ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
สาธุๆๆ
สาธุ ครับ
พ่อและคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่อำเภอภูเขียวและอำเภอบ้านแท่น ชัยภูมิเล่าให้ว่าเมื่อ70กว่าปีก่อนที่วัดบ้านบัวผักเกวียนอำเภอภูเขียว มีหลวงพ่อองค์หนึ่งชื่อพระครูถาวร ท่านพาพระเณรไปตัดไม้จดมาทำไม้กวาดในป่าช่วงนั้นฤดูฝน เวลากลับปรากฎมีฝนลมหนักมาก หลวงพ่อได้เดินฝ่าลมฝนโดยท่านใช้จักแร้หนีบผ้าสังฆาฏิกลับวัดพร้อมสามเณรและญาติโยม ปรากฎว่าพระและสามเณรทุกรูปเปียกฝนหมด แต่หลวงพ่อพระครูถาวรฝนไม่เปียกแม้แต่นิดเดียว พ่อผมมีศักดิ์เป็นหลานเคยบวชและไปกราบท่านสอบถามเรื่องปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นว่าใช้คาถาอาคมอะไร ท่านบอกว่าไม่ใช่คาถาแต่เป็นการหนุนธาตุ ถ้าอยากได้ก็ให้มาอยู่ในวัดด้วยจะสิทธิให้ แต่พ่อผมพอรู้ธาตุรู้ขันธ์เลยไม่ยอมไปอยู่วัดกับท่าน คนในสมัยเมื่อ50ปีก่อนใน2อำเภอนี้ต่างรู้กิติศัพท์ดีทุกคน ต่อมาเมื่อไม่นานมานี้มีหลวงตาองค์หนึ่งซึ่งผมเคารพเป็นอาจารย์ ท่านนั่งสมาธิจนติดวันละ4-6ชั่วโมง ท่านลองฝึกหนุนธาตุด้วยตนเองใช้เวลา3ปีจึงสำเร็จ ผมเคยอาราธนาให้ท่านเรียกฝนเพื่อช่วยชาวบ้านเพื่อลดควันจากไฟป่าฤดูแล้ง ท่านเมตตาเรียกให้และฝนก็ตกมาจริงๆ ตกหนัก2ชั่วโมง ท่านเคยสิทธิสอนผมแต่คนที่จะฝึกได้ต้องมีศีลที่สมบูรณ์และต้องนั่งสมาธิจนจิตเข้าสมาธิได้จึงจะสำเร็จ ท่านได้ละสังขารเมื่อ2ปี่ที่ผ่านมา วัตถุมงคลทั้งหลายถ้าได้ปลุกเสกจากพระที่สำเร็จฌานกสินจะขลังจริง
* เรื่องอภิญญามีคนทำได้จริงๆ ไม่ใช่น้อยๆ เลยครับ ที่ได้กรุณาเล่ามานี้ ทำให้เห็นถึงความสำเร็จของผู้ที่ท่านได้ กระทำวิชาธาตุ อย่างจริงๆ จังๆ* หากกระทำจริงจังได้อย่างท่าน ก็จะได้เหมือนกับท่านนั่นเอง.. เรื่องทำนองนี้เป็นเรื่องของผู้ที่มีความตั้งใจแน่วแน่ และมีความเพียรสูง*ยิ่งท่านที่มีภูมิจิต มีสมาธิเช่นที่เล่ามานี้ ปรารถนาจะสำเร็จมรรคผล เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาเลย เพราะการทำอิทธิฤทธินั้น ยากมากๆ.... ถ้าใครทำได้ คือ เก่ง....
ขอเจริญพร. พอดี.อัตมา.มีความใฝ่ที่อยากจะขอความรู้ในหลักของการนำมาเป็นแนวทางฝึกฝนกำหนดจิตตนเองให้ดียิ่งขึ้น.จึงอบากจะขอความอนุเคราะห์ให้เป็นธรรมะทานแก่อัตมานี้ด้วย. ชึ่งอยากจะขอการติดต่อช่องทางในการ ที่จะสนทนา.ขอความรู้นี้ได้นำมาเป็นแนวทางได้ปฎิบัติและต่อยอดให้ได้เข้าถึงวิธีการ.หรือหนทางที่จะระงับจิตให้นิ่งได้ใวและเป็นทางปฎิบัติต่อๆไปในวันข้างหน้า.... อัตมา.ก็ขอโมทนา สาธุ.. ในธรรมอันดีนี้. ที่ได้มาเผยแพร์เป็นธรรมะทาน. แบบนี้ ด้วย สาธุ.ขอเจริญ.
กราบเรียน ท่านพระอาจารย์ที่เคารพ วิชาธาตุ ไม่ได้เป็นสิ่งที่แตกต่างกับการบริกรรมอื่นๆ เช่น พุทโธ หรือ สัมมา อะระหัง หรือ คำบริกรรมใดๆ ผลที่ต้องการจริงๆ คือ จิตที่สงบ เป็นหนึ่ง และตั้งมั่น * ความแตกต่าง คือ บท บริกรรม ที่ยาว และต้องอาศัยความจดจำมาก ถ้าจำไม่ได้ เวลาบริกรรมภาวนา ก็จะสับสน หรือ หลงๆ ลืมๆ ทำให้จิตไม่เป็นสมาธิ * หากแต่ถ้า สามารถจดจำได้ดี ความที่ต้องตั้งใจว่าให้ไม่ผิด และต้องบริกรรม เร็วๆ ไม่ว่าจะออกเสียง หรือ นึกว่าในใจก็ดี..จะทำให้นิวรณ์ คือ ความฟุ้งซ่าน ไม่สามารถเข้ามาแทรกได้ ผลก็คือ เกิดสมาธิ * เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้ว หากมีเจตนาใดๆ เช่น การตั้งใจให้เกิดผลสิ่งใดที่อธิษฐานไว้ ผลนั้นย่อมเกิดขึ้นตามกำลังของสมาธิที่มี * การบริกรรมภาวนา วิชาธาตุ สิ่งที่ยาก สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความขยันภาวนา การทำอย่างต่อเนื่อง และต้องไม่ให้ความฟุ้งซ่านมารบกวนใจได้ * จะทำเช่นนั้นได้ ต้อง - กินน้อย - พูดน้อย - ภาวนาให้มาก - งดการรับข่าวสารข้อมูลไม่ว่าจะ ทางหนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือ การดูโทรศัพท์มือถือ - และต้องถือ การภาวนาเป็นสำคัญ กว่าเรื่องอื่นๆ * เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว สมาธิจึงจะเกิดขึ้นได้ สมาธิจากการภาวนาวิชาธาตุ ทำให้ตั้งมั่น จะอธิษฐาน ทำน้ำมนต์ก็ขลัง ปลุกเสกก็ขลัง อะไรๆ ก็ขลังหมด เพราะจิตใจตั้งมั่นเป็นสมาธิ * เรื่องทั้งหมดนี้ ฆราวาส ญาติโยม จึงยากที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเป็นนักบวช มีโอกาสมากกว่า ถ้าหากสนใจในเรื่องของสมาธิ**** จึงกราบเรียน ท่านพระอาจารย์มาด้วยความเคารพ ขอรับครับผม...
สมัยนั้่งสมาธิ(ครูพักลักจำ) ก่อนนอน ผมเริ่มจับจุดทั้ง 5 กลางตาขวา(ต้องเย็นสบายเหมือนสายน้ำ) กลางตาขวา(ต้องแข็งแกร่งดังหินผา) ใจกลางระหว่างหู(อบอุ่น) ใต้ลิ้นปี่เหนื่อสะดือ(มีลมเคลื่อนไหว) และหน้าผากจะว่างเปล่า พอเริ่มชำนานแล้ว ก็ให้ท่อง นะโม พุท ธา ยะ ไปตามจุดแต่เริ่ม เมื่อชำนานแล้วก็ ลองน้ำไหลแรง หินแกร่่งภูผา ไฟร้อนแรงดังพระอาทิตย์แผดเผา ลมพายุ และว่างไม่มีตัวตน ทั้ง 5 จุด แล้วไปเคล็ดธาตุ นะ(_ , มะ , อะ , อุ )นะ , มะ( นะ , _ , อะ , อุ )มะ , อะ ( นะ , มะ , _ , อุ )อะ , อุ ( นะ , มะ , อะ , _ ) อุ ส่วน จะภะกะสะ นะมะภะทะท่านก็ไปถอดธาตุเอาเอง แต่อย่าลืม พระเจ้าห้าพระองค์คือครูจะต้องนำหน้าเสมอคับ ขอให้ท่านสำเร็จนะคับ ไปต่อยอดเอาเอง ตั่งธาตุ ชุมนุมธาตุ และนำไปใช้ประโยชน์ในทางธรรมต่อไปคับ สาธุ
งง ยุคับ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีปีใหม่ครับ อนุโมทนาสาธุ บุญ ครับ สาธุ สาธุ สาธุ
💜💜💜👍
สวัสดีปีใหม่...ครับอาจารย์ขอบคุณ...ครับ
สวัสดีปีใหม่ ครับ... ร่ำรวยๆๆ สุขภาพแข็งแรงนะครับ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ🙏💐
สวัสดีปีใหม่ ขอให้เจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมครับ
อยากรู้มากกว่านี้ทำยังไงครับ
มีพระอาจารย์ที่สอนวิชาธาตุ อยู่นะครับ ,หลวงพ่อมนัส มันตชาโต ที่จันทบุรี ท่านเก่งวิชาธาตุ และสอนภาวนาวิชาธาตุ ครับ ด้วยจิตคารวะ
ว่านสาวหลง เคยปลูกอยู่หนึ่งกระถาง ต้นสูงราวศอกครึ่ง ก็ไม่เห็นมีมนต์เรียกสาวใดให้มาหลงรักเลย มีแต่สาวที่เป็นผีสูบเงินเข้ามาดูดเงินจนแทบหมดตัว แต่พอเกษียนอายุพ้นการทำงานมีรายได้เข้าตัวแล้ว ดันมีสาวเข้ามาหาถึงสี่ราย ครบนะมะพะธะเลยเชียว แต่ไม่เอาสักรายเพราะไม่ใช่คู่แท้ เลยสร้างกำแพวกันพวกหล่อนไว้ รอเพียงคู่แท้จากต่างแดนนางเดียว ที่ใกล้จะเข้ามาแล้ว
ผมทำอยู่คับ
ที่มีอิทธิฤทธิ์จริงคือว่านดอกทอง เป็นหัวคล้ายหัวหอม พ่อเล่าให้ฟังว่าอยากลองว่ามันมีอิทธิฤทธิจริงไหม เลยเอาดอกว่านดอกทองไปโยนลงบ่อน้ำที่ชาวบ้านเขาเอาไปดื่มกิน… ผลปรากฎว่าหื่นกันทั้งหมู่บ้าน ไม่เลือกเขาเขาเมียใคร พ่อเสียใจมากที่ทำให้เกิดการกระทำที่ผิดศีลธรรม เรื่องมหาเสน่ห์ทั้งหลาย จะเป็นคาถาอาคม หรือว่าน กรรมจะตามสนองเร็วมาก ผมเห็นกับตาตนเอง เพื่อนพ่อคนหนึ่งเรียนคาถาที่ทำให้วาวรักและหนีตามหลายคน ท่านเชื่อไหมลูกสาวเขาทุกคนจะมีสามีหบายคนทุกคน อย่าสร้างเวรกรรมเลยครับ
รับทราบคับ ท่านมีภูมิ แล้วไงต่อคับ
มะสวัสดีปีใหม่
สวัสดีปีใหม่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงครับ
อาจารย์พอจะทราบว่ามีครูบาอาจารย์ท่านใดที่ชำนาญในวิชาลงกระเบื้องขายที่ดิน หรือวิชาขายที่ดินใดๆบ้างไหมครับ?
เท่าที่เคยทราบ ถ้าจะขายที่ดิน ต้องเอาดินในที่นั้นไปเสกนะครับ แล้วก็เอาดินที่เสกแล้วกลับไปโปรยยังที่ดินที่ต้องการจะขาย ครับ ส่วนการลงกระเบื้องขายที่ดิน อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ครับ... แต่มีอีกวิธีหนึ่ง ลงทุนไม่เยอะ คือ เอากล้วยน้ำว้าสุก 1 หวี กับสตางค์ 1 บาท ไปยังที่ดินที่จะขาย ตั้งใจไปบอกกล่าวกับเจ้าที่เจ้าทาง แล้วใช้ คาถา "จิตตะ มหาจิตตัง ปิยัง มะมะ" ร่วมด้วยครับ (จิตตะ มหาจิตตัง ปิยัง มะ มะ เป็นการเรียกจิตคนที่ต้องการซื้อ ให้มาไว ไว นะครับ...
@@user-phumichak ขอบพระคุณอาจารย์ที่เมตตาให้คำตอบครับ
แร่กากยายักษ์พระสงฆ์ต้องไปพลีขุดบนเขาลำพระยาได้มาต้องรีบสร้างพระเร็วที่สุดเพราะแร่จะหนีกลับบ่อได้
หลังจากธาตุนะมะพะทะ นะมะอะอุคือธาตุอะไร
อย่าไปใช้ภาษาตีความให้งงไปงงมาธรรมศาสตร์จะไม่ใช่สร้างคำมาสร้างกระแสทำให้คนหลงก็เกินสัจจะหรือขาดสัจจะก็เป็นวิบากได้ผลและเจตนาคำว่าปฏิบัติภาวนาเรื่องของจิตของนิสัยของกิจจริตย่อมแตกต่างหลากหลายแต่ถามธาตุรู้กับอาการที่เป็นเหมือนหรือต่างผู้ที่จะแก้ก็ต้องครูบาอาจารย์ที่ท่านมีผลและประสบการณ์ของผู้รู้ผู้เห็นและผู้เป็นไม่ใช่พูดรู้ผู้เห็นแต่ยังไม่เป็นใช้ภาษาเดี๋ยวก็งงไปงงมามั่วกันไปใหญ่เห็นมาเยอะลักษณะนี้ส่วนมากไม่ว่าจะเป็นนักบวชหรือฆราวาสก็สิ่งที่พูดเธอรู้แค่เห็นแต่ยังไม่เป็นและมโนตีความใส่ความเห็นนั่นแหละมันจึงเพี้ยนและเป็นที่หากินศรัทธาคึกฤทธิ์พุทธพจน์ปาโมชโชดูจิตนั่นก็คือบทเรียนและบทศึกษาของชาวพุทธก็มีพิสูจน์ให้เห็นในวาทะและวิบากกรรมของทั้งคู่
ไม่ปกติน่ะคุณ
อยากแสดงความรู้..น่าจะไปสร้างช่องเองน่า.. มาแสดงโวหารมั่วไปมั่วมา ใจมันคงคันมั้ง..เลยต้องออกมาโชว์ แถมพาดพิงถึงบุคคลอื่นอีก ไม่ปกติ..
สำนวนดูดี..แต่ไม่น่าจะรู้จริง
สาธุๆๆ
สาธุ ครับ
พ่อและคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่อำเภอภูเขียวและอำเภอบ้านแท่น ชัยภูมิเล่าให้ว่าเมื่อ70กว่าปีก่อนที่วัดบ้านบัวผักเกวียนอำเภอภูเขียว มีหลวงพ่อองค์หนึ่งชื่อพระครูถาวร ท่านพาพระเณรไปตัดไม้จดมาทำไม้กวาดในป่าช่วงนั้นฤดูฝน เวลากลับปรากฎมีฝนลมหนักมาก หลวงพ่อได้เดินฝ่าลมฝนโดยท่านใช้จักแร้หนีบผ้าสังฆาฏิกลับวัดพร้อมสามเณรและญาติโยม ปรากฎว่าพระและสามเณรทุกรูปเปียกฝนหมด แต่หลวงพ่อพระครูถาวรฝนไม่เปียกแม้แต่นิดเดียว พ่อผมมีศักดิ์เป็นหลานเคยบวชและไปกราบท่านสอบถามเรื่องปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นว่าใช้คาถาอาคมอะไร ท่านบอกว่าไม่ใช่คาถาแต่เป็นการหนุนธาตุ ถ้าอยากได้ก็ให้มาอยู่ในวัดด้วยจะสิทธิให้ แต่พ่อผมพอรู้ธาตุรู้ขันธ์เลยไม่ยอมไปอยู่วัดกับท่าน คนในสมัยเมื่อ50ปีก่อนใน2อำเภอนี้ต่างรู้กิติศัพท์ดีทุกคน ต่อมาเมื่อไม่นานมานี้มีหลวงตาองค์หนึ่งซึ่งผมเคารพเป็นอาจารย์ ท่านนั่งสมาธิจนติดวันละ4-6ชั่วโมง ท่านลองฝึกหนุนธาตุด้วยตนเองใช้เวลา3ปีจึงสำเร็จ ผมเคยอาราธนาให้ท่านเรียกฝนเพื่อช่วยชาวบ้านเพื่อลดควันจากไฟป่าฤดูแล้ง ท่านเมตตาเรียกให้และฝนก็ตกมาจริงๆ ตกหนัก2ชั่วโมง ท่านเคยสิทธิสอนผมแต่คนที่จะฝึกได้ต้องมีศีลที่สมบูรณ์และต้องนั่งสมาธิจนจิตเข้าสมาธิได้จึงจะสำเร็จ ท่านได้ละสังขารเมื่อ2ปี่ที่ผ่านมา วัตถุมงคลทั้งหลายถ้าได้ปลุกเสกจากพระที่สำเร็จฌานกสินจะขลังจริง
* เรื่องอภิญญามีคนทำได้จริงๆ ไม่ใช่น้อยๆ เลยครับ ที่ได้กรุณาเล่ามานี้ ทำให้เห็นถึงความสำเร็จของผู้ที่ท่านได้ กระทำวิชาธาตุ อย่างจริงๆ จังๆ
* หากกระทำจริงจังได้อย่างท่าน ก็จะได้เหมือนกับท่านนั่นเอง.. เรื่องทำนองนี้เป็นเรื่องของผู้ที่มีความตั้งใจแน่วแน่ และมีความเพียรสูง
*ยิ่งท่านที่มีภูมิจิต มีสมาธิเช่นที่เล่ามานี้ ปรารถนาจะสำเร็จมรรคผล เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาเลย เพราะการทำอิทธิฤทธินั้น ยากมากๆ.... ถ้าใครทำได้ คือ เก่ง....
ขอเจริญพร. พอดี.อัตมา.มีความใฝ่ที่อยากจะขอความรู้ในหลักของการนำมาเป็นแนวทางฝึกฝนกำหนดจิตตนเองให้ดียิ่งขึ้น.จึงอบากจะขอความอนุเคราะห์ให้เป็นธรรมะทานแก่อัตมานี้ด้วย. ชึ่งอยากจะขอการติดต่อช่องทางในการ ที่จะสนทนา.ขอความรู้นี้ได้นำมาเป็นแนวทางได้ปฎิบัติและต่อยอดให้ได้เข้าถึงวิธีการ.หรือหนทางที่จะระงับจิตให้นิ่งได้ใวและเป็นทางปฎิบัติต่อๆไปในวันข้างหน้า.... อัตมา.ก็ขอโมทนา สาธุ.. ในธรรมอันดีนี้. ที่ได้มาเผยแพร์เป็นธรรมะทาน. แบบนี้ ด้วย สาธุ.ขอเจริญ.
กราบเรียน ท่านพระอาจารย์ที่เคารพ
วิชาธาตุ ไม่ได้เป็นสิ่งที่แตกต่างกับการบริกรรมอื่นๆ เช่น พุทโธ หรือ สัมมา อะระหัง หรือ คำบริกรรมใดๆ ผลที่ต้องการจริงๆ คือ จิตที่สงบ เป็นหนึ่ง และตั้งมั่น
* ความแตกต่าง คือ บท บริกรรม ที่ยาว และต้องอาศัยความจดจำมาก ถ้าจำไม่ได้ เวลาบริกรรมภาวนา ก็จะสับสน หรือ หลงๆ ลืมๆ ทำให้จิตไม่เป็นสมาธิ
* หากแต่ถ้า สามารถจดจำได้ดี ความที่ต้องตั้งใจว่าให้ไม่ผิด และต้องบริกรรม เร็วๆ ไม่ว่าจะออกเสียง หรือ นึกว่าในใจก็ดี..จะทำให้นิวรณ์ คือ ความฟุ้งซ่าน ไม่สามารถเข้ามาแทรกได้ ผลก็คือ เกิดสมาธิ
* เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้ว หากมีเจตนาใดๆ เช่น การตั้งใจให้เกิดผลสิ่งใดที่อธิษฐานไว้ ผลนั้นย่อมเกิดขึ้นตามกำลังของสมาธิที่มี
* การบริกรรมภาวนา วิชาธาตุ สิ่งที่ยาก สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความขยันภาวนา การทำอย่างต่อเนื่อง และต้องไม่ให้ความฟุ้งซ่านมารบกวนใจได้
* จะทำเช่นนั้นได้ ต้อง
- กินน้อย
- พูดน้อย
- ภาวนาให้มาก
- งดการรับข่าวสารข้อมูลไม่ว่าจะ ทางหนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือ การดูโทรศัพท์มือถือ
- และต้องถือ การภาวนาเป็นสำคัญ กว่าเรื่องอื่นๆ
* เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว สมาธิจึงจะเกิดขึ้นได้ สมาธิจากการภาวนาวิชาธาตุ ทำให้ตั้งมั่น จะอธิษฐาน ทำน้ำมนต์ก็ขลัง ปลุกเสกก็ขลัง อะไรๆ ก็ขลังหมด เพราะจิตใจตั้งมั่นเป็นสมาธิ
* เรื่องทั้งหมดนี้ ฆราวาส ญาติโยม จึงยากที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเป็นนักบวช มีโอกาสมากกว่า ถ้าหากสนใจในเรื่องของสมาธิ
**** จึงกราบเรียน ท่านพระอาจารย์มาด้วยความเคารพ ขอรับครับผม...
สมัยนั้่งสมาธิ(ครูพักลักจำ) ก่อนนอน ผมเริ่มจับจุดทั้ง 5 กลางตาขวา(ต้องเย็นสบายเหมือนสายน้ำ) กลางตาขวา(ต้องแข็งแกร่งดังหินผา) ใจกลางระหว่างหู(อบอุ่น) ใต้ลิ้นปี่เหนื่อสะดือ(มีลมเคลื่อนไหว) และหน้าผากจะว่างเปล่า พอเริ่มชำนานแล้ว ก็ให้ท่อง นะโม พุท ธา ยะ ไปตามจุดแต่เริ่ม เมื่อชำนานแล้วก็ ลองน้ำไหลแรง หินแกร่่งภูผา ไฟร้อนแรงดังพระอาทิตย์แผดเผา ลมพายุ และว่างไม่มีตัวตน ทั้ง 5 จุด แล้วไปเคล็ดธาตุ นะ(_ , มะ , อะ , อุ )นะ , มะ( นะ , _ , อะ , อุ )มะ , อะ ( นะ , มะ , _ , อุ )อะ , อุ ( นะ , มะ , อะ , _ ) อุ ส่วน จะภะกะสะ นะมะภะทะท่านก็ไปถอดธาตุเอาเอง แต่อย่าลืม พระเจ้าห้าพระองค์คือครูจะต้องนำหน้าเสมอคับ ขอให้ท่านสำเร็จนะคับ ไปต่อยอดเอาเอง ตั่งธาตุ ชุมนุมธาตุ และนำไปใช้ประโยชน์ในทางธรรมต่อไปคับ สาธุ
งง ยุคับ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีปีใหม่ครับ อนุโมทนาสาธุ บุญ ครับ สาธุ สาธุ สาธุ
💜💜💜👍
สวัสดีปีใหม่...ครับอาจารย์
ขอบคุณ...ครับ
สวัสดีปีใหม่ ครับ... ร่ำรวยๆๆ สุขภาพแข็งแรงนะครับ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ🙏💐
สวัสดีปีใหม่ ขอให้เจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมครับ
อยากรู้มากกว่านี้ทำยังไงครับ
มีพระอาจารย์ที่สอนวิชาธาตุ อยู่นะครับ ,
หลวงพ่อมนัส มันตชาโต ที่จันทบุรี ท่านเก่งวิชาธาตุ และสอนภาวนาวิชาธาตุ ครับ
ด้วยจิตคารวะ
ว่านสาวหลง เคยปลูกอยู่หนึ่งกระถาง ต้นสูงราวศอกครึ่ง ก็ไม่เห็นมีมนต์เรียกสาวใดให้มาหลงรักเลย มีแต่สาวที่เป็นผีสูบเงินเข้ามาดูดเงินจนแทบหมดตัว แต่พอเกษียนอายุพ้นการทำงานมีรายได้เข้าตัวแล้ว ดันมีสาวเข้ามาหาถึงสี่ราย ครบนะมะพะธะเลยเชียว แต่ไม่เอาสักรายเพราะไม่ใช่คู่แท้ เลยสร้างกำแพวกันพวกหล่อนไว้ รอเพียงคู่แท้จากต่างแดนนางเดียว ที่ใกล้จะเข้ามาแล้ว
ผมทำอยู่คับ
ที่มีอิทธิฤทธิ์จริงคือว่านดอกทอง เป็นหัวคล้ายหัวหอม พ่อเล่าให้ฟังว่าอยากลองว่ามันมีอิทธิฤทธิจริงไหม เลยเอาดอกว่านดอกทองไปโยนลงบ่อน้ำที่ชาวบ้านเขาเอาไปดื่มกิน…
ผลปรากฎว่าหื่นกันทั้งหมู่บ้าน ไม่เลือกเขาเขาเมียใคร พ่อเสียใจมากที่ทำให้เกิดการกระทำที่ผิดศีลธรรม
เรื่องมหาเสน่ห์ทั้งหลาย จะเป็นคาถาอาคม หรือว่าน กรรมจะตามสนองเร็วมาก ผมเห็นกับตาตนเอง เพื่อนพ่อคนหนึ่งเรียนคาถาที่ทำให้วาวรักและหนีตามหลายคน ท่านเชื่อไหมลูกสาวเขาทุกคนจะมีสามีหบายคนทุกคน
อย่าสร้างเวรกรรมเลยครับ
รับทราบคับ ท่านมีภูมิ แล้วไงต่อคับ
มะสวัสดีปีใหม่
สวัสดีปีใหม่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงครับ
อาจารย์พอจะทราบว่ามีครูบาอาจารย์ท่านใดที่ชำนาญในวิชาลงกระเบื้องขายที่ดิน หรือวิชาขายที่ดินใดๆบ้างไหมครับ?
เท่าที่เคยทราบ ถ้าจะขายที่ดิน ต้องเอาดินในที่นั้นไปเสกนะครับ แล้วก็เอาดินที่เสกแล้วกลับไปโปรยยังที่ดินที่ต้องการจะขาย ครับ ส่วนการลงกระเบื้องขายที่ดิน อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ครับ... แต่มีอีกวิธีหนึ่ง ลงทุนไม่เยอะ คือ เอากล้วยน้ำว้าสุก 1 หวี กับสตางค์ 1 บาท ไปยังที่ดินที่จะขาย ตั้งใจไปบอกกล่าวกับเจ้าที่เจ้าทาง แล้วใช้ คาถา "จิตตะ มหาจิตตัง ปิยัง มะมะ" ร่วมด้วยครับ (จิตตะ มหาจิตตัง ปิยัง มะ มะ เป็นการเรียกจิตคนที่ต้องการซื้อ ให้มาไว ไว นะครับ...
@@user-phumichak ขอบพระคุณอาจารย์ที่เมตตาให้คำตอบครับ
แร่กากยายักษ์พระสงฆ์ต้องไปพลีขุดบนเขาลำพระยาได้มาต้องรีบสร้างพระเร็วที่สุดเพราะแร่จะหนีกลับบ่อได้
หลังจากธาตุนะมะพะทะ นะมะอะอุคือธาตุอะไร
อย่าไปใช้ภาษาตีความให้งงไปงงมาธรรมศาสตร์จะไม่ใช่สร้างคำมาสร้างกระแสทำให้คนหลงก็เกินสัจจะหรือขาดสัจจะก็เป็นวิบากได้ผลและเจตนาคำว่าปฏิบัติภาวนาเรื่องของจิตของนิสัยของกิจจริตย่อมแตกต่างหลากหลายแต่ถามธาตุรู้กับอาการที่เป็นเหมือนหรือต่างผู้ที่จะแก้ก็ต้องครูบาอาจารย์ที่ท่านมีผลและประสบการณ์ของผู้รู้ผู้เห็นและผู้เป็นไม่ใช่พูดรู้ผู้เห็นแต่ยังไม่เป็นใช้ภาษาเดี๋ยวก็งงไปงงมามั่วกันไปใหญ่เห็นมาเยอะลักษณะนี้ส่วนมากไม่ว่าจะเป็นนักบวชหรือฆราวาสก็สิ่งที่พูดเธอรู้แค่เห็นแต่ยังไม่เป็นและมโนตีความใส่ความเห็นนั่นแหละมันจึงเพี้ยนและเป็นที่หากินศรัทธาคึกฤทธิ์พุทธพจน์ปาโมชโชดูจิตนั่นก็คือบทเรียนและบทศึกษาของชาวพุทธก็มีพิสูจน์ให้เห็นในวาทะและวิบากกรรมของทั้งคู่
ไม่ปกติน่ะคุณ
อยากแสดงความรู้..น่าจะไปสร้างช่องเองน่า.. มาแสดงโวหารมั่วไปมั่วมา ใจมันคงคันมั้ง..เลยต้องออกมาโชว์ แถมพาดพิงถึงบุคคลอื่นอีก ไม่ปกติ..
สำนวนดูดี..แต่ไม่น่าจะรู้จริง