หลวงพ่อพิบูลย์ วัดพระแท่น อ.พิบูลรักษ์ จ.อุดรธานี
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 27 ก.ย. 2024
- หลวงปู่พิบูลย์ หรือ หลวงปู่บ้านแดง นามเดิมชื่อ พิบูลย์ แซ่ตัน เกิดที่บ้านพระเจ้า ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด บิดาเป็นคนจีนชื่อ สา และมารดาเป็นชาวจังหวัดร้อยเอ็ดชื่อ โสภา มีอาชีพทําไร่ทํานาและค้าขายจนมีฐานะมั่นคง
หลังอุปสมบทได้ไม่นาน หลวงปู่จึงได้เดินทางมาตั้งวัดพระแท่น และด้วยวัตรปฏิบัติที่ใกล้ชิดกับชาวบ้าน ส่งผลให้ท่านได้รับความเคารพเลื่อมใสจากผู้คนเป็นจำนวนมาก ท่านเป็นผู้นำพาชาวบ้านพัฒนาชุมชนและสภาพชีวิตความเป็นอยู่ต่างๆ นอกจากชื่อเสียงด้านการใช้เวทมนตร์คาถาแล้ว ท่านยังเป็นผู้นำในการพาชาวบ้านทำถนน มีการตั้งธนาคารข้าวเปลือก ธนาคารโค-กระบือ รวมทั้งชักชวนให้ชาวบ้านนุ่งขาวห่มขาวเข้าวัดถือศีลฟังธรรม การที่หลวงปู่พิบูลย์ได้รับความเคารพศรัทธาจากชาวบ้านในท้องถิ่นจนถือได้ว่าท่านเป็นพระเกจิชื่อดังอีกรูปหนึ่งในเขตเมืองอุดรในขณะนั้น ส่งผลให้ท่านได้รับความสนใจจาก “ฝ่ายปกครอง” ของรัฐบาลสยามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สาเหตุที่ทำให้ให้เรื่องราวของหลวงปู่พิบูลย์เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การเมืองอีสานแทนที่จะเป็นเพียงพระธรรมดารูปหนึ่ง สันนิษฐานว่าเกิดจากปัจจัย 2 ประการคือ การปฏิรูปสงฆ์ในอีสาน และการเกิดกบฏผู้มีบุญ
การปฏิรูปสงฆ์อีสาน : เมื่อพระครองลาวอยู่ใต้เงาการปกครองของสยาม
ในช่วงปลายสมัยรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 5 รัฐบาลสยามได้ริเริ่มปฏิรูปการปกครองในส่วนภูมิภาคขึ้นโดยใช้วิธีรวมอำนาจเข้าสู่รัฐบาลกลาง หนึ่งในการรวบอำนาจนั้นก็คือด้านศาสนา ผ่านการสถาปนาธรรมยุติกนิกายขึ้นในภาคอีสาน
ในระยะแรกเริ่ม การเผยแพร่แนวทางของพระธรรมยุติเริ่มต้นขึ้นที่เมืองอุบลราชธานี โดยมีพระเถระผู้เป็นกำลังสำคัญในช่วงนั้น อาทิ หลวงปู่ดี พันธุโล นิกายนี้ได้รับการสนับสนุนจากสงฆ์ชั้นสูงและเจ้านายฝ่ายปกครองในอีสานซึ่งส่วนมากล้วนเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งและขึ้นตรงต่อรัฐบาลสยาม วัตรปฏิบัติสำคัญของนิกายนี้มุ่งเน้นการปฏิบัติฝึกฝนจิตใจและรักษาข้อวัตรให้ใกล้เคียงกับพระไตรปิฎกมากที่สุด ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับวัตรปฎิบัติของ “พระครองลาว” ที่เป็นจารีตเดิมของสงฆ์อีสาน
สุดท้ายแล้ว เมื่อรัฐบาลสยามได้นิยามธรรมยุติกนิกายว่าเป็นนิกายที่มีวัตรปฏิบัติถูกต้องตรงตามหลักพระไตรปิฎก จึงส่งผลให้พระครองลาวงเช่นงหลวงปู่พิบูลย์ ไม่ได้รับการยอมรับในเรื่องข้อวัตรปฏิบัติและถูกเบียดขับออกจากพื้นที่ทางศาสนาในมุมมองของชนชั้นปกครองของสยาม
กบฏผู้มีบุญ : ความเชื่อเรื่อง“ผู้วิเศษ” ที่กระทบความมั่นคง
ลักษณะสำคัญของกบฏผู้มีบุญคือ ผู้นำแต่ละกลุ่มมักสถาปนาตนเป็นพระศรีอาริยเมตไตยและได้รับการยอมรับจากชาวบ้านในท้องถิ่นว่าเป็นผู้มีบุญบารมี มีอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติ สามารถเป็นที่พึ่งให้กับชาวบ้านเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่มีความร่มเย็น โดยผู้มีบุญจำนวนหนึ่งเป็นพระครองลาว ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของกบฏผู้มีบุญส่วนมากมักลงเอยด้วยการถูกปราบปรามอย่างเด็ดขาดจากภาครัฐ
บริบททางการเมืองทั้งสองประเด็น ส่งผลให้รัฐบาลกลางหวาดระแวงต่อชื่อเสียงและวัตรปฏิบัติของหลวงปู่พิบูลย์ซึ่งคล้ายคลึงกับบรรดาผู้นำกบฏผู้มีบุญ ในที่สุดท่านได้ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง มีการนำตัวท่านไปพิจารณาคดีรวมถึงการนำตัวไปถ่วงน้ำเพื่อพิสูจน์ความผิด เมื่อไม่สามารถชี้มูลความผิดที่ชัดเจนต่อตัวท่านได้ สุดท้ายรัฐบาลก็ควบคุมตัวหลวงปู่พิบูลย์มาไว้ที่วัดโพธิสมภรณ์ (พระอารามหลวงสังกัดธรรมยุติกนิกาย) กลางเมืองอุดร โดยกักบริเวณท่านไว้ที่กุฏิในป่าข้างสระน้ำท้ายวัดเป็นเวลากว่า 15 ปี จนท่านมรณภาพเมื่อปี 2489
หลังจากนั้น 4 ปี ลูกศิษย์จึงสามารถนำศพของท่านกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพระแท่น อำเภอพิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี โดยมีการฌาปนกิจศพหลวงปู่พิบูลย์เมื่อปี 2504 ที่สนามหน้าวัดพระแท่น (ข้อมูลบางส่วนกล่าวว่าท่านมีอายุ 135 ปี)
ผมศรัทธาท่านมากครับหัวหน้า หลวงพ่อพิบูลย์
เข้ามาชมค่ะ กราบนมัสการด้วยน่ะค่ะ
กราบนมัสการหลวงพ่อพิบูลย์ด้วยครับ
ติดตามอยู่ค่ะหัวหน้า
จ้า ขอบใจจ้า
ผมก็ไปหลายครั้งแล้วครับ
กราบสาธุครับ หลวงพ่อพิบูลย์ผมเคารพท่านมากครับ
น่าไปเที่ยวน่ะครับใกล้บ้านด้วย
ท่านนาาเคารพมากน่ะครับ คนแถวนั้นเคารพศรัทธาท่านมาก
พ่อหนูมีเหรียญหลวงพ่อพิบูลย์ด้วยน่ะ
สมัยนั้นใครเป็นผู้มีวิชาทั้งจริงหรือไม่จริง ถ้ามีคนนับถือมากๆจะโดนข้อหากบฏผีบุญ ผมก็เคยได้ยินมาครับ
จริงค่ะตอนเด็กย่าเคยเล่าให้ฟัง
ตามประวัติท่านเป็นเช่นนั้นครับ ท่านถูกจับไปถ่วงน้ำ 7 วัน 7 คืน
เงิน 800 บาท สร้างโบสถ์ได้ทั้งหลัง
โบสถ์ทั้งหลังสร้างแปดร้อยบาท เป็นไปได้น่ะครับ
ค่าเงินสมัยนั้นน่ะ
กราบนมัสการน่ะค่ะ
วัดสวยมากค่ะ
เงิน 800 สมัยนั้นคงเท่ากับ 800000 เลยมั้ง 555
น่าจะประมาณนั้นน่ะครับ
😇😇😇😇😇😍😍😍
กราบสาธุๆๆ ครับ
🥰😍🤩❤️🧡💛🙏🙏🙏
😍😍😍