนี้ ผมว่า
การถูกตัวเองยอมรับตัวเอง สำคัญที่สุดครับผมว่า
เราทุกคนเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับยุคสมัย เรามีมือและสมองสำหรับทำบางสิ่งให้เกิดขึ้นครับ😊
ถ้าตอบแบบสุขนิยมก็คือมนุษย์ต้องการความสุขครับ การได้รับการยอมรับก็เหมือนทำให้ตัวเองรู้สึกมีค่า/มีคนสนใจ พอรู้สึกมีค่าก็จะเกิดความสุขขึ้นมา ในทางจิตวิทยาเองก็เหมือนกันครับ ตามทฤษฎีลำดับขั้นของมาสโลว์
ผมไม่คิดว่าการถูกยอมรับจะตอบเรื่องบุคคลหนึ่งมีชีวิตไปเพื่ออะไร มันอยู่ที่ บุคคลที่คุณอยากให้เค้าให้ความสำคัญกับคุณมากกว่า คุณต้องตอบตรงนี้ก่อน
เพราะสมมติผมบอกว่า "ผมยอมรับคุณนะ" แต่ผมไม่ได้อยู่ในวงจรชีวิตของคุณ ไม่ได้รู้จักกันไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตคุณ ดังนั้นการยอมรับของผมก็ไม่ได้เป็นเหตุผลให้คุณอยู่ใข้ชีวิตต่อแต่อย่างใด
ความสมดุลระหว่างความสุขเชิงอัตวิสัยและการได้ทำอะไรที่ใหญ่กว่าตัวเองค่ะ(ช่วยเหลือคนอื่น)
ได้รับการยอมรับ = ต้องสามารถผ่านเกณฑ์ได้
ได้รับการให้เกียรติ = สร้าง/วาง/ตัวตน
ได้ใช้ชีวิต = ง่ายขึ้น
ส่วนตัวถ้าว่ากันที่ระดับมนุษย์เดินดินที่ไม่ได้กะจะ Transcend ไปไหน การพิจารณาควรย้อนกลับไปดูเหตุแห่งการอ้างเหตุผลหลักๆ 2 ข้ออีก นิรนัย และอุปนัย ข้อดีนิรนัยคือถ้ามันชัวร์เป็นสัจพจน์ก็จะได้คำตอบที่แม่นตรงได้เลย แต่ถึงยังงั้นของที่เป็นสัจพจน์ในความเป็นจริงมีน้อยมาก การที่จะก่อเกิดความรู้ใหมาได้จึงมาจาก อุปนัย เสียมากกว่าสังเกต สร้างสมมติฐาน ตั้งข้อคาดการณื แล้วเช็คผลเชิงประจักษ์ เพื่อตรวจสอบ แปรผลด้วยสถิติ ปัญหา คือ ไอข้ออุปนัยนี่แหละที่คนมักย้อนกระบวนการด้วยการเอาผล ไปหาเหตุ แล้วปรับ สมมติฐานตัวเองให้ลงแทน เลยกลายเป็นการอ้างเหตุผลมันก็ไม่ผิดหรอก แต่ไม่เกิดประโยชน์ เพราะ สมมติฐานมันจำเพาะ และไม่ใช่ความจริง Fallacy แบบนี้เห็นจะมากสุดแล้วในยุคนี้ เพราะมันดูดีบนหน้ากระดาษ พูดออกไปก็ดูหล่อ และไม่ผิดเสียทีเดียวด้วย
นำไปสู่ข้อควรระลึกที่สำคัญ คือ กระบวนการตั้ง สมมติฐาน ในการอุปนัยควรให้ความสำคัญมากๆ บางคำกล่าวฟังทื่อๆ แล้วสรุปเลยแค่ว่า“บ้ง”มันก็ไม่ได้อะไร แต่ถ้าเอากระบวนคิดนั้ สามารถย้อนกลับไปว่า แล้ว สมมติฐานของคำกล่าวนี้เค้าตั้งอยู่บนอะไร ถ้าคำกล่าวมาพร้อมสมมติฐานที่สมเหตุสมผล บนหลักฐานเชิงประจักษ์ หรือ สัจพจน์บางอย่าง ถึงจะเป็น Special case แต่ก็มอบแง่มุม หรือความลึกซึ้งบางประการกว่าการสรุปแบบกำปั้นทุบดินว่าบ้งหรือไม่บ้ง
ผมเชื่อว่ามนุษย์เราแสวงหาคำตอบเพื่อเติมเต็มชีวิต คือ ความจริง ความดี ความงาม
ความจริงเราใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์แสวงหา
ความดีเราใช้เครื่องมือศาสนาและจริยศาสตร์แสวงหา
ความงามเราใช้เครื่องมือสุนทรียศาสตร์และศีลปะแสวงหา
กำลังปรับตัวกับรายการนี้ แต่ก่อนชอบอะไรแนวนี้ แต่พอทำงาน ก็เริ่มไม่ค่อยว่างอินกับปรัชญา ตรรกะ แต่ก็รู้สึกไม่แย่นะ
ตแนนี้ดีมากเลยครับ❤
มนุษย์ทุกคนไม่ได้เกิดมาโดยความตั้งใจของตัวเองดังนั้นพ่อกับแม่บังคับให้เราเกิดมา บ้งรึเปล่าครับช่วยตรวจสอบหน่อย
ถ้าคุณตีความกฎที่ว่าอสุจิพยายามวิ่งสู่รังไข่ทุกตัวตามที่ชีววิทยาว่าเป็นจริงเสมอ = เราตั้งใจเกิด. แต่ถ้าตีความว่าไม่จริง = เรามีโอกาสไม่ตั้งใจเกิด และอีกคำถามคือมองตัวตนตั้งแต่การเป็นอสุจิหรือเปล่าด้วย
@@Kotzillaplay อสุจิไม่ใช่ตัวตนของเราครับ อสุจิเป็น 1 เซลล์ ที่เคลื่อนที่เข้าไปผสมกับไข่ซึ่งเป็น 1 เซลล์เหมือนกัน อสุจิผสมกับไข่และแบ่งเซลล์จนสร้างโครงข่ายระบบประสาทขึ้นมา อันนี้ถึงจะนับว่าเป็นตัวเราครับ นี่คือกฏทางวิทยาศาสตร์ตามนิยามของจริง ไอ้ที่บอกว่าตัวเองเป็นอสุจินั้นคือไม่มีความรู้ความเข้าใจมากพอ และพูดเชิงมุกตลกมากกว่าครับ ดังนั้นเรื่องเราไม่มีทางตั้งใจเกิดได้แน่นอน
ส่วนพ่อแม่บังคับให้เราเกิดไหม ก่อนที่เราจะเกิดเราไม่มีสติตัดสินใจ ดังนั้นคิดว่าใช้คำว่าบังคับไม่น่าได้ครับ เหมือนผู้ป่วยอุบัติเหตุอยู่ในอาการโคม่า ตัดสินใจเองไม่ได้ หมอเลยตัดสินใจรักษา จะบอกว่าหมอบังคับให้มีชีวิตอยู่มันก็จะฟังดูแปลกๆ ดังนั้นคิดว่าใช้คำว่าบังคับไม่ได้ครับ
ดังนั้นพ่อแม่ เลือก ที่จะให้เราเกิดมา โดยที่เราไม่ได้อยากเกิด น่าจะถูกต้องกว่า (ถ้าบังคับคือลูกไม่อยากเกิด แต่ตอนนั้นลูกยังไม่เกิด มีความรู้สึกไม่อยากไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่การบังคับ, ไม่อยากเกิด คนละอันกับ ไม่ได้อยากเกิด)
ของผมก็เป็นเรื่องธรรมดาๆอย่าง คนในครอบครัวเกิดก่อน แต่สิ่งที่พูดไม่มีความรู้ในเนื้อหาที่พูดออกมาไร้แก่นสาร แต่ใช้คำว่า"เกิดก่อน"เป็นข้ออ้าง ทำให้ผมคิดได้ว่าการที่คนเราเกิดก่อนหลังไม่ได้สำคัญเสมอไปแต่การให้คุณค่ากับทุกความเห็นนั้นสำคัญที่สุด เพราะทุกความเห็นก็คือปัญหาที่พวกเขาเห็น
เข้าวัด ไหว้พระ ทำบุญ สวดมนต์ ชีวิตจะได้เจริญรุ่งเรื่อง....... โดนแม่บังคับเข้าวัดทุกสัปดาห์
เลยถามแม่ว่า งั้นผมจะเข้าวัดสัปดาห์ละ 7 วัน อย่างอื่นไม่ต้องทำ ชีวิตจะได้เจริญติด speed เลยมั้ย???
ป.ล.ฝากทีมงานไม่ใช้เสียงเพลง bg นี้ครับ หลอนว่ามีคนกดกริ่งบ้านตลอดทั้งคลิปเลย
พี่ภาคิน ใช่ช่อง Gufunnarak มั้ยครับ
สนุกมากกก อย่าเลิกทำนะครับ
ตรรกะบ้งล่าสุดที่เจอก็คือ ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์เยอะจะเป็นมะเร็งปากมดลูกเป็นการบ้งเชิงรูปแบบ
เพราะความเป็นจริงแล้ว การเป็นมะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อ hpv การมี เพศสัมพันธ์กับคนหลายคน เป็นแค่การเพิ่มโอกาสที่จะติด hpv ไม่ว่าจะเคยมีเพศสัมพันธ์แค่คนเดียว หรือว่ามีมาหลายคน ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ถ้าติดเชื้อ hpv
ถ้าหลายคนก็มีโอกาศมากกว่าก็จริงนะครับ ถ้าหากเชื้ออาจเข้าสู่ร่างกายได้ทางเพศสัมพันธ์ มันเหมือนกับที่เราไม่ใช้แปรงสีฟัน ร่วมกับคนอื่น
@@rit2025 สวัสดีเจอกันอีกแล้ว 😂
@@rit2025ตรรกะบ้งคือแค่โอกาส แต่ไม่ใช่มาอ้างว่าทำเยอะต้องเป็น
ด้านบนคือเขาเหมารวม ไม่มีคำว่าโอกาศ
@@เทพพยากรณ์-อ8ฟ ก็นั้นและมันไม่มีคำว่าอาจจะ มันจึงบ้ง
@@fayrexek2091 ผมว่ามันละไว้ในฐานที่เข้าใจ ไม่งั้นเราจะต้องใส่ค่ำว่า "อาจจะ" หรือ "น่าจะ" ไว้ในแทบทุกประโยคที่เราพูด
แล้วเราจะตรรกะบ้งไหมถ้าเชื่อในตรรกะ โดยไม่ตรวจเชคให้แน่ใจ เช่น เราจะรู้ได้ไงว่าโลกกลม เราเลือกเชื่อเลยได้ไหม แล้วแบบนี้ถ้าเราบอกคนอื่นว่าโลกกลมแน่ๆ เราผิดไหม เพราะสิ่งที่เราเชื่อตอนนี้มาจาก ผู้มีอำนาจ ผู้ความรู้ ไม่ใช่จากการวิเคราะห์เหตุและผล
แสดงว่าโลกนี้น่าจะไม่มีอะไรที่แน่นอนเลย เพราะ สิ่งที่เรารู้ ก็มาจากสิ่งที่มนุษย์เชื่อเท่านั้นใช่ไหมครับ (มนุษย์เป็นเพียงผู้มีอำนาจในการบอกว่าอันนี้คือเหตุผลรึเปล่านะ)
บ้งเชิงเนื้อหาได้ฮะ เพราะตรวจสอบได้ว่าผิด
@@showcase389 งั้นแสดงว่าตรรกะบ้ง ก็ไม่ได้แย่เสมอไป เพราะมีเนื้อหลายอย่างมากบนโลกนี้ที่ ไม่จำเป็นต้องทำตามเหตุและผล ซึ่งผลลัพท์ก็จะดี เช่น ทำตามความรู้สึกมากกว่าเหตุผล บางทีอาจจะดีกว่า
โทษทีฮะผมอ่านผิดเป็นโลกแบน 55555 @@nnnnnnnnnnnnnn9342
ผมว่า ถ้าเชื่อว่าโลกกลมนี่ยังไม่ถึงกับตรรกะบ้งนะครับ แต่ถ้าพูดว่า ผมเชื่อว่าโลกกลมเพราะเค้าบอกมา และถ้าพรุ่งนี้เค้าบอกว่าไม่กลมแล้วก็เชื่อตาม อันนี้น่าจะบ้งได้ เพราะจริงๆ โลกกลมนี่มีหลักฐานและการพิสูจน์รองรับ และต่อให้ใครไม่รู้พูดว่าโลกกลม มันก็ยังเป็นจริง ไม่เกี่ยวกับใครพูด (ยกเว้นในกลุ่ม flat earthers อาจจะไม่เชื่อ 555)
"มนุษย์ทุกคนต้องตาย" กฏข้อที่ 1. ชอบมาก
ของดี คลิปดี เนื้อหาดี
❤ เรื่องล่าสุดที่ถูกคนตรรกะบ้งกระทำคือเมื่อหลายปีมาแล้ว ทำ evaluate งานสิ้นปี โดนหัวหน้างานชาวสิงคโปร์มีตรรกะบ้งใส่ เราก็ให้เขา argument มาว่าที่ว่าทำงานไม่ดีคืออะไรบ้าง ขอเนื้อๆ ไม่เอาน้ำ (เราทำงานที่นี่มาเกือบ 10 ปี หัวหน้าเป็น expat เปลี่ยนทุก 2-3 ปี ไม่เคยมี ปห) นางบอกไม่ได้ (นางเพิ่งมาทำงานที่ไทยแค่ 1 ปี) มีแต่อารมณ์ แล้วนางก็วิ่งไปฟ้อง gm hr คนไทย (ทำงานที่นี่แค่ 2 ปี) ที่ตรรกะบ้งอีกเพราะอยากเอาใจ gm ด้วยกันเอง เลยรุมแกล้งเราจนอยู่ไม่ได้
เรื่องมาเฉลยหลังจากเราออกมาแล้วคือ conspiracy นี่เอง hr gm อยากได้ผู้ช่วยคนใหม่ (รับต่อมาจาก hr คนก่อน ไม่ได้เลือกเอง เลยไม่ชอบใจ) แต่ไม่กล้าเอาคนตัวเองออกเอง กลัวคนอื่นว่าไม่ดี ต้องหาเหยื่อสักคน พอตำแหน่งเราว่างก็เอามาเสียบแทน แล้วนางหาผู้ช่วยใหม่ที่อยากได้สมใจ
หลังจากนั้น 2 เดือน หัวหน้า (เลว) โดน md คนฝรั่งเศส evaluate งานบ้าง ไม่รอด เคมีไม่ตรงกัน เลยโดนให้ย้ายกลับไปออฟฟิศเก่าที่ออสเตรเลีย (ที่ๆ มาก่อนไทย) ทำงานที่ไทยต่อไม่ได้เพราะคนในทีมไม่ยอมรับ ไม่ชอบวิธีการทำงาน ตรรกะ mindset, attitude ของนางไปไม่ได้กับ md และทีมไทย ลูกค้าคนไทย เช่นไม่เชื่อเรื่อง work life balance ทั้งที่ บ. มีนโยบาย happy friday ให้เลิกงานเร็ว ทำถึงแค่ 4 โมงเย็นพอเพื่อให้ พนง. ได้ไปทำอะไรที่ชอบหรือคนที่กลับ ตจว ได้ไปพบครอบครัว แต่นางแกล้งทีมโดยให้งานเช้าวัน ศ. จะเอา ศ. บ่ายนั้นเลย แต่นางหนีกลับบ้านไปก่อน ให้ส่งงานทางเมล์ หรือเรียกประชุมบ่าย 3 แล้วก็ไหลไปจนถึง 6 โมงเย็นเหมือนเลิกงานตามเวลาปกติ
หลังจากนั้นไม่ถึงปี hr gm ก็โดน md เฉด หัวไปเช่นกัน กรรมสนอง เพราะพบว่า hr gm เจ้ายศเจ้าอย่างแบบไทยจ๋ามากเกินไป ไม่มีผลงานเด่นชัดอะไร ใครประจบก็ได้ดี เล่นพวก
ตอนแรกเราเครียดถามตัวเองตลอดว่าเราไม่ดียังไง ทำไมโดนกระทำแบบนี้ ทำไมเจอคนตรรกะบ้งๆ เอามาปนในเรื่องงานและส่วนตัวแบบนี้ ทำชีวิตคนอื่นเกือบพัง แต่พอเห็นว่า 2 คนนี้เจออะไรบ้าง ก็เลยได้คำตอบว่าเราปกติแต่โดนแกล้ง ก็ปล่อยวางได้
ที่ทำงานเก่าชวนกลับไปทำงานด้วยกันอีก แต่เราเดินหน้าต่อ ไม่กลับ โชคดีที่งานใหม่และหัวหน้างานใหม่เราดีมากกว่าเดิมอีก happy ไปเลย ❤
วันนี้ที่เจอ แบบสดๆเลยคือการ กินหลัง หกโมง หรือ 1 ทุ่ม จะไม่อ้วน ….. ค่ะ
ชอบรายการมากค่ะ ทำไปเรื่อยๆนะคะ❤ สำหรับตรรกะบ้งที่เจอ>>>ทหารเท่านั้นที่จะทำให้บ้านเมืองสงบ (ชีวิตอาจจะต้องการความเจริญมากกว่าความสงบ)
-หนีภาษีเพราะจ่ายไปรัฐก็เข้าไปใช้อะไรไม่รู้ (ได้ด้วยเหรอ)
-เราทำได้คุณก็ทำได้ (ทำได้งั้นทำเองเลยจ้า)
-ที่นอกใจเธอก็เพราะเธอไม่ดีเองไงเล่า(classic!)
-ผญพวกนี้เต้นเพราะอยากโดน yet (อันนี้ได้ยินกับหู ทำให้ได้รู้จริงๆว่า ตรรกะบ้งไม่มีความสพกับการศึกษา-จริงๆก็รู้นานแล้ว แต่ครั้งนี้เจอตัวอย่างจึ้งๆ)
-ที่ชั้น(คนพูดเป็นผช)ตบตีเธอ(ผญ)เพราะสิ่งที่เธอทำมันสมควรแล้ว (?)(?)(?)
-ใช้ชีวิตด้วยเงินเดือน 15,000 ไม่ยาก เธอกินของแพงเองหรือเปล่า กาแฟแก้วละ100ไม่ต้องกินก็ได้มั้ง(ห๊าาาา?)
-เป็นผญควรล้างจานสิ (ห๊าาาาา???? แล้วผชกินแร้วไม่ต้องล้างเหรอค้า)
-ที่จนนี่เป็นเพราะขี้เกียจเองหรือเปล่า (แนะนำอ่านหนังสือเศรษฐศาสตร์คนจนจ้า)
-คนอื่นผิดโวยวายฟูมฟายแหกปากด่าเค้า แต่ตัวเองผิดบอก”โลกคงไม่ถึงกับแตก“
-“วัคซีนที่ดีคือวัคซีนที่มี”
และอีกมากมาย แต่เท่านี้ก่อนค่ะ5555
😂
การที่เราเชื่อนักวิชาการหรือคุณหมอ ถือว่าบ้งไหมครับ ถ้าเราถูกบังคับให้ทำอะไรสักอย่างแต่เราไม่มีความรู้ด้านนั้นโดยสิ้นเชิง
หมอหรือนักวิชาการไม่จำเป็นต้องถูก 100%
ฟังๆแต่ต้อวตรวจอีกที
เราสามารถที่จะพิสูจน์ในสิ่งที่เขาพูดได้ ยิ่งยุคนี้มี ai ยิ่งง่าย
ม.6 เคยงัด research เถียงหมอเรื่องวัคซีนก็เคยมีมาแล้ว
มนุษย์ทุกคนพลาดได้
@@GGcxvw558 เข้าใจแล้ว เป็นประสบการณ์ ไม่ใช่กฏ เปลี่ยนไปใช้คำว่ามีโอกาสสูง
ไม่เชื่อเป็นสิทธิ์ แค่ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง
การวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าจะสุจริตหรือไม่ ไม่ว่าจะอ้างอิงอยู่บนข้อเท็จจริงหรือไม่ ย่อมจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย
ขอบคุณทั้งสองท่านค่ะ สนุกจังเลย รอตอนต่อไปนะคะ ❤
คุณภาคิน แจงได้สนุกมาก สมัครเป็น fc การอ้างว่า จริง สุดๆ
หยิบเหตุผล ความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงตรรกกะใด ๆ ตามต้นทุนที่ทุกคนมีอยู่
เพื่อ "อุดช่องว่าง" ใด ๆ กับปัญหานั้น ๆ
หาพื้นที่เพื่อวางความรู้ที่ตนกำไว้ให้กึ่งกลางของช่องว่างนั้น แล้วปล่อยให้เวลาพาคนรุ่นต่อไป มาตัดสินอีกที
เคยเจอคนไม่เชื่อสิ่งที่เราพูดเพราะรู้ว่าเรียนจบมหาลัยไม่ดังค่ะ 😅 ทั้งๆที่ควรจะดูเนื้อหา หรือเนื้องาน แต่เขาเอามหาลัยที่จบมากำหนดความถูกผิด
เหมือนเรื่องม็อบชานมไต้หวันnของม็อบ 3 นิ้วและเยาวชน และ ชานมไทยก้าวหน่านะแหละครับ นี่คือประเด็น Straw Man Fallacy ที่ผมยังสงสัยอยู่เลย ซึ่งตัวผมเองมีแนวคิดรัฐนิยมและชาตินิยม Soft Power ในใจผมและมวลชนผู้รักชาติในนามการปฏิวัติวัฒนธรรมไทยครับ
เห็น สังคมคนดีว์ ชอบแชร์ ประโยค " คนดี สำคัญกว่าทุกสิ่ง " ... ผมล่ะเพลีย
เราจะตัดสินว่า ข้อเสนอของญาติผู้ใหญ่ในกรุ๊ปไลน์ ("เลี้ยงลูกให้เป็นคนดี แล้วลูกจะกลับมาเลี้ยงดูเราตอนแก่") เป็นข้อเสนอที่บ้งยังไงหรอครับ พี่แค่รู้สึกไปเองรึเปล่าไหม มันฟังดูบ้ง เพราะพี่ตั้งแง่ไปเองต่างหากครับ ผมเองก็หงุดหงิดอยู่บ่อยๆ ตอนพ่อของผมยกสัจพจน์ (ที่ใครๆ ก็ได้ยินจนคุ้นหู) มาสั่งสอน
ถ้าเราประเมินข้อเสนอนี้อย่างไม่ตั้งแง่จนเกินไป มันก็ฟังดูสมเหตุสมผลดีหนิครับ (ทั้งในเชิงรูปแบบหรือเนื้อหาเลย)
ในเชิงรูปแบบ คงไม่มีอะไรให้ต้องถกเถียง ข้อเสนอของผู้ใหญ่ถูกต้องตามรูปแบบเป๊ะๆ
ส่วนในเชิงเนื้อหา ความสัมพันธ์ระหว่าง "ความเป็นคนดี" กับ "การรู้คุณคน" ก็ไม่ได้บ้งหนิครับ (ถ้าพี่จะอ้างว่า คนดีในบางวัฒนธรรมไม่จำเป็นต้องเป็นคนรู้คุณคน พี่ลองเสนอตัวอย่างมาแย้งให้ดูหน่อยครับ)
*อดีตเจ้าชายสิทธัตถะเคยกล่าวเอาไว้ว่า ความกตัญญูคือเครื่องหมายของการเป็นคนดี (คุณสมบัติของการเป็นคนดีคือการเป็นคนที่รู้คุณคน)
ผมเชื่อว่า กฏที่ข้อเสนอนี้อ้างถึงมีอยู่จริง เช่นเดียวกับกฎที่บอกว่า ความยึดมั่นถือมั่นเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ("ปล่อยวางเถอะลูก หนูจะได้ไม่เครียด")
@@abhisitkhaopong1769 ข้อเสนอบอกว่า "เลี้ยงลูกให้ดี" ไม่ได้เสนอว่า "เลี้ยงลูกให้เป็นคนดี" จึงอธิบายด้วยคุณสมบัติคนดี(ต้องกตัญญู)ไม่ได้ ถ้าจะบ้งก็บ้งตรงนี้ล่ะ แต่อย่างไรก็ตาม ผมเห็นด้วยว่า เลี้ยงลูกให้ดี แล้วลูกจะกลับมาเลี้ยงเรา ไม่ได้บ้งอะไร มันเป็นไปได้ค่อนข้างมากถ้าคำว่าดี หมายถึงการเลี้ยงลูกให้รักเคารพและเชื่อว่าพ่อแม่มีบุญคุณ โดยไม่ต้องไปเกี่ยวอะไรกับการเป็นคนดี(ในสังคม) เพราะมีโจรผู้ร้าย นักค้ายา นักฆ่า นักล่วงละเมิดทางเพศ คนขี้ฉ้อ ข้าราชการคอรับชั่น ฯลฯ ที่มีความกตัญญูต่อพ่อแม่ และเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่เฒ่า
เขาเพิ่งจะบอกอยู่หยกๆ ว่า อย่าให้เหตุผลด้วยการยกชื่อคนมาเป็นข้ออ้าง มันจะบ้ง และผู้ที่ห้ามทำแบบนี้ก็คือพระพุทธองค์เองนั่นแหละ ทรงสอนไว้ใน กาลามสูตร
สปอนเซอร์ CPee ต้องเข้าแล้ว 555
16:51 "... หุ่นฟางของฟาง" ฟังดูปรัชญาสุดๆเลย ;" ]
เราจะตัดสินว่า ข้อเสนอของญาติผู้ใหญ่ในกรุ๊ปไลน์ ("เลี้ยงลูกให้เป็นคนดี แล้วลูกจะกลับมาเลี้ยงดูเราตอนแก่") เป็นข้อเสนอที่บ้งยังไงหรอครับ พี่แค่รู้สึกไปเองรึเปล่าไหม มันฟังดูบ้ง เพราะพี่ตั้งแง่ไปเองต่างหากครับ ผมเองก็หงุดหงิดอยู่บ่อยๆ ตอนพ่อของผมยกสัจพจน์ (ที่ใครๆ ก็ได้ยินจนคุ้นหู) มาสั่งสอน
ถ้าเราประเมินข้อเสนอนี้อย่างไม่ตั้งแง่จนเกินไป มันก็ฟังดูสมเหตุสมผลดีหนิครับ (ทั้งในเชิงรูปแบบหรือเนื้อหาเลย)
ในเชิงรูปแบบ คงไม่มีอะไรให้ต้องถกเถียง ข้อเสนอของผู้ใหญ่ถูกต้องตามรูปแบบเป๊ะๆ
ส่วนในเชิงเนื้อหา ความสัมพันธ์ระหว่าง "ความเป็นคนดี" กับ "การรู้คุณคน" ก็ไม่ได้บ้งหนิครับ (ถ้าพี่จะอ้างว่า คนดีในบางวัฒนธรรมไม่จำเป็นต้องเป็นคนรู้คุณคน พี่ลองเสนอตัวอย่างมาแย้งให้ดูหน่อยครับ)
*อดีตเจ้าชายสิทธัตถะเคยกล่าวเอาไว้ว่า ความกตัญญูคือเครื่องหมายของการเป็นคนดี (คุณสมบัติของการเป็นคนดีคือการเป็นคนที่รู้คุณคน)
ผมเชื่อว่า กฏที่ข้อเสนอนี้อ้างถึงมีอยู่จริง เช่นเดียวกับกฎที่บอกว่า ความยึดมั่นถือมั่นเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ("ปล่อยวางเถอะลูก หนูจะได้ไม่เครียด")
ผมคิดว่ามันไม่ได้เกิดจากการตั้งแง่ครับ
แค่ประโยคมันไม่ครบ มันก็เลยพาบ้งเฉยๆ
มันแค่ขาดคำว่า “มีโอกาสที่ลูกจะ….” แค่นั้นเอง
ใจความของการบ้งเชิงรูปแบบคือ การที่เราให้เหตุในสิ่งที่ไม่ใช่กฎ แล้วเราบอกผลในลักษณะกฎ
เช่น
การที่เราเห็นคนในเฟส ใช้พื้นหลังสีเหลือง แล้วเราไปด่าเค้าว่าสลิ่ม อันนี้บ้ง
หรือการที่เราเห็นคนในเฟส ใช้พื้นหลังสีส้ม แล้วเราไปด่าเค้าว่าสามกีบ อันนี้ก็บ้งเช่นกัน
ประมาณนี้ครับ ตามที่ผมเข้าใจ
ข้อเสนอบอกว่า "เลี้ยงลูกให้ดี" ไม่ได้เสนอว่า "เลี้ยงลูกให้เป็นคนดี" จึงอธิบายด้วยคุณสมบัติคนดี(ต้องกตัญญู)ไม่ได้ ถ้าจะบ้งก็บ้งตรงนี้ล่ะ แต่อย่างไรก็ตาม ผมเห็นด้วยว่า เลี้ยงลูกให้ดี แล้วลูกจะกลับมาเลี้ยงเรา ไม่ได้บ้งอะไร มันเป็นไปได้ค่อนข้างมากถ้าคำว่าดี หมายถึงการเลี้ยงลูกให้รักเคารพและเชื่อว่าพ่อแม่มีบุญคุณ โดยไม่ต้องไปเกี่ยวอะไรกับการเป็นคนดี(ในสังคม) เพราะมีโจรผู้ร้าย นักค้ายา นักฆ่า นักล่วงละเมิดทางเพศ คนขี้ฉ้อ ข้าราชการคอรับชั่น ฯลฯ ที่มีความกตัญญูต่อพ่อแม่ และเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่เฒ่า
เขาเพิ่งจะบอกอยู่หยกๆ ว่า อย่าให้เหตุผลด้วยการยกชื่อคนมาเป็นข้ออ้าง มันจะบ้ง และผู้ที่ห้ามทำแบบนี้ก็คือพระพุทธองค์เองนั่นแหละ ทรงสอนไว้ใน กาลามสูตร
ในวันแจ้งผลประเมืนการทำงานปีหนึีงในอดีต
“ปีนี้ พี่ให้เกรด“ปานกลาง” เพราะพี่จะต้องให้เกรด ”ดี“ (Good) อีกคนหนึ่ง (บอกชื่อมาด้วย) ที่เผฃป็นเช่นนั้นก็เพราะพี่ตั้งใจจะเลื่อนขั้นคนนั้นในปีถัดไป ซึ่งถ้าคนนั้นไม่ได้เกรด ”ดี“ ในปีนี้ ปีหน้าพี่ก็จะ ไม่สามารถเลื่อนขั้นคนนั้นได้”
สวรรค์ 40องศา บ้งมั้ยครับ
เคยเจอแบบ รีบๆมีลูกจะได้มีลูุกไว้ใช้
จนทำให้คิดว่าตกลง การมีลูกเพราะความรัก
หรือการมีลูกเพราะมันมีประโยชน์ในการใช้สอย
ผมว่าคุณตีความหมายคำว่า "ใช้" ผิด
18:00 น้องฟามถามได้จี๊ดมาก
เห็นด้วยๆ
ตรรกะบ้งแห่งทศวรรษก็ “เค้าเป็นสมมุติเทพฯ” นึ่แหละครับ
อันนี้ดีมากกกกก ทำไมไม่แมส ถ้าแมส common sense will become common again. With high possibility 😉
เท่านี้ก็แมสกว่าที่คิดทีแรกพอสมควรแล้วครับ 55555 ขอบคุณมากครับ
ลูกฉันเป็นคนดี เค้าไม่ทำหรอกค่า
อันนี้ก็ใช้ได้😅
แล้วแม่ที่ไหนจะบอกว่าลูกตนเองเลวละ55
ขอบคุณครับบ
รองเท้าน้องผญ รุ่นอะไรอะ
เนื่องจากผมเรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจเอกการเงิน แล้วเจออาจารย์การเงินที่ดีมากๆ สอนให้พร้อมออกมาทำงานจริง เป็นอาจารย์ที่ดีที่สุดในชีวิต
พอได้ยินคนพูดว่า "ถ้าเขาลงทุนเก่ง เขาคงไม่มานั่งเป็นอาจารย์สอนเราหรอก อย่าไปเรียนสายการเงินเลย"
แต่มันไม่ได้มีกฎว่าคนที่เรียนเก่งจะไม่มาเป็นอาจารย์สอนการเงินนี่นาา
Fallacy เป็นวิชาวิชาหนึ่ง
.." ละเมิดสิทธิ์คนอื่น ไม่บาป เพราะใคร ๆ ก็ทำกัน. ( ว. วัชระเมธี ) 😂😅😊
ชอบสระอิ 😊
ฟังจากการอธิบาย มันคือหลักพีชคณิตไหมครับ
ผมไม่ค่อยมีความรู้ว่าหลักพีชคณิตหมายถึงยังไงนะครับ แต่พอตอบได้ว่า ในระดับหนึ่ง มันคือสิ่งเดียวกับตรรกศาสตร์ที่คนเรียนเลขต้องเรียนเลยครับ คนเรียนตรรกศาสตร์ในทางปรัชญานี่คือแทบจะเป็นการเรียนวิธีคิดแบบคณิตศาสตร์ เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ และเป็นระบบกว่าที่ผมอธิบายเยอะเลย เพียงแต่ไม่แน่ใจว่ามันเป็นสิ่งเดียวกับพีชคณิตไหมนะครับ
ตรรกะบ้งที่เคยเจอแล้วแย่มาก คือ ไม่ต้องรอจนพร้อมแล้วค่อยมีลูก แต่ถ้ามีลูกเดี๋ยวจะพร้อมเอง
อดีตคงไม่ใครขายลูกเป็นทาส
บางครั้งมันถูกนะ เพราะ บางทีเราจะไม่เคยพร้อมเลย หรือจะพร้อมก็สายไปแล้ว. เขาไม่เรียกตรรกะนะ เข้าเรียน คำสอน จากคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน. .. just go for it because you ll never feel ready. มันก็เหมืนคำให้กำลังใจให้เรากล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ. ถ้าเรารู้สึกไม่พร้อมจริงๆ ก็อย่าไปเครียด . ได้อย่างก็ต้องเสียอีกอย่าง .
ล่าสุดเจอมาว่า "ถ้าไม่มีคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่จากได้เกิดมาปากดีแบบนี้ไหม" คือผมตั้งคำถามเรื่องว่าน้ำมนตร์เป็นเดรัจผฉานวิชา แต่คนที่ผมไปตั้งคำถามเขา แก่กว่า และเชื่อว่าถ้าไม่ดีจริงเขาจะทำกันมานานหรอ😂
หาอ่านเพิ่มเติมจากไหนดีครับ
ถ้าสนใจเฉพาะเรื่องตรรกะวิบัติ อยากเชียร์หนังสือเรื่อง "เถียงแบบนี้มีแต่ฉิบหาย" ของคุณกิตติศักดิ์ โถวสมบัติครับ รวบรวม logical fallacies ในทางปรัชญาไว้หลากหลายมาก แต่ช่องทางสั่งซื้อน่าจะต้องผ่านเพจเฟซบุ๊คของเขาครับ ชื่อ 'The Wissensdurst'
แต่ถ้าสนใจตรรกะและการให้เหตุผลในเชิงปรัชญาที่อ่านง่ายหน่อย ผมเชียร์ 'Think Again' ของ Walter Sinnott-Armstrong ครับ เข้าใจว่าฉบับภาษาไทย สนพ บุ๊คสเคปน่าจะแปลอยู่ เร็วๆ นี้น่าจะออกมาครับ
Thanks!
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจ ทีมงานจะพัฒนาคุณภาพของเนื้อหาและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีต่อไปค่ะ 💜
อยากเสริม ลองฝึกตั้งคำถาม what if สมมุติถ้า..... ลองใส่ตรรกะ เหตุผลของเราลงไป แล้วลองฟัง เหตุผลที่นำเสนอ ตอบโต้กับเรา ถ้าตอบมา ความคิดเห็นอาจะขัดแย้งกันได้ แต่แตกต่าง หรือขัดไปจากความเป็นจริง ที่เป็นสัจจธรรม แปลว่า บ้ง
การอ้างว่าสิ่งที่เรารู้มันจริงกว่า เพียงเพราะเราแก่กว่า มันไม่ได้น่าสงสัยครับ แต่มันน่าอดสู
ตรรกะบ้งที่สุดของที่สุด ที่เคยได้ยินมา ความว่างเปล่าให้กำเนิดสรรพสิ่ง Things from Nothing
ผมกำลังสนใจ ปรัชญา อยู่พอดี ขอบคุณมากครับ
ขอเรื่อง วาทกรรม ครับ
รายการเเทนที่ใดๆในโรคล้วนฟิสิกต์ เเทนที่จะหาคนใหม่มาทำเเทน