เรื่องเล่า ผีปอบร้าย

ผีปอบร้าย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านห่างไกล ริมแม่น้ำโขง มีตำนานเล่าขานถึงผีปอบร้ายตนหนึ่งที่สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน ผีปอบตนนี้มีชื่อว่า "ยายป้อม" เธอมีวิชาอาคมแก่กล้า สามารถแยกหัวออกจากร่างได้ และมักจะออกอาละวาดในยามค่ำคืน ดูดเลือดผู้คนจนสิ้นชีพ
ชาวบ้านหวาดกลัวยายป้อมมาก ต่างพยายามหาวิธีปราบ แต่ก็ไม่มีใครสู้เธอได้ จนกระทั่งวันหนึ่ง มีชายหนุ่มรูปงามนามว่า "ไอ้หนุ่ม" เดินทางมาถึงหมู่บ้าน เขาเป็นผู้สืบทอดวิชาอาคมจากปู่ และได้ยินเรื่องราวของยายป้อม
ไอ้หนุ่มรู้สึกสงสารชาวบ้าน จึงตัดสินใจปราบยายป้อม เขาเตรียมเครื่องรางของขลัง คาถาอาคม และมีดอาถรรพ์ ไว้ต่อสู้กับผีปอบร้าย
ในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ไอ้หนุ่มบุกเข้าไปในบ้านร้างที่เชื่อกันว่าเป็นที่สิงสถิตของยายป้อม บรรยากาศภายในบ้านมืดมิด เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ไอ้หนุ่มเริ่มท่องคาถา มือของเขากำแน่นบนมีดอาถรรพ์
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะเยาะดังก้องทั่วบ้าน ยายป้อมปรากฏตัวขึ้น ร่างกายของเธอผอมแห้ง หนังเหี่ยว ริมฝีปากแดงฉาน เธอจ้องมองไอ้หนุ่มด้วยสายตาโหดร้าย
"แกมาทำอะไรที่นี่?" ยายป้อมคำราม
"ข้ามาปราบเจ้า!" ไอ้หนุ่มตะโกน
การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น ไอ้หนุ่มใช้มีดอาถรรพ์ฟาดฟันยายป้อม แต่เธอก็ว่องไว หลบหลีกการโจมตีได้อย่างรวดเร็ว ยายป้อมใช้เล็บยาวแหลมคมพยายามทำร้ายไอ้หนุ่ม แต่เขาป้องกันได้ทัน
ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วบ้าน ในที่สุด ไอ้หนุ่มก็หาโอกาสแทงมีดอาถรรพ์เข้าที่อกของยายป้อม ยายป้อมร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเธอเริ่มสลายตัว กลายเป็นควันดำจางหายไป
ไอ้หนุ่มยืนนิ่ง หอบหายใจแรง รู้สึกโล่งใจที่ได้ปราบผีปอบร้าย ชาวบ้านต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ พวกเขายกย่องไอ้หนุ่มเป็นวีรบุรุษ ผู้กอบกู้หมู่บ้านจากเงื้อมมือของผีปอบ
ตั้งแต่นั้นมา หมู่บ้านก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง ไอ้หนุ่มใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับชาวบ้าน และกลายเป็นตำนานเล่าขานถึงความกล้าหาญของเขา ผู้ปราบผีปอบร้าย
เรื่องราวนี้สอนให้เรารู้ว่า
แม้จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่ยากลำบาก แต่ด้วยความกล้าหาญและความตั้งใจดี เราก็สามารถเอาชนะมันได้
พลังแห่งความสามัคคีสามารถเอาชนะสิ่งชั่วร้ายได้
สิ่งสำคัญคือต้องปกป้องผู้บริสุทธิ์และต่อสู้กับความอยุติธรรม

[@buasondokbua-po5oh]

กระสือที่ถอดหัวออกจากร่างได้ไม่ใช่ปอบไม่ได้ยินปอบถอดหัว
มีแต่ผีกระสือที่ถอดหัวออกจากร่างแอดมินถ้าจะ อายุเยอะก็เลยหลงๆ ลืมๆ 😂