แข่งไขว่คว้า มายึดมั่น อะไรได้ ชีพทุกราย เร็วมลาย เหือดหายไป แก่นสารแท้ แลตนแท้ หามีไม่ ทยอยไป เป็นธุลี ที่ปลายทาง (Can we compete to hold, possess anything?? Every life quickly proceeds to evanescence. Living things don't have true essence, substance, quintessence nor soul and are devoid of self. They all gradually become dust at their destination.) From Anatta, Sunyata and Tathata.
สัจธรรม นำผิดที่ ไม่มีความหมาย คนทั้งหลาย มิได้เห็น คุณค่าใด พุทธปัญญา ค่าสูงสุด เห็นที่ไหน ล้วนบอดใจ ในโลกมืด โลกมายา ( Verity communicated in wrong places seems meaningless because general people are unable to see its greatest value. Buddha 's wisdom has the highest value but can't be reached by them because all people are blind minded under the Dark Age and the world of illusions, delusions, dogmas, Theism, hypothetical things, illogicality, lunacy, made-up Gods, made-up beliefs, fancies, nonsensical imaginations, blindmindedness, superstitions, suppositions, false beliefs, dominating things, hereditary brainwashing, selfinfatuation, egotism, egocentricity, blind beliefs, lust, passion, desires, alluring insatiability, greed, thirst, voracity and hunger for fake light. ) From Anatta, Sunyata and Tathata.
อุดมคติ ถ้ามิมี ไร้ความหมาย ล้วนเยื้องกราย เร็วได้สู่ อนัตตา ในโลกนี้ จึงมากมี พวกคนบ้า แผ่พุทธปัญญา เหนื่อยล้าเปล่า ไร้ผลดี ใต้สุรีย์ ที่สว่าง กระจ่างจ้า ทั่วโลกา หาได้พ้น ยุคมืดไม่ ศาสนา มายาคติ ครอบงำไว้ คนทั่วไป ไร้ดวงตา สว่างเอย ( If humans don't have ideals, it's very meaningless. Because all quickly proceed to non-substantiality, the world accordingly has too many maniacs. Oh it's very tiresome to disseminate Buddha 's wisdom because they are blind minded. Under the strongest sunshine, all over the world still can't survive the Dark Age. Religions, illusions, delusions, dogmas, Theism, hypothetical things, illogicality, lunacy, made-up Gods, made-up beliefs, fancies, nonsensical imaginations, blindmindedness, superstitions, fantasies, untruths, dominating things, hereditary brainwashing, selfinfatuation, egotism, slavery of suppositions, lust, passion, desires, materialism,sex,greed , thirst,voracity and insatiability dominate people who don't have enlightened eyes.) From Anatta, Sunyata and Anantakarn.
กราบสาธุค่ะ
น้อมกราบ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ🙏🙏🙏
เกิดดับไป ในความว่าง เปล่าทั้งนั้น
อย่าเพ้อฝัน บุญ,สวรรค์ เกิดชาติหน้า
งมงายเชื่อ เพื่อสนอง กิเลสตัณหา
หลงไขว่คว้า พายึดมั่น หมอกและลม
ตะเกียกตะกาย หมายไขว่คว้า หาอะไร
ทุกข์เท่าใด กว่าจะไป สู่จุดนั้น
ได้จริงหรือ คือความสุข สิ่งใฝ่ฝัน
เร็วแปรผัน พลันสู่ความ ว่างเปล่าไป
ไม่มีใคร ได้อะไร จริงสักอย่าง
เพื่อนร่วมทาง อย่างเดียวกัน ไปที่ไหน
อนันตกาล อนัตตา มาล้อมไว้
เอกภพใหญ่ สิ้นสุดใน สุญญตา
From Anatta, Sunyata and Tathata.
(พลังธรรมชาติที่ทรงพลังมากที่สุดเหนือเอกภพ
และทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีวันดับสิ้น ไม่มีจุดเริ่มต้น จุดสิ้นสุดใดใด ก็คือ อนัตตา สุญญตา และอนันตกาล=
Non-substantiality, insubstantiality, emptiness, vanity, vacuity, nothingness, evanescence, the Dark Energy and being devoid of self, and never ending time or
timelessness.)
สรุปกาลามสูตรของพระพุทธองค์ดังนี้
1. อย่าเพิ่งเชื่อ พวกตำนาน เรื่องปรำปรา เรื่องที่เล่าต่อกันมา
2. . อย่าเพิ่งเชื่อ พวกหนังสือสือตำรา สิ่งสลักจารึกไว้ตาม หิน ผนัง ที่ต่างๆ
3. .อย่าเพิ่งเชื่อตามประเพณีธรรมเนียม วัฒนธรรมที่ทำต่อๆ กัน มา
4. .อย่าเพิ่งเชื่อ ข่าวลือในสังคม
5. .อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเป็นตรรกศาสตร์ เพราะมิได้ผล 100% เสมอไป
6. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะตรงกับความคิด ความเชื่อของตน ที่มีอยู่ใน ใจ
7. อย่าเพิ่งเชื่อ สิ่งที่เปรียบเทียบทาง ปรัชญาต่างๆๆ เช่น เหมือน ขี่ช้างจับตั๊กแตน
8. .อย่าเพิ่งเชื่อ เมื่อเห็นแต่รูปลักษณ์ภายนอก อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเห็นด้วยตา คิดว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น มีถมเถไปสิ่งพรางตา ตบตา ภาพลวงตา ภาพจัดฉาก
9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูด น่าเชื่อถือ เช่นเป็น อาวุโส ผู้สูงอายุ เป็นผู้นำ เป็นผู้เชี่ยวชาญ
10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ที่สอนเรา อย่าเพิ่งเชื่อแม้ พระพุทธองค์ ทรงเป็นผู้กล่าวสอน
แต่จงเชื่อ เมื่อได้คิดพิจารณาไตร่ตรอง ทดลองเห็นแล้วก็ทำการพิสูจน์ทดสอบ ดู ด้วยวิจารณญาณ
From Anatta, Sunyata and Tathata.
. สาธุครับ
โลกเรานี้ มีพระคุณ มากที่สุด
อมนุษย์ ไม่หยุดการ ทำลายป่า
บ้าอวกาศ อวดชาติชั่ว เหมือนคนบ้า
ร่วมปัญญา ป้องโลกา อย่าดูดาย
เปลี่ยนทะเลทราย เป็นป่าไม้ ดีกว่าไหม
ป่า,ไม้ใหญ่ ปลูกแพร่ไป ทุกทุกที่
ตอบพระคุณ ผู้ขุนเรา คือโลกนี้
อย่าอัปรีย์ ย่ำยีรุก ป่าไม้เลย
From Anatta, Sunyata and Anantakarn
ขออนุโมทนาบุญสาธุกับผู้สร้างพระพุทธรูปสูงที่สุด10อันดับในประเทศไทยด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ🙏🙏🙏
ลัทธิแขก ลัทธิผี อีศวรพรหม
พราหมณ์ร่วมบ่ม ปมบิดเบือน พุทธปัญญา
พุทธองค์ มิทรงสอน ศาสนา
สอนปัญญา อย่าหลงแบก แอกทั้งปวง
พุทธองค์ มิทรงตั้ง ศาสนา
สอนปัญญา ที่เกิดมา พร้อมโลกนี้
ศาสนา เพิ่งมีมา ห้าพันปี
ทรงเน้นชี้ เอกภพนี้ ล้วนมายา
ไม่เอาใจ ไปเกาะเกี่ยว สิ่งใดใด
อิสระใจ ไม่ยึดถือ ไม่ยึดมั่น
เลิศสติ เลิศปัญญา ค่าอนันต์
จิตเช่นนั้น พลันเข้าสู่ พุทธปัญญา
From Anatta, Sunyata and Anantakarn
รูปธาตุ อรูปธาตุ ขาดปัญญา
รูปบูชา สารพัด ขัดสัจธรรม
กามธาตุ ยิ่งระบาด ครอบคลุมซ้ำ
มิอาจนำ ยุคมืดใด ให้พ้นเลย
พุทธองค์ มิประสงค์ คนกราบไหว้บูชา
ทรงสอนว่า เป็นตัณหา กิเลสล่อ
พระมากมาย กลับกระหาย อยากได้ส่อ
เป็นตัวล่อ สิ่งถวาย อยากได้บุญ
ร่วมกันขุน ศาสนาพุทธ สุดจอมปลอม
เพื่อหว่านล้อม ประโยชน์ผล จนล้นหลาม
ความโด่งดัง ความมั่งมี พระสวาปาม
สนองความ โลภกระหาย พระได้มา
From Anatta, Sunyata and Tathata.
(รูปธาตุ=บ้าหลงใหลคลั่งไคล้พวกวัตถุและรูปลักษณ์
อยู่ใต้อำนาจของวัตถุและรูปลักษณ์ ไม่สามารถอยู่เหนืออำนาจของ วัตถุและรูปลักษณ์
อรูปธาตุ= การตกเป็นทาสของ สิ่งที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง สิ่งงมงาย สิ่งทั้งหลายที่สมมุติขึ้นมา สิ่งปรุงแต่งขึ้นมา
สิ่งอุปาทาน สิ่งไสยศาสตร์ ปมอวิชชา ปมเทวนิยม
ปมพระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อภินิหาร ปาฏิหาริย์ มหัศจรรย์
สิ่งวิเศษ อิทธิฤทธิ์ สิ่งเพ้อเจ้อเพ้อฝัน ความบ้าบุญ ,เมาบุญ,บ้าบุญ ซึ่งพุทธองค์ทรงสอนว่า บุญเป็นกิเลสตัวหลอกล่อ ให้ใครๆ อยากได้ ,สวรรค์ ชาติหน้า ,การกราบไหว้บูชา ,
กามธาตุ= การตกเป็นทาสของ กิเลสตัณหาความอยากสารพัด )
พุทธทั้งหลาย สุดงมงาย พุทธไม่แท้
เกิดมาแค่ เป็นทาสา ขันธ์ห้าได้
ใต้ตาข่าย ของโลกีย์ ที่ตะเกียกตะกาย
แข่งกระหาย ได้แต่ความ ว่างเปล่าเอย
แข่งสังเวย รูปธาตุ อรูปธาตุ
ยิ่งระบาด กามธาตุ แพร่ไปทั่ว
พระมากมาย ได้เป็นมาร ที่แฝงตัว
หลอกมืดมัว มั่วถวาย ได้มั่งมี
พุทธกระพี้ ดีแต่บ้า เมาหลงบุญ
โง่ร่วมขุน พระทั้งหลาย ได้มั่งคั่ง
อิทธิพล ชั่วยกตน ให้โด่งดัง
กิเลสพลัง หวังกอบโกย สินมากมาย
ธรรมหลากหลาย มีมากมาย อย่ายึดติด
อิสระจิต อย่าเสพติด โลกความกลวง
อิสระใจ ไม่เกาะเกี่ยว ทุกโซ่บ่วง
เอกภพกลวง ธรรมทั้งปวง อนัตตา
From Anatta, Sunyata and Anantakarn.
(รูปธาตุ=การตกเป็นทาสบ้าหลงใหลคลั่งไคล้
พวกวัตถุและรูปลักษณ์ อยู่ใต้อำนาจของวัตถุและรูปลักษณ์
ไม่สามารถอยู่เหนืออำนาจของวัตถุและรูปลักษณ์ได้
อรูปธาตุ= ตกเป็นทาสบ้าหลงใหล ในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง,สิ่งอุปาทาน สิ่งงมงาย ปมอวิชชา ไสยศาสตร์ ความบ้าบุญเมาบุญหลงบุญ กระหายบุญ ซึ่งเป็นกิเลส ,โลกมายา ,มายาคติ,
สิ่งสมมุติ สิ่งที่ปรุงแต่งใจขึ้นมา สิ่งที่กุขึ้นมา
กามธาตุ= การตกเป็นทาสของ กิเลสตัณหาราคะ ความอยาก
สารพัด )
พุทธองค์ ทรงสละ ทุกสมบัติ
สงฆ์อยากจัด โกยสมบัติ โกยที่ดิน
ใต้จีวร ซ่อนกิเลสตัณหา กอบโกยสิน
หลอกหากิน พวกงมงาย ตายปัญญา
ใต้พฤกษา องค์พุทธา อยู่อาศัย
เดินเท้าไป มอบให้ดวง ตาสว่างแล
เอกบุรุษ สุดประเสริฐ น้ำหนึ่งแท้
ทรงแน่วแน่ ส่องสว่างแท้ แก่โลกเรา
From Anatta, Sunyata and Tathata.
มาดายเดียว กลับเดียวดาย ทุกรายแล
แก่นสารแท้ ทุกชีวี หามีไม่
เห็นแก่ตัว อย่างมืดมัว ได้ค่าใด
ทยอยไป ในความว่าง เปล่าเหมือนกัน
From Anatta, Sunyata and Tathata.
ปรุงแต่งใจ สนองใคร่ บรรลัยโง่
งมงายโซ บ้าสวรรค์ ฝันชาติหน้า
กระหายบุญ ขุนวิมาน บนท้องฟ้า
ชาวพุทธบ้า หาได้เห็น พระพุทธองค์
ต้องติดกรง อวิชชา พาสิ้นคิด
ติดคุกชีวิต ติดตลอด จนเข้าโลง
รูปธาตุ อรูปธาตุ ระบาดสุดโต่ง
แข่งจรรโลง กามธาตุ กวาดโกยกาม
(พระพุทธองค์= สัจจาที่พระพุทธองค์ทรงสอนมากที่สุด
เป็นความรู้เป็นปัญญา อันไปถึงที่สุดแล้วของเอกภพ
สามารถครอบคลุมเหนือโลกและเอกภพได้อย่างไร ??
รูปธาตุ= การตกเป็นทาสบ้าหลงใหลคลั่งไคล้พวกวัตถุ
และรูปลักษณ์ อยู่ใต้อำนาจของวัตถุและรูปลักษณ์ ไม่สามารถ อยู่เหนืออำนาจของวัตถุและรูปลักษณ์ เช่นการ
ข้าแข่งกันสร้างพระพุทธรูปใหญ่โต เจดีย์บ้าบอคอแตก
สถูปปัญญาอ่อน มากมาย เลวมาก ขัดคำสอนของ
พระพุทธองค์ ,
อรูปธาตุ=ความบ้าตกเป็นทาสสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง สิ่งปรุงแต่งจิตขึ้นมา กุขึ้นมา สมมุติขึ้นมา อย่างงมงาย สิ่งอุปาทาน ความเชื่อผิดๆ เช่น บ้าบุญ เมาบุญ กระหายบุญ อยากบุญ
"" พุทธองค์ทรงสอนว่า บุญคือกิเลส เพราะหมายถึง
หัวใจ บวม พอง ฟูขึ้นมา เพราะสิ่งที่ตนคาดหวัง สิ่งที่ตนปรารถนา วิ่งที่ตนอยากได้ สิ้งที่ตนคิดว่าได้แล้ว จึงเป็นกิเลส
หลอกล่อเหยื่อของพวกพระ ""
กามธาตุ= ความบ้าตกเป็นทาสของกิเลสตัณหา ความอยากสารพัด )
From Anatta, Sunyata and Tathata.
แข่งไขว่คว้า มายึดมั่น อะไรได้
ชีพทุกราย เร็วมลาย เหือดหายไป
แก่นสารแท้ แลตนแท้ หามีไม่
ทยอยไป เป็นธุลี ที่ปลายทาง
(Can we compete to hold, possess anything??
Every life quickly proceeds to evanescence.
Living things don't have true essence, substance, quintessence nor soul and are devoid of self.
They all gradually become dust at their destination.)
From Anatta, Sunyata and Tathata.
สิ่งทั้งหลาย ได้เป็นเพียง ภาพลวงตา
จับไขว่คว้า มายึดมั่น ไม่ได้จริง
อนัตตา พาว่างเปล่า เร็วทุกสิ่ง
แก่นสารจริง ทุกชีวัน นั้นไม่มี
From Anatta, Sunyata and Tathata.
อนิจจัง ล้วนทุกขัง อนัตตา
ทุกแหล่งหล้า หาได้พ้น จากไตรลักษณ์
แก่,เจ็บ,สลาย หมดใจกาย พึงตระหนัก
เร็วยิ่งนัก จักสู่ความ ว่างเปล่า,กลวง
From Anatta, Sunyata and Tathata.
สิ่งทั้งหลาย ล้วนมิได้ เป็นของใคร
แย่งคว้าไขว่ ยึดมั่นไว้ ไม่ได้จริง
ความว่างเปล่า ก้าวมากลืน เร็วอย่างยิ่ง
สรรพสิ่ง วิ่งคืนสู่ ผู้สร้างมา
From Anatta, Sunyata and Tathata.
(ผู้สร้างมา= the nature=ธรรมชาติ )
แอดอ่านผิดนะ ห้วยกระเจา ไม่ใช่ห้วยกระเจ้า
ว่าแต่ลำดับความสูงบางลำดับดูงงๆ อย่างพระยืนที่ร้อยเอ็ด แอดบอกสูงร้อยกว่าเมตร แต่อยู่ลำดับรองจากอันดับหนึ่งที่สูง 95 เมตร ก้เลยงงคับ
เกิด,กลิ้ง,เก่ง กิน,กาม,เกียรติ เบียดกันไป
กอบ,โกยไว้ กล,โกงให้ กูของกู
โกรธ,เกลียดกัน กลั่นแกล้ง,กัด ฟัดต่อสู้
กร่างให้ดู อยู่กีดกัน กั้นกรรมดี
(ระวัง 19 ก.ไก่ อันตรายคือ เกิด,กลิ้ง,เก่ง,กิน,กาม,เกียรติ,กอบ,โกย,เกลียด,กลั่นแกล้ง,กล,โกง,กูของกู,โกรธ,กัด,กีดกัน,กั้น ,กร่าง และกรรม)
From Anatta, Sunyata and Tathata.
สัจธรรม นำผิดที่ ไม่มีความหมาย
คนทั้งหลาย มิได้เห็น คุณค่าใด
พุทธปัญญา ค่าสูงสุด เห็นที่ไหน
ล้วนบอดใจ ในโลกมืด โลกมายา
( Verity communicated in wrong places
seems meaningless because general people
are unable to see its greatest value.
Buddha 's wisdom has the highest value
but can't be reached by them because
all people are blind minded under the
Dark Age and the world of illusions, delusions, dogmas, Theism, hypothetical things, illogicality, lunacy, made-up Gods, made-up beliefs, fancies, nonsensical imaginations, blindmindedness, superstitions, suppositions, false beliefs, dominating things, hereditary brainwashing, selfinfatuation, egotism, egocentricity, blind beliefs, lust, passion, desires, alluring insatiability, greed, thirst, voracity
and hunger for fake light. )
From Anatta, Sunyata and Tathata.
พุทธองค์ มิประสงค์ คนกราบไหว้บูชา
ทรงสอนว่า คือตัณหา กิเลสลวง
อนัตตา สุญญตา พาพ้นบ่วง.
อย่าหลงลวง การบูชา สารพัน
พุทธองค์ ทรงสละ ทุกสมบัติ
สงฆ์อยากจัด โกยสมบัติ โกยที่ดิน
กิเลสตัณหา ใต้ผ้าเหลือง หลอกโกยสิน
หลอกหากิน พวกงมงาย ตายปัญญา
เหนืออัตตา ย่อมพาสู่ ใกล้องค์พุทธ
ความคิดผุด พึงปล่อยวาง อย่างสายฟ้า
เมื่อไตร่ตรอง มองลึกดู สุญญาตา
พลันแจ่มจ้า เรามิใช่ สิ่งใดเลย
From Anatta, Sunyata and Tathata.
(องค์พุทธ= สิ่งที่พระพุทธองค์ ทรงสอนมากที่สุด,
คืออะไร ???? เป็นปัญญา ความรู้อันไปถึงที่สุดแล้วของเอกภพ สามารถ ครอบคลุม เหนือโลกและเอกภพได้ อย่างไร ??? พระพุทธองค์ ทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ตรงกันได้อย่างไรในวันวิสาขบูชา ???
พระพุทธองค์ ทรง เพียรพยายามหลายแสนชาติ
ก่อนตรัสรู้ หมายความว่าอะไร ????
ทำไมคำสอนของพระพุทธองค์ จึง มิใช่ศาสนา แต่เหนือศาสนา ใดใด???
ถ้าพวกพระ และชาวพุทธ ทั้งหลาย ตอบคำถามทั้งสี่ นี้ไม่ได้ ถือว่า เป็นพวก pseudoBuddhists และถ้าเกี่ยวข้องกับ
อภินิหาร ปาฏิหาริย์ มหัศจรรย์ อิทธิฤทธิ์ ย่อมคือคนบ้า
ถ้าสิ่งใด ขัดกับ ธรรมชาติบริสุทธิ์ วิวัฒนาการธรรมชาติบริสุทธิ์ วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ อนัตตา และ สุญญตา
ย่อมมิใช่คำสอนของพระพุทธองค์ แต่ตามใต้เงา ของ
ลัทธิแขก พราหมณ์ ปมเทวนิยม อวิชชา ไสยศาสตร์ ,ลัทธิผีวิญญาณ บ้าบอ คอแตก
"พระเลวร้าย เก่งลวดลาย หลอกหากิน
กอบโกยสิน หากินจาก เหยื่องมงาย
ไสยศาสตร์ ระบาดทั่ว ชั่วเลวร้าย
มารทำลาย พุทธปัญญา หลอกบ้าบุญ" )
มัวยึดมั่น กันทำไม ตัวกูของกู
ร่วมโลกอยู่ เพื่อนผู้ร่วม เดินทางไป
ร่วมปลายทาง อย่างเดียวกัน คือที่ไหน
ทยอยไป ในความว่าง เปล่าและกลวง
From Anatta, Sunyata and Tathata.
ไม่มีใคร ได้อะไร สักอย่างเลย
แม้สังเวย ความทะเยอทะยาน การคว้าไขว่
เพื่อนร่วมทาง อย่างเดียวกัน ร่วมไปไหน
เกิดดับไป ในความว่าง เปล่าทั้งปวง
อย่าหลงลวง มารตัวกู และของกู
ควรทันรู้ มารตัวกู อยู่จริงไหม
กิเลสตัณหา มาหลอกล่อ ทาสความใคร่
ไม่มีใคร ยึดกายใจ ตนได้เลย
From Anatta, Sunyata and Anantakarn.
พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์หน้าตักกว้าง39เมตรความสูง84เมตรควรจะเป็นอันดับ2ของไทย
กามธาตุ รูปธาตุ ระบาดทั่ว
แข่งเมามัว อรูปธาตุ ขาดไม่ได้
ตัณหากิเลส ผลอาเพศ ความงมงาย
คนมากมาย ติดคุกใต้ โลกมายา
พวกคนบ้า บนโลกนี้ จึงมีมาก
ไม่กระดาก ทุกข์วิบาก ทาสขันธ์ห้า
บำเรอใคร่ ให้กาย,ใจ จมูก,หู,ตา
เป็นทาสา ของปากตน จนเกิดภัย
แข่งหลงใหล ใคร่เป็นทาส ของวัตถุ
มุทะลุ ทาสรูปลักษณ์ ตระหนักไหม
กามธาตุ อรูปธาตุ ครอบงำใจ
บ้านเมืองไทย ไม่มียุค ปราชญ์ได้เลย
(กามธาตุ=ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหาราคะความอยากสารพัด
รูปธาตุ= ตกเป็นทาส บ้าหลงใหลคลั่งไคล้วัตถุและรูปลักษณ์ ,อยู่ใต้อำนาจของวัตถุและรูปลักษณ์ ,ไม่สามารถอยู่เหนืออำนาจของวัตถุและรูปลักษณ์ ได้
อรูปธาตุ= ตกเป็นทาสของ สิ่งไม่มีตัวตนอยู่จริง สิ่งงมงาย
สิ่งสมมุติปรุงแต่ง กุขึ้นมา และเป็นทาสของมัน พวกไสยศาสตร์ (ศาสตร์ แห่งการหลับใหลไม่สามารถตื่นขึ้นมาทางปัญญาได้ ),ปมอวิชชา ,เทวนิยม,ผีวิญญาณ,.สิ่งเพ้อเจ้อเพ้อฝัน เช่นชาติหน้า บ้าบุญ ซึ่งเป็นกิเลส,สวรรค์,นรก,
สิ่งอภินิหาร,ปาฏิหาริย์ มหัศจรรย์ อิทธิฤทธิ์ วิเศษ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่แสวงหาผลประโยชน์ ทางพาณิชย์,
ขันธ์ห้า= ปาก ,ตา,หู,จมูก,กายใจ ซึ่งล้วนแล้วมีความอยากทางกิเลสตัณหา ราคะอุปาทานความโลภมาก )
From Anatta, Sunyata and Anantakarn.
นับถือพระพุทธธรรมกายเทพมงคล
โลกมายา มาครอบงำ คนทั้งหลาย
ตะเกียกตะกาย หมายยึดถือ และยึดมั่น
เห็นแก่ตัว มัวปรุงแต่ง จิตเพ้อฝัน
ทุกชีวัน นั้นไม่มี แก่นสารจริง
สรรพสิ่ง เร็ววิ่งสู่ อนัตตา
กาลเวลา มาร่วมพร่า กลืนเร็วไว
สุญญตา มาล้อมกลืน เอกภพใหญ่
ควรยกใจ ให้เหนือมาร ตัวกูของกู
From Anatta, Sunyata and Anantakarn
(พลังธรรมชาติที่ทรงพลังมากที่สุดเหนือเอกภพ
และทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีวันดับ ตลอดไป คือ
อนัตตา สุญญตา = ความว่างเปล่า,การเกิดขึ้นแล้วดับไปในความว่างเปล่า และอนันตกาล )
กราบนมัสการหลวงพ่อเรื้อน ที่แต่งบทกวีด้วยครับ
@@user-kw1tb1fc1p
พระกาลี มีเกลื่อนกลาด ดาษดา
พุทธปัญญา ถูกศาสนา พุทธกลืนไป
หลอกบ้าบุญ ขุนพวกพระ ตะกละไว้
พุทธทั่วไป ไม่พ้นยุค มืดได้เลย
เอาศรัทธา เหนือปัญญา บ้าหรือดี
พวกกระพี้ ดีแต่เชื่อ เหนือปัญญา
ในโลกนี้ จึงมากมี พวกคนบ้า
บอดปัญญา พาเป็นทาส สิ่งงมงาย
คนทุกข์ใจ มักไปวัด ถูกเติมซ้ำ
พระระยำ หลอกทำบุญ ขุนพวกพระ
คนทุกข์ยาก ลำบากซ้ำ โดยพระตะกละ
เพราะโลภะ และโมหะ พระหลอกกิน
From Anatta, Sunyata and Tathata.
@@user-kw1tb1fc1p
พวกงมงาย ได้บ้าสร้าง วัตถุขึ้นมา
เป็นทาสา กราบบูชา พาบอดใจ
ไสยศาสตร์ ทับปัญญา หาตื่นไม่
โง่บรรลัย ตลอดไป จนเข้าโลง
From Anatta, Sunyata and Tathata.
@@user-kw1tb1fc1p
ไว้ใจทาง วางใจคน จนใจตาย
เพราะมากมาย ไม่ได้ถึง พุทธปัญญา
คนทั้งหลาย จึงกลายเป็น ทาสขันธ์ห้า
กิเลสตัณหา พาเป็นคน อันตราย
พวกงมงาย ไร้ยางอาย คล้ายคนบ้า
โลกมายา พาคนหลง ตัวกูของกู
สิ่งทั้งปวง สุญญตา น่าจะรู้
ชั่วสุดกู่ กูของกู มารร่างคน
พวกนักบวช ซ่อนโลภะ ตะกละกระหาย
หลอกงมงาย รูปธาตุ อรูปธาตุ
พุทธจอมปลอม หลอกโลกา บ้าระบาด
กามธาตุ แข่งคว้าไขว่ ไฟโลกีย์
From Anatta, Sunyata and Anantakarn .
(1..กามธาตุ=ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหาความอยากสาระพัด
2..รูปธาตุ=การตกเป็นทาส บ้าคลั่งไคล้ วัตถุ รูปลักษณ์ อยู่ใต้อำนาจ ของวัตถุและรูปลักษณ์ ไม่สามารถอยู่เหนือพวกวัตถุและรูปลักษณ์ได้ เช่น บ้าสร้างพระพุทธรูป โบสถ์ วิหารวัดหรูหรา เป็นวิมาน ส่อสันดานกิเลสตัณหา ,เจดีย์ พระธาตุ
พญานาคบ้าบอ ส่อหนังแขก แหกตา บ้าวัตถุมงคล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รูปบูชาบ้าบอสารพัด
3. อรูปธาตุ= การตกเป็นทาสของสิ่งไม่มีตัวตนอยู่จริง สิ่งสมมุติ ปรุงแต่งขึ้นมา สิ่งงมงายไร้สาระ ,อุปาทาน,ไสยศาสตร์ ,ปมเทวนิยมบ้าบอ เครื่องลางของขลัง ,บุญ สวรรค์ ชาติหน้า ผีวิญญาณบ้าบอ มายาคติ
โลกมายา สวดคาถา บ้าสวดมนต์ สารพัดสิ่งบ้า
ส่วนสมองอันตราย ทำให้คนโง่งมงาย ไม่เป็นตัวของตัวเองคือ
1. Ventromedial Prefrontal Cortex
1. Neocortex ทำให้คน โกหกหลอกลวงกันเก่ง
2. Pareidolia ทำให้ปรุงแต่งจิตสารพัด ฟุ้งซ่าน เพ้อเจ้อเพ้อฝัน ภาพลวงตา จิตหลอน ประสาทหลอน คิดไปเอง
3. Amygdala ทำให้หวาดกลัว สารพัดไร้สาระ จิตสับสน
ไม่สามารถแยกแยะออกได้ ว่าอยากจริง ไม่จริง ดีไม่ดี
4. Defective Prefrontal Cortex ทำให้ใช้สติปัญญา แย่ลง
5. Defective Anterior Cingulate Cortex ทำให้ไม่มีวิจารณญาณ การใช้เหตุผล ตรรกศาสตร์ได้
6. Defective Hippocampus ทำให้บันทึกความจำของสมองบังทึก จดจำ แต่สิ่งที่ถูกเสี้ยมสอน กันมาอย่างผิดๆๆ
7. Defective Hypothalamus ทำให้ การเก็บสะสมสติปัญญา แย่ลง
8. Defective Cerebellum ทำให้ระดับ IQ แย่ลงเรื่อยๆๆ
จินตนาการเพ้อฝัน เกินความจริง ความคิดแย่ลง
9. Limbic Systems เป็นตัวกระตุ้นกิเลสตัณหาราคะ ความอยาก สารพัดตกเป็นทาส ของขันธ์ ห้า ตัวกูของกู
10. Striatums ตัวสร้างสันดานไม่ดีของคน ซึ่งแก้ไข รักษาได้ยาก ซึ่งมันจะเริ่มตั้งแต่ Prefrontal Cortex, Hypothalamus และสาร Dopamine จะนำไปสู่
ส่วน Infralimbics ซึ่งจะกดอัดลึกลงไปๆๆ เป็นสันดานคน
ที่ Striatums
11. Nucleus Accumbens ส่วน ที่ทำให้เกิดการเสพติด
สารพัด ขาดไม่ได้ เช่น กิเลสตัณหาราคะอุปาทาน
ธรรมะหลอกลวง สิ่งปรุงแต่งใจ มากมายสารพัด
สรุปแล้วก็คือ โลกนี้ ยิ่งมีแต่คนบ้าๆๆๆๆ )
@@user-kw1tb1fc1p
คนยิ่งบ้า ศาสนาพุทธ สุดจอมปลอม
ลวงหล่อหลอม เป็นไสยศาสตร์ ระบาดทั่ว
เทวนิยม ปมอวิชชา หลอกเมามัว
กอบโกยทั่ว ผลจากเหยื่อ เชื่องมงาย
ในโลกนี้ จึงมากมี พวกคนบ้า
ไร้ดวงตา ที่สว่าง กลางแสงสุรีย์
พุทธปัญญา พาหลุดพ้น พวกกระพี้
มีอนัตตา สุญญตา มาสอนใจ
พระมากมาย ได้หลอกคน หลงบ้าบุญ
หลอกให้ขุน ความมั่งคั่ง โด่งดังได้
อวดศักสิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ มากอุบาย
หลอกงมงาย ได้ที่ดิน สินกอบโกย
(ภิกษุแปลว่า =ผู้ออกขออาหารบิณฑบาต,ผู้สอนชาวบ้าน
ให้ลดละกิเลสตัณหาราคะอุปาทาน
พระสงฆ์=monk=mono= ผู้บำเพ็ญตนสันโดษซึ่งพระพุทธองค์ ทรงสอนให้ บำเพ็ญตนสันโดษ คือ ไม่มีกิเลสตัณหา ราคะอุปาทาน การปรุงแต่งใจ มาเป็นเพื่อนอยู่ในใจ,
และไม่อยู่กับ พวกที่แสดง ถึงกิเลสตัณหา ความอยาก
การปรุงแต่งใจใดใด และถ้าสิ่ง ใด ขัดกับ อนัตตา สุญญตา,
ธรรมชาติบริสุทธิ์ วิวัฒนาการธรรมชาติบริสุทธิ์ และ
วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ ย่อมมิใช่ คำสอนของพระพุทธองค์ แต่อย่างใด สมัยพุทธองค์ทรงใช้ ภาษา ปรากฤต ซึ่งเป็นภาษาของอารยัน หรือแขกขาว และภาษาสันสกฤต พุทธองค์
ทรงสอนว่า คำ ว่า " บุญ" เป็นกิเลส เพราะหมายถึง
" หัวใจบวม พอง ฟูขึ้นมา เพราะ สิ่งที่ตนคาดหวัง ที่จะได้
สิ่งที่ตนปรารถนา อยากได้ สิ่งที่ตนคิดว่าได้มาแล้ว " จึงเป็นกิเลส ที่พวกภาษาบาลี บิดเบือน เป็นสิ่งโง่งมงาย ว่าจะได้ไปสวรรค์ ชาติหน้า พ้นเวรกรรม เป็นมายาคติ หลอกเหยื่อให้งมงาย ทุ่มถวาย ผลประโยชน์มาก มาย ที่พวกพระกระหาย
ยิ่งถูกหลอกให้งมงาย ข้ามคำสอนขั้นพื้นฐาน คือบ้า
1. กามธาตุ= การตกเป็นทาสของ กิเลสตัณหาราคะความอยาก สารพัด ความยึดมั่นถือมั่นสารพัด
2. รูปธาตุ= การตกเป็นทาสบ้าหลงใหลคลั่งไคล้พวกวัตถุและรูปลักษณ์ อยู่ใต้อำนาจของวัตถุและรูปลักษณ์ ไม่สามารถอยู่เหนืออำนาจของวัตถุและรูปลักษณ์ได้ เช่น บ้า รูปบูชา วัตถุบูชา เช่น พวกบ้าสร้างพระพุทธรูป เจดีย์ สถูป โบสถ์ วิหารวัดสวยหรูเป็นวิมาน บ้าบอคอแตก หลอกให้เหยื่อหลงเชื่อ ศรัทธา เหนือปัญญา พวกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระเครื่อง โต๊ะหมู่บูชา
อลังการ เพื่อให้ดูขลังศักดิ์สิทธิ์ หลอกล่อ และพวกวัตถุสารพัดสนองกิเลสความใคร่ต่างๆ
3. อรูปธาตุ= การตกเป็นทาสของสิ่งไม่มีตัวตนอยู่จริง เป็นสิ่งสมมุติ กุขึ้นมา แล้วเป็นทาสของมัน สิ่งอุปาทาน สิ่งไสยศาสตร์ อวิชชา มายาคติ สิ่งงมงายมากมาย เทวนิยม สวรรค์ ชาติหน้า เวรกรรม บุญ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อภินิหาร ปาฏิหาริย์ อิทธิฤทธิ์ มหัศจรรย์ ผีวิญญาณบ้าบอคอแตก
ล้วนแล้วเกิดจาก ส่วนสมอง ที่ทำให้คนโง่งมงาย คือ
Ventromedial Prefrontal Cortex, Pareidolia, Amygdala, Nucleus Accumbens, Striatums, Neocortex, Hippocampus ,defective Anterior Cingulate Cortex,
defective Prefrontal Cortex, Hypothalamus , defective Cerebellum and Pons ทำให้คนบ้างมงายตาบอด ใจบอด ปัญญาบอด ทั้งนั้น แล้วไอ้พวก พระนักบวชก็มีความละโมบโลภมาก กว่าประชาชนหลายเท่า เลย ทำลายพุทธปัญญา ไปหมดสิ้นแล้ว )
From Anatta, Sunyata and Tathata.
พวกหิวแสง แรงกิเลส ร้อนตัณหา
อวดอัตตา บ้าตัวกู และของกู
ผลประโยชน์ ล่อความอยาก มากเกินอู้
มารตัวกู และของกู อยู่ล้นใจ
สนองใคร่ ใฝ่เป็นทาส ของขันธ์ห้า
กิเลสตัณหา พาเป็นทาส คุมจิตใจ
เห็นแก่ตน พ้นอัตตา ได้ที่ไหน
ทาสรับใช้ ให้ทาสมาร ตัวกูของกู
From Anatta, Sunyata and Tathata.
อุดมคติ ถ้ามิมี ไร้ความหมาย
ล้วนเยื้องกราย เร็วได้สู่ อนัตตา
ในโลกนี้ จึงมากมี พวกคนบ้า
แผ่พุทธปัญญา เหนื่อยล้าเปล่า ไร้ผลดี
ใต้สุรีย์ ที่สว่าง กระจ่างจ้า
ทั่วโลกา หาได้พ้น ยุคมืดไม่
ศาสนา มายาคติ ครอบงำไว้
คนทั่วไป ไร้ดวงตา สว่างเอย
( If humans don't have ideals, it's very meaningless.
Because all quickly proceed to non-substantiality, the world accordingly has too many maniacs.
Oh it's very tiresome to disseminate Buddha 's wisdom because they are blind minded.
Under the strongest sunshine, all over the world
still can't survive the Dark Age. Religions, illusions, delusions, dogmas, Theism, hypothetical things, illogicality, lunacy, made-up Gods, made-up beliefs, fancies, nonsensical imaginations, blindmindedness, superstitions, fantasies, untruths, dominating things, hereditary brainwashing, selfinfatuation, egotism,
slavery of suppositions, lust, passion, desires,
materialism,sex,greed , thirst,voracity and insatiability
dominate people who don't have enlightened eyes.)
From Anatta, Sunyata and Anantakarn.
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
พวกหิวแสง แรงตัณหา กิเลสมาก
ไม่กระดาก อยากโด่งดัง อยากหน้าใหญ่
แข่งอยากดัง หวังประโยชน์ โลภโกยไว้
คนส่วนใหญ่ ไร้ปัญญา มาไตร่ตรอง
ไม่มองตน จนแก่ตาย มองไม่เห็น
อยากดังเด่น เน้นความหิว กระหายแสง
มารตัวกู และของกู อยู่ร้อนแรง
โลภหิวแสง แฝงเป็นพวก ยุคมืดเอย
From Anatta, Sunyata and Tathata.
มารตัวกู และของกู อยู่ครองโลก
วิปโยค ซ้ำเติมโลก หาสนไม่
ทาสขันธ์ห้า กิเลสตัณหา มาครอบใจ
ปัญญาใช้ ในการปล้น เอาเปรียบกัน
เลวมหันต์ กรรมพันธุ์ สืบกันมา
แข่งปัญญา พาชูคอ ชูหางไว้
คนพวกนี้ ไม่มีค่า สูงจิตใจ
เรียนสูงไย ไร้ความเป็น มนุษย์จริง
(มนุษย์=สิ่งมีชีวิต ที่มีจิตใจสูง ปัญญาสูง
และเหตุผลสูง
คน= สิ่งมีชีวิตที่แตก ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน )
From Anatta, Sunyata and Tathata.
ไม่มีใคร ได้อะไร จริงสักอย่าง
แข่งหวงก้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่ออะไร
รวยล้นฟ้า อนาถา ร่วมไปไหน
ร่วมทางไป ในความว่าง เปล่าและกลวง
From Anatta, Sunyata and Tathata.
ด้อยปัญญา เที่ยวพึ่งพา สิ่งศักดิ์สิทธิ์
อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ สานความเขลา
รูปธาตุ อรูปธาตุ หลอกมัวเมา
แข่งสวมเขา เอาความเชื่อ เหนือปัญญา
แข่งไขว่คว้า ได้บุญมา หนุนกอดนอน
กราบไหว้วอน สิ่งอภินิหาร ค้านปัญญา
โถโลกนี้ จึงมากมี พวกคนบ้า
กิเลสตัณหา พาเป็นทาส ไปจนตาย
From Anatta, Sunyata and Tathata.
(กามธาตุ= การตกเป็นทาสของกิเลสตัณหาราคะ
ความอยากสารพัด
รูปธาตุ= การตกเป็นทาสบ้าหลงใหลคลั่งไคล้พวกวัตถุ
และรูปลักษณ์ อยู่ใต้อำนาจของวัตถุและรูปลักษณ์,
ไม่สามารถอยู่เหนืออำนาจของวัตถุและรูปลักษณ์ได้
อรูปธาตุ= การตกเป็นทาสหลงใหล สิ่งที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง
,อุปาทาน ,ความเชื่อผิดๆ สิ่งงมงาย สิ่งอวิชชา
สิ่งปรุงแต่ง กุขึ้นมา สิ่งไสยศาสตร์ เช่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เครื่องลางของขลัง พวกพิธีสงฆ์ สวดมนต์สวดคาถา,น้ำมนต์สายสิญจน์ การเจิม ผ้ายันต์ พระเครื่อง สิ่ง ครอบงำถูกเสี้ยมสอนมา
เช่น เวรกรรม กรรมเก่า อยู่ใต้กรรม เป็นไปตามกรรม
บุญ ชาติหน้า สวรรค์ นรก ผีวิญญาณ กลับชาติมาเกิด
การ บ้าสร้างพระพุทธรูป วัตถุ รูปบูชา เจดีย์ โบสถ์วัดวิหาร
สวยหรูเป็นวิมาน ตามกิเลสตัณหาของพวกพระ
พระพุทธองค์ทรงสอนว่า "บุญ" เป็นภาษาสันสกฤต เป็นกิเลส
เพราะหมายความว่า "หัวใจบวม พอง ฟู ขึ้นมา เพราะ
สิ่งที่ตน คาดหวัง สิ่งที่คนอยากได้ สิ่งที่ตนปรารถนา
สิ่งที่ตนคิดว่าได้แล้ว " จึงเป็นกิเลสความอยาก
ผิด กับความหมายของภาษาบาลี ว่าเป็นสิ่งดี จะนำ สิ่งดีดีมาให้ตอบสนอง ในชาตินี้และชาติหน้า )
ในโลกนี้ ยิ่งมากมี แต่คนบ้า
น่าระอา บ้าอย่างนั้น บ้าอย่างนี้
บ้านั้นเสร็จ บ้าอย่างอื่น ตามทุกที
คนกาลี ไม่มีดี ตอบโลกา
ท่าขันธ์ห้า กิเลสตัณหา ตอบสนอง
ยิ่งคะนอง มารตัวกู และของกู
โลกป่วยหนัก ไม่ประจักษ์ ไม่รับรู้
มารตัวกู และของกู อยู่ล้นโลก
วิปโยค ซ้ำโลกา หาสนไม่
คนทั่วไป ไยต่ำค่า กว่าเดรัจฉาน
เห็นแก่ตน ดิ้นรนกอบ โกยทุกด้าน
ทะเยอทะยาน ควานได้ความ ว่างเปล่าเอย
From Anatta, Sunyata and Anantakarn.