สารคดี สายลมบูรพา ตอน 3 การทูตปิงปอง
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 2 ก.ค. 2020
- ใครจะเชื่อครับว่า ปิงปองลูกเล็ก ๆ นี้ สามารถเปลี่ยนโลกได้จริง ปี 2514 นักปิงปองมาดเซอร์ หนุ่มอเมริกันคนหนึ่งไปแข่งที่ญี่ปุ่น ตกรถของตัวเอง พอรถของนักปิงปองจีนผ่านมา ก็กระโดดขึ้นไปครับ หลังจากนั้น พอลงจากรถเท่านั้นแหละครับ สื่อมวลชนญี่ปุ่นพากันถ่ายรูปเป็นการใหญ่ นักปิงปองอเมริกันกับนักปิงปองจีน ยืนถ่ายรูปกันในขณะนั้นถือเป็นข่าวใหญ่อย่างยิ่งครับ จุดเล็กๆ นั้น ลูกปิงปองเล็กๆ นี้ สร้างกระแสจนมาถึงประเทศไทย นำไปสู่การทูตปิงปองระหว่างไทยกับจีน นำไปสู่ความยิ่งใหญ่ที่คาดไม่ถึงที่ว่าศัตรูร้ายกาจเพียงใด อุดมการณ์ยืนอยู่คนละข่างกันอย่างไร ความตึงเครียดของโลกเป็นไปอย่างคาดไม่ถึงอย่างไร ลูกนี้สามารถเปลี่ยน แปลงทุกอย่างได้ครับ
ถือว่าเป็นบันทึกเล่มสำคัญ ที่เสนอภาพวิธีเอาตัวรอดของลูกไก่สยาม ใต้เงื้อมเงาฉวัดเฉวียนของกรงเล็บอินทรีย์และกรงเล็บมังกร ที่อนุชนไก่สยาม ควรศึกษาและสำเหนียก
ต้องทพภาพยนตร์ ฉาย ไปทั่วโลก คนไทยขาดวิสัยทัศน์อะไรแบบนี้ ไม่เกี่ยวกับว่าคนดูไม่ดู แต่มันคือหน้าประวัติศาสตร์ ขอให้ตระหนัก
ชอบคุณสันติภาพให้ข้อมูลมากครับ เพิ่งทราบว่ามีบทบาทในด้านกีฬามานานมาก นับถือครับ
สารคดีชุดนี้ดีมากครับ น่าจะลองตามหานักปิงปอง อเมริกา และของจีน มาสัมภาษณ์ย้อนอดีต ในเรื่องสัมพันธภาพจากลูกปิงปองนะครับ
ชอบมากๆๆประวัติที่ไม่เคยรู้มาก่อน
ขอบคุณทางทีมงานที่จัดทำ เป็นประโยชน์มากครับ
กีฬาสร้างความสัมพันธ์ที่ดี มีรอยยิ้ม
นึกถึงforest gumpเลยตีปิงปอง
อยากให้มีซับภาษาต่างประเทศจังฮับ (:
ทรงคุณค่ามากครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณสาระดีดีค่ะ
น่าจะทำเป็น series สายลมบูรพา
ถ้าคุณสุทธิชัยจะทำสารคดีสายลมบูรพาเป็นหนังสือด้วยจักขอบพระคุณยิ่ง
ถ้าเอามาทำเป็นหนังหรือซีรี่ส์ คงสนุกมากๆ
Love
6AM
+1 อยากให้ผู้กำกับในHollywoodเอาไปทำหนังเลย
ก่อนหน้าสารคดีนี้หนึ่งเดือน ได้มีหนังสือตีพิมพ์ออกมาหนึ่งเล่ม น่าสนใจมากในเรื่องเนื้อหาความจริงและมุมมองอีกด้าน ชื่อหนังสือ "หยิกเล็บมังกร : ความทรงจำของ 'ซิว ซิววัน' ล่ามจีน-ไทยยุคนายกฯ 'โจว เอินไหล'" เป็นการเปิดบันทึกความจริง ความลวง ช่วงความสัมพันธ์ไทย-จีน ยุคสงครามเย็น ผ่านปากคำล่ามจีน-ไทยประจำตัวนายกฯ โจว เอินไหล และเติ้ง เสี่ยวผิง (ผู้เขียน ซิว ซิววัน, นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว) อยากให้ทีมงานคณะผู้จัดทำสารคดีนี้ได้ลองศึกษาเพิ่มเติมในส่วนนี้ด้วยครับ
😀😀