Honda CR-V EL 4WD 1.5L Turbo 2023 เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ราคา 1,649,000 บาท ขับดีไม๊...
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 26 มี.ค. 2023
- @carinner ขับทดสอบ All-New Honda CR-V EL 4WD 1.5L Turbo 2023 เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ราคา 1,649,000 บาท
รุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่
• รุ่น EL 4WD 7 ที่นั่ง 1649000 บาท
• รุ่น ES 4WD 5 ที่นั่ง 1599000 บาท
• รุ่น E 2WD 5 ที่นั่ง ราคา 1419,000 บาท
ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งในทุกมิติ ผสานฟังก์ชันการใช้งานไว้อย่างลงตัว
• กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำ Piano Black และกระจังหน้าสีดำ Piano Black ตกแต่งด้วยโครเมียม (เฉพาะรุ่น E)
• กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
• ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
• ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
• ไฟท้ายแบบ LED
• เปิดมุมมองใหม่ที่พรีเมียมยิ่งขึ้นกับหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
• สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบ
ปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close)
• เสาอากาศครีบฉลาม
• ปลอกท่อไอเสียสเตนเลสคู่
• ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว
ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม* อาทิ
• ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat)
• ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ที่ได้รับการติดตั้งในหลายตำแหน่งเป็นครั้งแรกใน ซีอาร์-วี อาทิ ถาดคอนโซลกลาง แผงประตูหน้าและหลัง และที่วางแก้ว
• ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
• ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 (เฉพาะรุ่น EL 4WD)
• ไฟอ่านหนังสือด้านหลัง LED แบบสัมผัส
พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับ
การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายที่กว้างขวาง
• เบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Sliding) เลื่อนและแยกพับแบบ 60:40
• รุ่นเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน สามารถปรับพับลงแนวราบได้เรียบ (Utility Mode) ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
• รุ่นเบาะโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง (เฉพาะรุ่น EL 4WD) สามารถปรับพับเบาะด้านหลังแถวที่ 3 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้ายในขณะที่ผู้โดยสารแถว 2 สามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบาย หรือปรับพับเบาะทั้งแถวที่ 2 และ 3 ลงแนวราบ (Utility Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลังทั้งแถวที่ 2 และ 3 (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์แบบสมาร์ต กับหลากหลายเทคโนโลยีอันล้ำสมัย*
• ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
• มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว (ยกเว้นรุ่น E ขนาด 7 นิ้ว)
• อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
• ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง (USB Type-C 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 1 ตำแหน่ง และด้านหลัง
2 ตำแหน่ง)
ขับเคลื่อนสู่ทุกจุดหมายอย่างมั่นใจ กับทางเลือก 2 ขุมพลังที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการขับขี่
มีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM) AWD with E-DPS)
มาพร้อมสวิตซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ตามสไตล์ได้อย่างง่ายดาย ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และโหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85
มั่นใจทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่
เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING)
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ครั้งแรกกับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD) ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆ* อาทิ
• ใหม่ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (ยกเว้นรุ่น E)
• ใหม่ เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
• ใหม่ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
• ใหม่ ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
• ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
• ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
• ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
#hondacrv #crv - ยานยนต์และพาหนะ
รุ่น.นี้สวยมากครับผม
ขอบคุณมากครับ
น่าทดสอบ รุ่น 1.5 ES 4WD. 5ที่นั่ง ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ รออีกหน่อยครับ รอบนี้เวลาน้อยมาก ได้รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ขับเคลื่อน 4 ล้อ เบาะ 7 ที่นั่ง และ อีกรุ่นที่จะลงตอนกลางคืนคือ eHEV RS ครับ
กระดิ่งเตือนปุ๊บผมรีบเข้ามาดูก่อนเลยครับ :D ชอบมากๆ CR-V 1.5 Turbo รุ่นนี้
ขอบคุณมากครับ เอาแบบคร่าวๆ ก่อนนะครับ เวลาค่อนข้างจำกัดครับ
@@Carinner รอรีวิวตัวเต็มจากคุณต้อมอีกทีครับ :D
ยินดีครับ น้องทีมงานหั่นข้อมูลไปเยอะ เพราะยาวไปครับ อุปกรณ์ไม่ได้ลงรายละเอียดเจาะลึก เพราะเห็นทุกช่องรีวิวกันเยอะแล้ว ภาพรวมขับดีขึ้นมากเลยครับ แต่แอบชอบ e:HEV มากกว่า เพราะได้ทั้งความประหยัดและความแรงครับ เดี๋ยววันนี้จะรีวิว e:HEV ครับ
สวยมากครับรอดูเวอร์ชั่น สปปลาว ว่าจะได้สเป็กแบบไหน
ใช่ครับสวยหล่อมากๆ สำหรับ CR-V ใหม่ ดูสปอร์ตขึ้นเยอะครับ
ใช่ครับสวยหล่อมากๆ สำหรับ CR-V ใหม่ ดูสปอร์ตขึ้นเยอะครับ
power amp ขับ bose 12 ตัว รุ่น RS มีกี่ตัวครับแล้วติดตั้้งไว้บริเวณไหนบ้างครับ
กำลังเช็คกับทาง R&D ครับ เท่าที่ทราบลำโพง 12 ตัว รวม ซัพวูฟเฟอร์ ครับ แต่พาวเวอรห์แอมป์ กับตำแหน่งติดตั้ง กำลังหาข้อมูลอยู่ครับ
ความนิ่มนวลเต็ม10ให้เท่าไหร่คะ ทั้งสองตัว
ดีขึ้นกว่าเดิมครับ เต็ม 10 ผมรวมตั้งแต่ความนิ่ง ที่สัมพันธ์กันกับการบังคับควบคุมพวงมาลัย ด้วย ผมให้ 9 เต็ม 10 สำหรับ eHEV และ 8 เต็ม 10 สำหรับ เบนซิน เทอร์โบ ครับ
1.5turboออกตัวอืดไหม กลางกับปลาย แรงไหมครับ
เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ แน่นอนครับ พอมาอยู่ในรถขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่ก็จะกลัวว่ามันจะอืด แต่เมื่อดูจากเครื่องมือทดสอบ พบว่า อัราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ทำได้ 10.6 วินาที ดีกว่ารุ่นเครื่องยนต์ เบนซิน 2.4 ลิตร เดิมที่ทำไว้ 11.0 วินาที แสดงว่าการเข้ามาทดแทนของเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ก็สามารถทดแทนเครื่องยนต์ 2.4 เดิม ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ การลดขนาดของเครื่องยนต์ลงมา คือการ downsizing แล้วอาศัยเทอร์โบ เข้าไปเพิ่มกำลังอัดครับ ส่วนความเร็วจังหวะเร่งแซงก็ทำได้ดี เช่นเดียวกับความเร็วปลาย เรียกว่าปลายไหลดีครับ
ชื้อatto3 คุ้มค่ากว่าครับ
ขอบคุณครับ
CR-V e-phev would outshine CR-V 1.5 turbo in its fuel consumption
ใช่ครับ รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด มีอัตราบริโภคน้ำมันทีประหยัดกว่าพอสมควร
เวลาขับบนถนน ด้านท้ายมองดูคล้ายรถวอลโว่เลยครับ ดูสไตล์ยุโรปมาก
สวยมากครับ ดูเป็น สปอร์ตเอสยูวี สุดๆ หล่อมาก
กินน้ำมัน
ถ้าทางเรียบๆ น่าจะ 12 กม./ลิตร ได้ครับ
ถ้านอกเมือง อัตรสิ้นเปลืองเฉลี่ย 10.5km/l แบบนี้คงต้องจัด ตัว e:HEV จากแรกที่เล็ง ตัว 1.5 ES ไม่ไหวเปลืองเกิน
eHEV ขับเคลื่อน 2 ล้อ ก็น่าสนใจครับ ภาพรวม รถขับดีจริงๆ
ถ้า10.5 ขอถอยดีกว่าตั้งใจจะไปจอง7ที่นั่ง
ขับทดสอบครั้งนี้ มีจังหวะขึ้นลงเขาเยอะครับ ถ้าทางเรียบทั่วไป ขับนิ่งๆ น่าจะ 10-12 กม./ลิตร ได้อยูาครับ
ตัวธรรมดาล้อไม่สวยขอล้อดำๆ
ประมาณนั้นเลยครับ ต้องหาล้อ โมดูโล มาใส่
@@Carinner ไม่มีล้อโมดูโล่นะครับ อันนั้นมันคือล้อของรุ่น ehev es
ขอบคุณครับ
@@kk-awp6509 โมดูโล่มีครับ ล้อ18 ของตัวท็อปล้อ19ครับ ในงานโชว์อยู่ครับ สีดำเหมือนกัน
ขอบคุณครับ
1998 CR-V gen 1 ราคา เริ่มต้น 1.073 ล้านบาท
2023 CR-V gen 6 ราคาเริ่มต้น 1.429 ล้านบาท
ขยับมา +++35%
CR-V ไม่ได้ราคาแพงขึ้น....แต่ค่าเงินเราเสื่อมค่าลง power of purchase ลดลงไป 35% ในระยะ 25ปีที่ผ่านมา
รออีก5-10ปี คุณก็จะได้ซื้อ CR-V ที่ราคา เริ่มต้น 1.6-1.8 ล้านอยู่ดี....
อย่ารอ...อย่าลังเล...จองเลย😅😅
ซื้อเลย !!!!! จัดๆๆๆๆๆ😂😂😂😂😅
อืม 😅😅 ขอบคุณนะครับ
ระยะทาง 181km / อัตรสิ้นเปลืองเฉลี่ย 10.5km/l
วิ่งนอกเมืองด้วยไม่น่าจะรถติดแบบจอดนานๆ ถือว่ากินน้ำมันดุอยู่ครับ
ตัวรถใหญ่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ แถมขับอยู่บนเขาค่อนข้างตลอด ครับ
ผมใช้ตัว ดีเซล พึ่งขับเส้นทางนี้มาเมื่อวันก่อน 14 km/l + คับ
แจ๋วไปเลยครับ อะไหล่ก็มีสำรองให้อีก 15 ปี ครับ อย่างต่ำๆ
ใช่ครับ ขับใช้งานทั่วไป ขึ้นลงเขาบ้าง
แสดงว่ารุ่นนี้ 1.5 เทอร์โบอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงพอๆ กับ 2.4 ตัวเดิม
ประมาณนั้นครับ เป็นรุ่นที่มาทดแทนกัน แต่ได้อัตราเร่งที่ดีกว่านิดๆ
เกือบดีทุกอย่าง พัฒนาเบาะนั่ง ฝั่งคนขับ มันสั้นไป
ขอบคุณครับ
ตัว 1.5 ขับ4 คิดไว้แล้วต้องซดน้ำมันโฮกแน่นอน ตัวหนักขนาดนั้น ตัวขับ2 คงดีกว่านิดนึง
ประมาณนั้นครับ