เหมือนคนละฟากฟ้า 70D62 ลูกกรุง คาราโอเกะ NCN- 1

เพลง เหมือนคนละฟากฟ้า
คำร้อง จงรัก จันทร์คณา ทำนอง มนัส ปิติสานต์
มีประโยชน์อื่น อันใด
ที่รัก เรารักกันปานจะกลืน
แต่กายเราห่าง ดั่งอาทิตย์ไกลกลางคืน
มืดมนฝืน ฝืนโชคชะตา
ได้แต่หลอก ปลอบใจกัน
ว่าสักวัน ความรักสมจินตนา
จนสิ้นจากใจ ได้ครองรักเพียงอุรา
เกินเอื้อมมือคว้า วิวาห์ดูหมดทาง
ต่างกัน ทุกฐานันดร
ดั่งมีสิงขร เช่นประตูกั้นขวาง
ถึงเราสัญญา ว่ารักกันมั่นจีรัง
แต่ดูเหมือนดัง อยู่คนละฟากฟ้า
คิดสลัด ตัดใจไกล
สุดฝืนใจ ด้วยรักแรกตรึงอุรา
จำฝืนใจข่ม อยู่กับรักอย่างทรมา
รอวาสนา ชี้ชะตา จนกว่าจะตาย
++++++++++++++++++++++++
เพลงนี้แต่งในราว พ.ศ.2503
เรื่องนี้จงรัก จันทร์คณา เขียนเล่าไว้ในหนังสือเบื้องหลังเพลงดังว่า
..หลังจากแต่งเพลงเสร็จตั้งใจจะให้พี่เทพ (สุเทพ วงศ์กำแหง) เป็นผู้ร้อง
เพราะเพลงที่ต้องเค้นอารมณ์รวดร้าวแบบนี้ ในแผ่นฟ้ากะลาครอบของวงการเพลง
ข้าพเจ้าไม่เห็นใครจะใส่อารมณ์ได้ถึงกึ๋นเท่าพี่เทพของเรา
พี่เทพพิจารณาเนื้อยู่ครู่หนึ่ง ก็เงยหน้ามองข้าพเจ้าด้วยดวงตาเศร้าๆ
ตามแบบฉบับของพี่เทพ แล้วว่า..."เพลงนี้ถ้าให้พี่ร้อง มันก็งั้นๆ
เพราะพี่เคยผ่านเพลงเด็ดๆ มาเยอะแล้ว ถ้าร้องอีก คนฟังก็เห็นเป็นธรรมดา
พี่ว่าเพลงดีๆ อย่างนี้ เหมาะจะสร้างนักร้องได้เกิดมากกว่า"
"แล้วใครจะร้องล่ะพี่"
ข้าพเจ้าเริ่มมีความหวัง...
"เจ้าเล็กไง...ตั้งแต่พี่ยงค์มาฝากพี่
ยังไม่ได้ร้องเพลงอะไรอัดแผ่นเสียงเลย"
...หลังจากพี่เทพกะเกณฑ์ให้ธานินทร์เป็นผู้ร้อง "เหมือนคนละฟากฟ้า"
ข้าพเจ้าคิดว่าพี่เทพจะเป็นคนติวเข้มให้ธานินทร์ เปล่ากลับเป็น ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา
ให้ธานินทร์ อินทรเทพ ทดลองร้องให้ฟังในวงเหล้า ก่อนจะร้องจริงเสียด้วยซ้ำ
ในวันอัดเสียงเพลงเหมือนคนละฟากฟ้านี้ที่ห้องอัดเสียง ยี.อี.ซีมอนด์
ย่านพัฒนพงษ์ (ครูมนัส ปิติสานต์ บอกว่าน่าจะเป็นห้องอัดเสียงกมลสุโกศล
ย่านถนนวิทยุ) ธานินทร์เข้าห้องอัดแบบขาสั่น พี่เทพต้องเป็นพี่เลี้ยงอยู่ข้างๆ
ร้องอัดอยู่สองสามเที่ยว ไม่เข้าที่สักที นักดนตรีเริ่มมองหน้า
เพราะการอัดเสียงในยุคนั้น นักร้องกับนักดนตรีอัดพร้อมกัน
ซีเลียวคนเป่าคาลิเน็ตชาวฟิลิปินส์ที่หักหลังชาติเดิมมาเข้าสัญชาติไทย
บ่นเสียงดังๆ ว่า "มันร้องแบบนี้ จะดังได้ไงว้า กลับบ้านไปนอนเถอะไป๊"
ทำเอาธานินทร์ไม่สั่นเฉพาะขาเสียแล้ว เสียงก็พลอยสั่นไปด้วย
แข็งใจร้องเที่ยวหลังเหมือนจะร้องไห้ พี่เทพฟังแล้วหันมามองข้าพเจ้า...
"พี่ว่าใช้ได้นะ เสียงโหยๆ ชนิดปอดแหกแบบนี้ ได้อารมณ์ตรงกับเนื้อเพลงพอดี...
จงรักว่ามั้ย" ข้าพเจ้าเห็นคล้อยตามพี่เทพ แต่ธานินทร์อยากร้องอีกเที่ยว
ซีเลียวได้ฟังพี่เทพว่าใช้ได้ก็รีบเก็บคาลิเน็ตใส่กล่องทันที
เป็นการตัดตอนปิดฉากการร้องเพลงธานินทร์โดยสิ้นเชิง
แล้วก็ได้ผลสมจริงตามที่พี่เทพคาด เพราะพอแผ่นเสียงออกสู่ตลาด
ก็ได้คะแนนตอบรับจากแฟนเพลงไทยทั่วแผ่นดิน ที่ยิ่งไปกว่านั้น
ธานินทร์ยังได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน
ในการประกวดครั้งแรกของเมืองไทยโดย ป.วรานนท์ ที่สวนลุมพินีฯ ในปี 06
เครดิต ประวัติ "ครูมนัส ปิติสานต์"
โดย: คีตา พญาไท เผยแพร่: 1 พ.ย. 2549