วีดีโอ

สาธุครับ

สาธุสาธุๆๆ🙏🙏🪷🪷🪷

สาธุ....ขอรับ

สาธุ....ขอรับ

🙏🙏🙏🌷เจ้าค่ะ

สาธุสาธุค่ะ🙏🙏🪷🪷🪷

น้อมกราบอนุโมทนาค่ะ

🙏🙏🙏

สาธุ สาธุ สาธุ

ขอขอบคุณ

ขอขอบคุณ

สาธุๆๆ

สาธุ สาธุ สาธุ

สาธุครับผม

❤❤❤

🙇‍♂️🙇‍♂️🙇‍♂️

🙏🙏🙏🙏🙏

สาธุ สาธุ สาธุ

สาธุๆๆ

สาธุ สาธุ สาธุ

ความต่างของ "อัตตา กับ อนัตตา"ขณะปัจจุบัน เช่น ตา(อัตตา)กับรูปของใครคนหนึ่ง(อัตตา)กระทบกัน เกิด "รูปสัญญา"เป็นธัมมารมณ์กระทบใจแล้วขันธ์5เกิดขึ้นและดับไปพร้อมกัน ไม่มีตัวคนที่ได้เห็นนั้นในขันธ์ 5 เลย จึงว่าขันธ์5เป็น"อนัตตา"แต่จิตต์ของปุถุชนก็ยังเห็นว่ามีตัวตนของคนนั้นในขันธ์5อยู่ จึงชื่อว่า ไม่เห็นความจริง หรือ อยู่กับสมมุติจนเป็นอุปนิสัยมานับภพชาติไม่ถ้วน

กราบสาธุค่ะ

สาธุครับ หากแยกเป็น "กรรม และ ผลกรรมหรือวิบากกรรม"ตามปฏิจจสมุปบาท จะได้ว่า ปัจจัยที่1-3เป็นกรรมเก่า ส่งผลให้เกิดชาติปัจจุบันคือปัจจัยที่4-9 และชาตินี้ปุถุชนก็ทำกรรมใหม่ทางกาย-วาจา-ใจตลอดชีวิต ผลกรรมหรือวิบากกรรมใหม่ของชาตินี้ จึงส่งให้ไปเกิดใหม่ชาติหน้าคือปัจจัยที่ 10-12 **การไม่สร้างกรรมใหม่คือการทำให้ตน"รู้แจ้งเห็นแจ้ง"ในธาตุโลก อายตนโลก ขันธโลกของตนด้วย"ศีล สมาธิ ปัญญา"จึงละหรือดับอุปาทาน(9)ได้ ภพ(10)โครงสร้างชาติใหม่ก็ดับ **ในพระบาลีจึงว่า "อัคคัง ฐานัง มนุสเสสุ สัตตะ วิสุทธิยา"

สาธุสาธุค่ะ🙏🙏🪷🪷🪷

สาธุ สาธุ สาธุ

สาธุ สาธุ สาธุ

สาธุครับผม

สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

อัตตาและอนัตตานั้นตรงข้ามกัน ทั้งนี้ อัตตาคือ ตัวตน(เกิดและดับ) แต่ว่า อนัตตาคือ ไม่มีตัวตน(ไม่เกิดไม่ดับ) ดังที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้รู้ว่า รูปเป็นอัตตามิใช่อนัตตา

กราบนมัสการพระอาจารย์ คึกฤทธิ์ฯ กราบขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

สาธุสาธุค่ะ🙏🙏🪷🪷🪷

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก.บุคคลส่วนมากยังทำภาระกิจไม่เสร็จสิ้นแต่รู้ว่าจักต้องตาย ก็พยายามดิ้นรนเพื่อจะไม่ต้องตาย.ความต้องการของจิตเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นวิญญาอาหารที่จะหล่อเลี้ยงนามรูปต่อไป.อวิชา.สังขาร.วิญญาณ.นามรูป.ฯลฯ.ฉะนั้นเมื่อบุคคลปลงใจได้แล้วจึงจะดับนามรูปได้.ผู้ป่วยใกล้ตายก็จะตายเร็วขึ้นหากเป็นโรคเรื้อรังรักษาไม่หายแค่ประคับประคองก็จะไม่เป็นภาระหมอและผู้ดูแล... ผู้ป่วยต้องมีความรู้ปฎิจสมุปบาท มีวิชาเพื่อดับอวิชา แล้วดับสังขาร แล้วหยุดให้อาหารวิญญาณ วิญญาณก็จะดับ.นามรูปก็ดับตามต่อไป เท่านี้ก็ไม่ต้องนอนทรมาณ.จึงมีคำพูดว่า..แล้วแต่บุญแต่กรรม..ลองคิดพิจารณาดูว่าจริงไหม

สาธุครับ🙏🏼

สาธุ สาธุ สาธุ

สาธุครับ🙏🏼

สาธุ สาธุ สาธุ

สาธุครับผม

กราบนมัสการพระอาจารย์ คึกฤทธิ์ฯ กราบขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

🙇‍♂️🙇‍♂️🙇‍♂️

สาธุ สาธุ สาธุ

🙏🙏🙏

ตอน มีการ กระทบ

ถึงที่สุดแห่งโลกก็ถึงพระนิพพาน *โลก ได้แก่(1)ธาตุโลก คือกายเกิดจากธาตุ4มีดิน น้ำ ลม ไฟประชุมกันในรูปแบบของชีวิต(2)อายตนโลก ได้แก่ อายตนภายใน6ล้วนเกี่ยวข้องกับธาตุโลก และอายตนภายนอก6ก็เกี่ยวข้องกับธาตุโลก (3)ขันธโลก คือขันธ์ 5 มีรูป1นาม4 เกี่ยวข้องกับการกระทบกันของอายตนะภายใน6กับอายตนภายนอก6 **เมื่อบุคคล"รู้และเห็น"ความจริงของ"ธาตุโลก อายตนโลก ขันธโลก"ด้วยกำลังของ"ศีล สมาธิ ปัญญา"ในตนแล้ว ก็ถึงที่สุดแห่งโลก จึงเข้าถึง "พระนิพพาน"

จิตต์(จิตตัง)คือวิญญาณธาตุเป็น "อสังขตะ"มีลักษณะรู้ ไม่มีการเกิดดับ ส่วนวิญญาณขันธ์ซึ่งเป็นวิถีจิตต์หรือวิถึวิญญาณในขันธ์5 (รูปนาม)เป็น"สังขตะ"มีการเกิดดับ *ท่านจึงว่า "บุคคลเห็นการเกิด-ดับของรูปนามเพียงวันเดียว ประเสริฐกว่าผู้มีอายุ100ปีแต่ไม่เห็นการเกิดดับของรูปนาม" (รูปนาม เป็นสังขตะมีเกิดดับ ส่วนจิตต์เป็นอสังขตะเป็นธาตุรู้ ไม่มีการเกิดดับ)

สาธุ

🙇‍♂️🙇‍♂️🙇‍♂️

สาธุ สาธุ สาธุ

สาธุครับผม

หายใจเข้า ก็เกิดดับ ออก ก็เกิดดับ การใช้ภาษามนุษย์อธิบายภาษาธรรมะชาติไม่ได้ ลมผ่านเข้า อธิบายภาษาวิทยาศาสตร์ทั้งฟิสิกส์และทางการแพทย์ได้ แบบคร่าวสุด คือลมผ่านก่อนเข้าปอดเกิดการเปลี่ยนแปลงธาตุขนาดเล็กด้วยโพรงจมูกกรองอากาศ หลายขั้นตอน เช่นเครื่องดมกลิ่น และส่งสัญญาให้จับเชื้อโรค หรืออาจแปลงเป็นธาตุต่างเช่นดึงแคลเซี่ยมหรือเพิ่มแคลเซี่ยม รวมทั้งแปลงธาตุในลมเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของธาตุอนุภาค เป็นคุฯสมบัติทางไฟฟ้าทแม่เหล็ก แรงเคลื่อนฟิสิกส์ และอย่างอืื่นมากมาย แค่ลมผ่านแก้วหูtimpanic เกิดสัตว์ขนาดเล็ก(เชื้อ แบคทีเรีย ไวรัสหรือ รา ชนิดต่างที่ประกอบเป็นอวัยวะ)มากมายหลายหนื่นจนถึงล้านๆชนิด ทำให้เกิด อยาตนะ รูป รส กลิ่นเสียง กายสัมผัส และธรรมารมย์ ได้เวทนาและเป็นไปตามปฏิจสมุปบาทครบหนึ่งรอบหลายอยาตนะ อธิบายได้แคนี้ มันคือมหัสจรรย์ของธรรมะชาติร้อยแปดกรณี จนต้องปล่อยวางเพราะอธิบายได้ แม้สิ่งมีชีวิตระดับต่ำเช่นปลวก ยุง มันทำงานได้อย่างไร

สาธุสาธุค่ะ🙏🙏🪷🪷🪷