ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ช่องนี้รีแอคแบบอึดอัด จริงๆถ้ามององค์ประกอบรวม จะมีความอินนิดนึงแหละ แต่นี้จ้องจะจับอันใดอันนึงมันเลยมีข้อติเยอะ ทั้งๆที่ภาพรวมคือดีมากๆเลย
ใจเย่นๆเค้าแค่นักรีแอ็ค
ถ้าพี่ๆตั้งใจฟังแบบใส่อารมณ์นิดหนึ่ง ทั้งดนตรีนักร้องแดนเซอร์ ก็ลงจังหวะตามกันหมดอาจจะเข้าใจหรืออินในระดับหนึ่งได้ แต่เท่าที่ดูเหมือนฟังแบบเน้นไปจุดใดจุดหนึ่งเลยทั้ง3ทีม ผมดูเลยรุสึกอึดอัดไปหน่อย..แต่ก็อาจเป็นสไตล์แบบพี่ๆก็ได้
ฟังไม่ได้ศัพท์จับความไม่ได้เอง สักแต่จะตำหนิ
เป็นช่องที่ดูแร้วอึดอัดเจ้าของช่องไปหมด น่าจะทำความเข้าใจให้ลึกๆมากกว่านี้เด็กๆรร.สังขะ เก่งกันมากจิงๆทำโชว์ออกมาดีมากๆ ติยุ๋นั่นอะไรไม่รุ้งง
ตำนานคือ แม่ดื่มน้ำรอยเท้าช้าง แล้วตั้งท้อง คลอดออกมา นางเลยไปตามหาพ่อช้างเผือกในป่า เลยได้เสี่ยงทายด้วยพวงมาลัยค่ะ
นิทานเรื่องนางผมหอมนี้ มีการเล่าตามท้องถิ่นต่าง ๆ ในท้องถิ่นไทยเลย ในท้องถิ่นตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ มีการเล่าสืบทอดกันมาเช่นกัน และมีหลักฐานข้อสันนิษฐานยืนยันว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นที่น่าเชื่อถือได้ ดังที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงยากจนคนหนึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านทุก ๆ วันนางจะออกไปขุดเผือกขุดมันในป่าอยู่มาวันหนึ่ง นางไปขุดเผือกขุดมันกับเพื่อน ๆ ๔-๕ คน ทุกคนเตรียมน้ำดื่มใส่กระบอกไม้ไผ่ไปด้วย เมื่อขุดเผือกขุดมันได้มากก็เตรียมตัวจะกลับบ้าน ขณะนั้นท้องฟ้ามืดครึ้มฝนทำท่าจะตก นางจึงเทน้ำในกระบอกทิ้งเพื่อจะรองเอาน้ำฝนมาดื่ม แต่ฝนกลับไม่ตก ขณะเดินทางกลับนางหิวน้ำมาก ขอน้ำเพื่อบ้านดื่มเขาก็ไม่ให้ นางจึงเดินหาน้ำไปเรื่อย ๆ พอดีไปพบน้ำปัสสาวะของช้างเผือก ด้วยความกระหายจึงก้มลงวักน้ำดื่มอย่างรวดเร็วต่อมาไม่นานนัก นางก็ตั้งครรภ์แล้วคลอดลูกเป็นผู้หญิง เมื่อเด็กหญิงโตขึ้นก็ไปเล่นกับเพื่อนบ้าน เพื่อน ๆ ล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ เย็นวันหนึ่ง ลูกสาวร้องไห้วิ่งกลับบ้านมาถามแม่ว่า “ทำไมเพื่อนล้อว่าข้าไม่มีพ่อ พ่อของข้าเป็นใคร” ลูกสาวถามอย่างนี้วันละหลายครั้ง ฝ่ายแม่ทนรบเร้าไม่ได้จึงบอกลูกสาวว่า “พ่อของเจ้าคือพญาช้างเผือก” วันหนึ่ง ลูกสาวแอบหนีแม่ไปตามหาพ่อ เมื่อเดินทางเข้าไปในป่าไม่นานนักก็เจอวัวป่าเด็กหญิงจึงถามวัวป่าว่า “พบพ่อข้าไหม” “พ่อของเจ้าเป็นใคร” วัวป่าถาม “พ่อของข้าเป็นพญาช้างเผือก” เด็กหญิงตอบตามคำบอกเล่าของแม่ “ไปไกล ๆ ข้าไม่รู้เดี๋ยวขวิดไส้ทะลักเลือดหยดหนึ่งก็ไม่ให้ตกถึงดินนะ” วัวป่าไล่เด็กหญิงให้หนี เด็กหญิงเดินทางต่อไปอีกไม่ไกลนักก็พบกับควายป่า “เห็นพ่อของข้ามาทางนี้ไหม” เด็กหญิงเอ่ยถามควาย หวังจะได้รับคำตอบที่พอใจ แต่แล้วก็ได้รับการไล่ตะเพิดหนีอีกครั้ง เด็กหญิงเดินคอตก หนีควายป่าไปพบกับช้างป่า แล้วก็ถามคำถามเดิม
และได้คำคำตอบจากช้างป่าว่า พ่ออยู่ในป่าลึกอีกด้านหนึ่งแม้กระนั้นก็ตามเด็กหญิงก็ไม่ท้อใจคงดั้นด้น เดินเข้าไปในป่าลึก ต่อมาไม่นานนักจึงได้พบพญาช้างเผือกสมดังใจปรารถนา แต่ก็ไม่แน่ใจนักว่าพญาช้างเผือกนั้นคือพ่อของตน จึงใช้คำถามเดิมถามพญาช้างเผือกว่า “เห็นพ่อของข้าไหม” “พ่อของเจ้าเป็นใคร” พญาช้างเผือกถามอย่างสนใจ “พ่อของข้าเป็นพญาช้างเผือกอาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้” เด็กหญิงตอบพร้อมจ้องมองหน้าพญาช้างเผือก “เออ ถ้าเจ้าเป็นลูกของข้าจริงให้ขึ้นขี่คอข้า ถ้าข้าสะบัดหลุดแสดงว่าไม่ใช่ลูกของข้า หากไม่หลุดแสดงว่าเป็นลูกของข้า ถ้าผลการพิสูจน์ปรากฏว่าเป็นลูกของข้าจริงข้าจะพาเจ้าไปอยู่ในปราสาท” เมื่อพญาช้างเผือกสร้างเงื่อนไข และให้สัญญาอย่างนี้แล้ว พลันก็ให้เด็กหญิงขึ้นขี่คอแล้วสะบัดอย่างแรง เด็กหญิงไม่หลุดตกจากคอช้างแต่อย่างใด พญาช้างเผือก จึงพาลูกสาวไปอยู่ปราสาทกลางป่าลึก ส่วนอาหารการกิน พญาช้างเผือกได้ เก็บผลไม้ป่ามาให้ลูกกินทุกวัน กาลต่อมาลูกสาวพญาช้างเผือกเติบโตเป็นสาวสวยสะพรั่งตา มีผมยาวสลวย วันหนึ่งพญาช้างเผือกกลับมาจากเก็บผลไม้และดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมนานาพรรณ แล้วเรียกลูกสาวพร้อมกับกล่าวว่า “เนียงต็วลสัตรา ตำเลียะเซาะ โมเอิวอ็อบปกาออย” “นางตวลสัตรา ปล่อยผมมาพ่อจะอบดอกไม้ให้ลูก” พญาช้างเผือกจะอบผมให้ลูกสาวทุก ๆ วันจนผมของนางมีกลิ่นหมอตลบอบอวลไปไกล พ่อจึงตั้งชื่อลูกสาวว่า “นางผมหอม” อยู่มาวันหนึ่งมีข่าวเล่าลือว่า มีพญาช้างเผือกเชือกหนึ่งอาศัยอยู่ในปราสาท กลางป่าลึกกับลูกสาวคนหนึ่งซึ่งนางนั้นมีผมหอม เป็นที่ร่ำลือของชาวบ้านที่ออกไปหาของป่าและได้พบนางกลางป่าลึก พญาช้างเผือกหวงลูกสาวมาก จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ปราสาทแห่งนั้น ข่าวลือได้ยินถึงเจ้าชายแห่งเมือง “เทวานิเวศ” วันต่อมาเจ้าชายเสด็จประพาสป่า และแอบทอดพระเนตรอยู่ห่าง ๆ ปราสาท เพื่อพิสูจน์ข่าวลือนั้นเป็นจริงแท้ประการใด สักครู่พญาช้างเผือกก็นำผลไม้มาให้ลูกสาวกิน และนำดอกไม้หอมมาอบผมให้ ส่วนเจ้าชายทอดพระเนตรเห็นเช่นนั้นแล้วจึงตรัสให้ทหารไปแอบฟังว่า พญาช้างเผือกจะพูดกับลูกสาวว่าอย่างไรบ้าง เพื่อจะจำมากราบทูลให้พระองค์ตรัสถาม พญาช้างเผือกได้ทำหน้าที่ของตนเสร็จแล้วก็ออกป่า เจ้าชายจึงสวมรอบเป็นพญาช้างเผือกเรียกนางผอมหอม โดยเลียนเสียงและคำพูดของพญาช้างเผือก ทันทีที่ตรัสจบนางก็ปล่อยผมยาวสยายออกมา เจ้าชายจึงดึงผมของนางไว้ และตรัสให้เปิดประตูปราสาท นางก็ยอมเปิดให้โดยดี เมื่อก้าวพ้นออกมาจากประตูแทนที่จะได้พบพ่อเช่นเคย แต่ต้องพบผู้ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ทำให้เกิดอาการพิศวง งง งวย เล็กน้อย เมื่อทั้งสองพูดคุยกันจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว นางก็มีจิตพิสมัยต่อเจ้าชายเช่นกัน เจ้าชายทรงพานางผมหอมเข้าไปอยู่ในเมืองด้วยกัน กล่าวถึงพญาช้างเผือก เมื่อกลับมาจากเก็บดอกไม้ผลไม้ ตามปกติก็เรียกลูกสาวให้ออกมารับ แต่ก็เงียบกริบ จึงตัดสินใจพังประตูปราสาทเข้าไป แต่หาพบนางไม่ พญาช้างเผือกเศร้าสลดเสียใจมาก เกิดอาการคลุ้มคลั่งวิ่งชนบ้านเรือนและต้นไม้ล้มระเนระนาด ข่าวพญาช้างเผือกอาละวาดครั้งใหญ่ ทราบไปถึงเจ้าชายและนางผมหอม นางสงสารพ่อ จึงขอร้องให้เจ้าชายพาไปพบพ่อ และเชิญพ่อเข้ามาอยู่ในเมืองด้วยกัน พญาช้างเผือกมีความปิติยินดีอย่างยิ่ง จึงตกลงไปอยู่กับลูกสาวและเป็นช้างคู่บารมีของเจ้าชายตลอดไป
❤❤❤สังขะสุดยอดคะ🥰🥰
เครื่องประดับชุดผ้านุ่งทั้งตัวแตงโมหกแสนเครื่องเงินทำมือของดีเมืองสุรินทร์
ขอแสดงความยินดีกับ รร.สังขะ ด้วยนะครับ ประจักษ์สมมง
สโลไม่ได้แม่ เวลาแปะสุดๆ 12 นาที สังขะ
จริงค่ะ
จริงค่ะ มันสโลไม่ได้ตำนานจริงเรื่องมันยาวมากเล่าได้ขนาดนี้คือเก่งมาก
จริงค่ะ เล่าได้ขนาดนี้สุดยอดมาก
ดูเหมือนไม่ค่อยอยากรีแอ็ค งง
รีแอค แบบไม่อ่านซัพเลย เลยไม่อิน เดาไปทั่ว งง
จริง รีแอคมั่วมาก
เห็นด้วยๆ ดูแล้ว อึดอัด กับรีแอค ตั้งใจดู อ่านด้วย คนนึงเวลาพูด ต้องหันมอง อีกคนตลอด สายตาละ จาก การโชว์ แล้วจะไม่เข้าใจ
เสียงที่แหบ เพราะ แตงโม ไม่สบาย ครับ
เต็มใจรีแอคไหมคะ ดูแบบเบื่อๆง่วงๆ
ถ้าตั้งใจดู ไม่จ้องแต่จับผิดเสียงร้อง น่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ
เห็นด้วยย
พัก รีแคป ไม่อ่านซับ ตำหนิอย่างเดียว
มาแล้ว ☺
สังฃขะๆๆจ้า
ร.ร.สังขะคะ
หน้าจอแสดงน่าจะใหญ่กว่านี้ครับจะได้น่าติดตามครับ
ศึกษานารีเก่งมาก🩷
ช่องนี้รีแอคแบบอึดอัด จริงๆถ้ามององค์ประกอบรวม จะมีความอินนิดนึงแหละ แต่นี้จ้องจะจับอันใดอันนึงมันเลยมีข้อติเยอะ ทั้งๆที่ภาพรวมคือดีมากๆเลย
ใจเย่นๆเค้าแค่นักรีแอ็ค
ถ้าพี่ๆตั้งใจฟังแบบใส่อารมณ์นิดหนึ่ง ทั้งดนตรีนักร้องแดนเซอร์ ก็ลงจังหวะตามกันหมดอาจจะเข้าใจหรืออินในระดับหนึ่งได้ แต่เท่าที่ดูเหมือนฟังแบบเน้นไปจุดใดจุดหนึ่งเลยทั้ง3ทีม ผมดูเลยรุสึกอึดอัดไปหน่อย..แต่ก็อาจเป็นสไตล์แบบพี่ๆก็ได้
ฟังไม่ได้ศัพท์จับความไม่ได้เอง สักแต่จะตำหนิ
เป็นช่องที่ดูแร้วอึดอัดเจ้าของช่องไปหมด น่าจะทำความเข้าใจให้ลึกๆมากกว่านี้เด็กๆรร.สังขะ เก่งกันมากจิงๆทำโชว์ออกมาดีมากๆ ติยุ๋นั่นอะไรไม่รุ้งง
ตำนานคือ แม่ดื่มน้ำรอยเท้าช้าง แล้วตั้งท้อง คลอดออกมา นางเลยไปตามหาพ่อช้างเผือกในป่า เลยได้เสี่ยงทายด้วยพวงมาลัยค่ะ
นิทานเรื่องนางผมหอมนี้ มีการเล่าตามท้องถิ่นต่าง ๆ ในท้องถิ่นไทยเลย ในท้องถิ่นตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ มีการเล่าสืบทอดกันมาเช่นกัน และมีหลักฐานข้อสันนิษฐานยืนยันว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นที่น่าเชื่อถือได้ ดังที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงยากจนคนหนึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านทุก ๆ วันนางจะออกไปขุดเผือกขุดมันในป่าอยู่มาวันหนึ่ง นางไปขุดเผือกขุดมันกับเพื่อน ๆ ๔-๕ คน ทุกคนเตรียมน้ำดื่มใส่กระบอกไม้ไผ่ไปด้วย เมื่อขุดเผือกขุดมันได้มากก็เตรียมตัวจะกลับบ้าน ขณะนั้นท้องฟ้ามืดครึ้มฝนทำท่าจะตก นางจึงเทน้ำในกระบอกทิ้งเพื่อจะรองเอาน้ำฝนมาดื่ม แต่ฝนกลับไม่ตก ขณะเดินทางกลับนางหิวน้ำมาก ขอน้ำเพื่อบ้านดื่มเขาก็ไม่ให้ นางจึงเดินหาน้ำไปเรื่อย ๆ พอดีไปพบน้ำปัสสาวะของช้างเผือก ด้วยความกระหายจึงก้มลงวักน้ำดื่มอย่างรวดเร็วต่อมาไม่นานนัก นางก็ตั้งครรภ์แล้วคลอดลูกเป็นผู้หญิง เมื่อเด็กหญิงโตขึ้นก็ไปเล่นกับเพื่อนบ้าน เพื่อน ๆ ล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ เย็นวันหนึ่ง ลูกสาวร้องไห้วิ่งกลับบ้านมาถามแม่ว่า “ทำไมเพื่อนล้อว่าข้าไม่มีพ่อ พ่อของข้าเป็นใคร” ลูกสาวถามอย่างนี้วันละหลายครั้ง ฝ่ายแม่ทนรบเร้าไม่ได้จึงบอกลูกสาวว่า “พ่อของเจ้าคือพญาช้างเผือก” วันหนึ่ง ลูกสาวแอบหนีแม่ไปตามหาพ่อ เมื่อเดินทางเข้าไปในป่าไม่นานนักก็เจอวัวป่าเด็กหญิงจึงถามวัวป่าว่า “พบพ่อข้าไหม” “พ่อของเจ้าเป็นใคร” วัวป่าถาม “พ่อของข้าเป็นพญาช้างเผือก” เด็กหญิงตอบตามคำบอกเล่าของแม่ “ไปไกล ๆ ข้าไม่รู้เดี๋ยวขวิดไส้ทะลักเลือดหยดหนึ่งก็ไม่ให้ตกถึงดินนะ” วัวป่าไล่เด็กหญิงให้หนี เด็กหญิงเดินทางต่อไปอีกไม่ไกลนักก็พบกับควายป่า “เห็นพ่อของข้ามาทางนี้ไหม” เด็กหญิงเอ่ยถามควาย หวังจะได้รับคำตอบที่พอใจ แต่แล้วก็ได้รับการไล่ตะเพิดหนีอีกครั้ง เด็กหญิงเดินคอตก หนีควายป่าไปพบกับช้างป่า แล้วก็ถามคำถามเดิม
และได้คำคำตอบจากช้างป่าว่า พ่ออยู่ในป่าลึกอีกด้านหนึ่งแม้กระนั้นก็ตามเด็กหญิงก็ไม่ท้อใจคงดั้นด้น เดินเข้าไปในป่าลึก ต่อมาไม่นานนักจึงได้พบพญาช้างเผือกสมดังใจปรารถนา แต่ก็ไม่แน่ใจนักว่าพญาช้างเผือกนั้นคือพ่อของตน จึงใช้คำถามเดิมถามพญาช้างเผือกว่า “เห็นพ่อของข้าไหม” “พ่อของเจ้าเป็นใคร” พญาช้างเผือกถามอย่างสนใจ “พ่อของข้าเป็นพญาช้างเผือกอาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้” เด็กหญิงตอบพร้อมจ้องมองหน้าพญาช้างเผือก “เออ ถ้าเจ้าเป็นลูกของข้าจริงให้ขึ้นขี่คอข้า ถ้าข้าสะบัดหลุดแสดงว่าไม่ใช่ลูกของข้า หากไม่หลุดแสดงว่าเป็นลูกของข้า ถ้าผลการพิสูจน์ปรากฏว่าเป็นลูกของข้าจริงข้าจะพาเจ้าไปอยู่ในปราสาท” เมื่อพญาช้างเผือกสร้างเงื่อนไข และให้สัญญาอย่างนี้แล้ว พลันก็ให้เด็กหญิงขึ้นขี่คอแล้วสะบัดอย่างแรง เด็กหญิงไม่หลุดตกจากคอช้างแต่อย่างใด พญาช้างเผือก จึงพาลูกสาวไปอยู่ปราสาทกลางป่าลึก ส่วนอาหารการกิน พญาช้างเผือกได้ เก็บผลไม้ป่ามาให้ลูกกินทุกวัน กาลต่อมาลูกสาวพญาช้างเผือกเติบโตเป็นสาวสวยสะพรั่งตา มีผมยาวสลวย วันหนึ่งพญาช้างเผือกกลับมาจากเก็บผลไม้และดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมนานาพรรณ แล้วเรียกลูกสาวพร้อมกับกล่าวว่า “เนียงต็วลสัตรา ตำเลียะเซาะ โมเอิวอ็อบปกาออย” “นางตวลสัตรา ปล่อยผมมาพ่อจะอบดอกไม้ให้ลูก” พญาช้างเผือกจะอบผมให้ลูกสาวทุก ๆ วันจนผมของนางมีกลิ่นหมอตลบอบอวลไปไกล พ่อจึงตั้งชื่อลูกสาวว่า “นางผมหอม” อยู่มาวันหนึ่งมีข่าวเล่าลือว่า มีพญาช้างเผือกเชือกหนึ่งอาศัยอยู่ในปราสาท กลางป่าลึกกับลูกสาวคนหนึ่งซึ่งนางนั้นมีผมหอม เป็นที่ร่ำลือของชาวบ้านที่ออกไปหาของป่าและได้พบนางกลางป่าลึก พญาช้างเผือกหวงลูกสาวมาก จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ปราสาทแห่งนั้น ข่าวลือได้ยินถึงเจ้าชายแห่งเมือง “เทวานิเวศ” วันต่อมาเจ้าชายเสด็จประพาสป่า และแอบทอดพระเนตรอยู่ห่าง ๆ ปราสาท เพื่อพิสูจน์ข่าวลือนั้นเป็นจริงแท้ประการใด สักครู่พญาช้างเผือกก็นำผลไม้มาให้ลูกสาวกิน และนำดอกไม้หอมมาอบผมให้ ส่วนเจ้าชายทอดพระเนตรเห็นเช่นนั้นแล้วจึงตรัสให้ทหารไปแอบฟังว่า พญาช้างเผือกจะพูดกับลูกสาวว่าอย่างไรบ้าง เพื่อจะจำมากราบทูลให้พระองค์ตรัสถาม พญาช้างเผือกได้ทำหน้าที่ของตนเสร็จแล้วก็ออกป่า เจ้าชายจึงสวมรอบเป็นพญาช้างเผือกเรียกนางผอมหอม โดยเลียนเสียงและคำพูดของพญาช้างเผือก ทันทีที่ตรัสจบนางก็ปล่อยผมยาวสยายออกมา เจ้าชายจึงดึงผมของนางไว้ และตรัสให้เปิดประตูปราสาท นางก็ยอมเปิดให้โดยดี เมื่อก้าวพ้นออกมาจากประตูแทนที่จะได้พบพ่อเช่นเคย แต่ต้องพบผู้ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ทำให้เกิดอาการพิศวง งง งวย เล็กน้อย เมื่อทั้งสองพูดคุยกันจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว นางก็มีจิตพิสมัยต่อเจ้าชายเช่นกัน เจ้าชายทรงพานางผมหอมเข้าไปอยู่ในเมืองด้วยกัน กล่าวถึงพญาช้างเผือก เมื่อกลับมาจากเก็บดอกไม้ผลไม้ ตามปกติก็เรียกลูกสาวให้ออกมารับ แต่ก็เงียบกริบ จึงตัดสินใจพังประตูปราสาทเข้าไป แต่หาพบนางไม่ พญาช้างเผือกเศร้าสลดเสียใจมาก เกิดอาการคลุ้มคลั่งวิ่งชนบ้านเรือนและต้นไม้ล้มระเนระนาด ข่าวพญาช้างเผือกอาละวาดครั้งใหญ่ ทราบไปถึงเจ้าชายและนางผมหอม นางสงสารพ่อ จึงขอร้องให้เจ้าชายพาไปพบพ่อ และเชิญพ่อเข้ามาอยู่ในเมืองด้วยกัน พญาช้างเผือกมีความปิติยินดีอย่างยิ่ง จึงตกลงไปอยู่กับลูกสาวและเป็นช้างคู่บารมีของเจ้าชายตลอดไป
❤❤❤สังขะสุดยอดคะ🥰🥰
เครื่องประดับชุดผ้านุ่งทั้งตัวแตงโมหกแสนเครื่องเงินทำมือของดีเมืองสุรินทร์
ขอแสดงความยินดีกับ รร.สังขะ ด้วยนะครับ ประจักษ์สมมง
สโลไม่ได้แม่ เวลาแปะสุดๆ 12 นาที สังขะ
จริงค่ะ
จริงค่ะ มันสโลไม่ได้ตำนานจริงเรื่องมันยาวมากเล่าได้ขนาดนี้คือเก่งมาก
จริงค่ะ เล่าได้ขนาดนี้สุดยอดมาก
ดูเหมือนไม่ค่อยอยากรีแอ็ค งง
รีแอค แบบไม่อ่านซัพเลย
เลยไม่อิน เดาไปทั่ว งง
จริง รีแอคมั่วมาก
เห็นด้วยๆ ดูแล้ว อึดอัด กับรีแอค ตั้งใจดู อ่านด้วย คนนึงเวลาพูด ต้องหันมอง อีกคนตลอด สายตาละ จาก การโชว์ แล้วจะไม่เข้าใจ
เสียงที่แหบ เพราะ แตงโม ไม่สบาย ครับ
เต็มใจรีแอคไหมคะ ดูแบบเบื่อๆง่วงๆ
ถ้าตั้งใจดู ไม่จ้องแต่จับผิดเสียงร้อง น่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ
เห็นด้วยย
พัก รีแคป ไม่อ่านซับ ตำหนิอย่างเดียว
มาแล้ว ☺
สังฃขะๆๆจ้า
ร.ร.สังขะคะ
หน้าจอแสดงน่าจะใหญ่กว่านี้ครับจะได้น่าติดตามครับ
ศึกษานารีเก่งมาก🩷