วีดีโอ

ดึกแล้วครับ อย่าฝืนเลย😅

ไม่เข้าใจความคิดเห็นที่กล่าวมาครับผม รบกวนช่วยชี้แจงเพิ่มเติมด้วยครับ… มีการบันทึกการใช้ปืนในสงครามครั้งแรกในปีค.ศ. 1368 ครับ แต่ไม่เข้าใจว่าโดยสามัธสำนึกแล้ว ประวัติศาสตร์ในยุคก่อนหน้านั้นมีความจริงน้อยลงอย่างไรครับ

@@MythistoryTHเรื่องปืนผมเข้าใจผิดเองครับ เเต่keyที่หมายถึงคือการใช้คำว่าจริงในชื่อคลิป ซึ่งในการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ มักจะหลีกเลี่ยงคำนี้เพราะมักจะมีเรื่องของการเพิ่มเสริมเติมเเต่งในนิยาย โดยเฉพาะพวกตำนานเล่าปากต่อปาก ถ้าเป็นพวกจดหมายเหตุ การบันทึกต่างๆยังพอมีน้ำหนัก ซึ่งจากเนื้อหาเเละหลักฐานในเรื่องของคลิปนี้มีความเป็นไปได้จริงค่อนข้างยากเเละหลักฐานไม่ชัดเจน ผมเลยไม่เเนะนำให้ตั้งชื่อคลิปว่า"เรื่องจริง" ครับ

@@versesonthfloor7604 ตรงนี้ส่วนตัวเห็นด้วยเป็นส่วนใหญ่ครับ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าเรืองราวนี้เป็นส่วนผสมของระหว่างเรื่องเล่าและประวัติศาสตร์ยุค Heian ที่ถูกบันทึกไว้ใน The Tale of Heike ครับ ขอบคุณที่ชี้แจงและแสดงความคิดเห็นครับผม😌

ความจริงแล้วต้องฟังความทั้ง 2 ฝั่งนั้นแหละครับ ข้อมูลของผมส่วนใหญ่มาจากบันทึกของอียิปต์ เพราะอียิปต์ทำการบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างละเอียด และมีหลักฐานถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังมีความเห็นแตกออกไปว่าความจริงแล้วอียิปต์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และการบันทึกว่าตนชนะเป็น Propaganda ครับ😌

ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ครับผม ข้อมูลน่าสนใจมากครับ ผมจะตอบเป็นเรื่อง ๆ เท่าที่รู้และเข้าใจจากข้อมูลที่สืบหามานะครับ ซึ่งประเด็นหลัก ๆ จะเน้นไปที่เรื่อง แม่ทัพหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น... 1. Hangaku Gozen... จริงอยู่ครับที่นางเริ่มสร้างวีรกรรมให้ตนเองอย่างชัดเจนด้านฝีมือการยิงธนูในการก่อจลาจลในปี 1201 ซึ่งสงครามเก็นเปเกิดขึ้นในปี 1180-1185 ถ้าหากนับจากปีเริ่มต้นแล้วก็ห่างกันถึง 21 ปีเลยทีเดียว และจากบันทึกในประวัติศาสตร์ไม่มีการระบุแน่นอนถึงปีเกิดของนางอย่างชัดเจนครับ เพียงแต่กล่าวกว้าง ๆ ว่ามีชีวิตอยู่ในช่วงปลาย Heian และไปถึงช่วงต้นของยุค Kamakura เท่านั้นเอง ถ้าหากว่านางเป็นแม่ทัพก่อนหน้าโทโมเอะจริง ๆ แสดงว่านางจะต้องเป็นแม่ทัพที่มีอายุน้อยมากครับ และในเวลาถัดมาจะต้องมีอายุมากพอตัวด้วยครับก่อนที่จะสร้างวีรกรรมและแต่งงานในช่วงปี 1201 อีกทั้งใน The Tale of Heike ไม่มีการกล่าวถึงชื่อนางเลยแม้แต่ครั้งเดียวครับ ซึ่งอาจจะยืนยันได้ว่านางไม่ได้มีบทบาทสำคัญใด ๆ ในศึกเก็นเปนั้นเองครับ 2. ความสวยของโทโมเอะ... ตรงนี้อาจจะไม่ได้ถูกกล่าวถึงมากมายใน The Tale of Heike ครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย ซึ่งมีคำกล่าวดังนี้ "Tomoe was especially beautiful, with white skin, long hair, and charming features. She was also a remarkably strong archer, and as a swordswoman she was a warrior worth a thousand, ready to confront a demon or god, mounted or on foot." ซึ่งถูกกล่าวในบทที่ 9 ตอนที่ 4) The Death of Kiso ซึ่งสคริปต์ที่ผมพูดในคลิปก็แปลมาจากข้อความดังที่กล่าวมานี้เลยครับ 3. พระองค์ Jingū... การรุกรานเกาหลีหลังจากสามีของนางตายไปในปีค.ศ. 200 และจัดการแก้แค้นให้สามีเรียบร้อยจึงเริ่มยุคสมัยของนางในปี 201 จากบันทึก Nihon Shoki และ Kojiki หรือ History of Japan ซึ่งมีการบอกเล่าเรื่องราวตำนานปรณัมต่าง ๆ ผสมกับประวัติศาสตร์ โดยที่มีเทพเจ้าเป็นแรงขับเคลื่อนเหตุการณ์ต่าง ๆ ด้วย ซึ่งการกล่าวที่ว่านางนำกองทัพญี่ปุ่นไปบุกอาณาจักรเกาหลี ซึ่งนางมีบทบาททั้งด้านกลยุทธ และผู้นำในการศึก ก็มาจากบันทึกนี้เช่นกัน เพียงแต่ว่าในเชิงประวัติศาสตร์แล้ว ข้อมูลเหล่านี้ยังมีความเป็นตำนานผสมกับประวัติศาสตร์ครับ ซึ่งยังชี้ชัดไม่ได้ว่านางมีตัวตนอยู่จริงไหม และวีรกรรมของนางเกิดขึ้นจริงรึเปล่า เหตุเพราะหลักฐานในตรงนี้ไม่มีมายืนยันอย่างชัดเจน และยังมีหลักฐานอื่น ๆ เข้ามาแย้งอีกต่างหาก ที่มีการกล่าวว่าจักรพรรดิรุ่นแรก ๆ ของญี่ปุ่นเป็นลูกหลานของหน้าเผ่าคนขี่ม้าผู้นำการขยายดินแดนจากเกาหลี... ผิดกันกลับทาง Tomoe ที่ถูกเข้าใจและยอมรับกันอย่างแพร่หลายครับว่านางเป็นแม่ทัพคนแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ด้วยหลักฐาน บทกวี การบันทึกมากมายที่กล่าวถึงนางในบทบาทนี้ครับ ในตรงนี้ผมแนะนำหนังสือ Samurai Women 1184-1877 เขียนโดย Tephen Turnbull ไว้สำหรับศึกษาเพิ่มเติมถ้าหากว่าสนใจนะครับ ซึ่งหนังสือเล่มนี้มีการสรุปเรื่องราวของนักรบหญิงในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแบบรวบรัดแต่ก็น่าสนใจทีเดียว 4. Hōjō Masako... ไม่มีการกล่าวใด ๆ เลยครับว่านางเคยมีบทบาทเป็นแม่ทัพหญิงมาก่อน ทั้งในยุคสมัย Heian และ Kamakura แต่มีการกล่าวถึงอย่างมากมายเลยครับว่านางเป็นหญิงแกร่งในด้านการเมืองอย่างชัดเจน ฉลาดด้านกลยุทธการปกครอง และด้านการรักษาอำนาจการปกครองของโชกุน ซึ่งก็คือโชกุนทั้ง 3 รุ่นในครอบครัวของนางนั้นเองครับ สามี และลูกชายทั้ง 2

@@MythistoryTH ขอบคุณสำหรับหนังสือแนะนำค่ะ ส่วนตัว เราไม่ค่อยได้อ่านบทแปลจากนักประวัติศาสตร์ทางตะวันตกเท่าไหร่ จะลองไปตามอ่านดูนะคะ ส่วนเรื่อง "คนแรก" ถ้านับเอาตามเหตุการณ์ก่อนหลัง ก้ไม่ผิดค่ะ ส่วนเรื่องอายุ เอาจริง ๆ การบอกว่า หากเป็นแม่ทัพในช่วงนั้นจะอายุน้อยมาก โทโมเอะโกะเซนเองก็ดี หรือ ฮันกะคุโกะเซนเองก็ดี ไม่มีการระบุ วันเกิด วันตายชัดเจนค่ะ โทโมเอะรู้แค่วันตาย แต่วันเกิดไม่มีบันทึก ฮันกะคุเองก็เช่นกัน อนนะมูฉะ ไม่ค่อยมีประวัติละเอียด แต่ .... ฮันกะคุโกะเซน มีสามีคนหนึ่งที่ได้แต่งงานหลังเจอมินาโมโตะโยริอิเอะคือ อะซาริ โยชิโตะ 浅利義遠 1149 - 1221 ถ้าจำไม่ผิด ในบันทึกอะซุมะคากามิ จะบรรยายว่า เขาวัยไล่เลี่ยกัน และฮันกะคุ ตอนรบป้องกันปราสาท มีศํกดิ์เป็นท่านป้าของโจ สุเกโมริ 城資盛 หากอาซาริเกิด 1149 ... ในปี 1201ก็อายุ 51 - 52 แล้วนะคะ ถ้าถัวไล่เฉลี่ยให้ฮันกะคุ อายุซํก 40+ ปลาย ๆ ณ 1201 ในสงครามเกนเปย์ท้าย ๆ ซํก 1182 นางก็คงซัก 20+ เป็นวัยที่ออกรบได้เชี่ยวชาญแล้วอยู่ดีค่ะ ... การที่นางไม่มีชื่ออะไรในสงครามก่อนหน้า ส่วนตัวมองว่า เป็นตระกูลย่อยที่ยังไม่ได้มีบทบาทอะไร + โซนเอชิโกะนี่ เรียกได้ว่า บ้านนอก

@@baanaabee ส่วนตัวเคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ครับ ไม่สามารถอ่านวรรณกรรม และการบันทึกจากต้นฉบับโดยไม่ผ่านการแปลเป็นภาษาอังกฤษอีกทีได้ แหล่งข้อมูลต่าง ๆ ของผมก็จะได้มาจากนักเขียนชาติตะวันตกอีกทีนั้นแหละครับ… ส่วนเรื่องประเด็นการวิเคราะห์อายุของ Hangaku น่าสนใจมากครับ ส่วนตัวมองว่าหลังรบพ่ายไปในปี 1201 แล้วนางจะสวยจนโดดเด่นแม้จะแต่งตัวเป็นชายก็ตาม เลยคิดว่านางน่าจะยังมีความสาวอยู่ พร้อมด้วยเรื่องบริบทและธรรมเนียมการแต่งงานในสมัยนั้น ในมุมของผู้หญิงจะเกิดขึ้นเร็วกว่าในปัจจุบันมาก และในมุมของผู้ชาย ต่อก็อายุมากแล้วมาแต่งกับเด็กสาวก็ยังเป็นเรื่องที่ปกติอยู่ เลยวิเคราะห์ไปแบบนั้นครับ และประเด็นส่วนใหญ่ที่ว่ามาก็เห็นด้วยเช่นกันครับผม😌

ขอบคุณที่สนับสนุนเรื่อยมาครับ😌

ติดตามทุกคลิป❤

คนในสมัยนั้นคงไม่เหลี่ยมขนาดนั้นหลอกครับอีกอย่างถ้าสั่งอย่างเดียวไม่ลงไปช่วยรบคุมคน300ที่รู้ว่ายังไงก็แพ้ไม่ได้หรอกครับ300นั้นต้องมั่นใจในผู้นำทัพขนาดถึงยอมรบกับการที่รู้ว่าแทบไม่มีทางชนะ

@@NataphongSrisawang เหลี่ยมอะไร มันคือธรรมเนียมปฏิบัติ ถ้าเห็นท่าไม่ดีองครักษ์จะกันหัวหน้าออกจากสนามรบ เพราะถ้าหัวหน้าตายทุกอย่างจบ ถือว่าแพ้

300คนแนวรบมันไม่กว้างขนาดนั้นหรอครับอย่างใงก็ต้องออกไปรบ

ดีไม่ดีความเป็นจริงน่าจะโดนข่มขืน แต่แค่แต่งเรื่องขึ้นมาให้เป็นวีรบุรุษ

ส่วนตัวยังไม่เคยเห็นว่ามีการเอาเรื่องราวของเธอไปทำเป็นภาพยนตร์นะครับ แต่ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นมีการกล่าวถึงอยู่บ่อยครั้ง ได้รับแรงบันดาลใจไปทำตัวละครในสื่ออื่น ๆ อยู่บ้าง แต่ถ้าไม่ติดเรื่องการดูภาพยนตร์เชิงสารคดีก็มีอยู่ 1 ตอนจากซีรี่ย์เรื่อง Ancient Assasins ในซีซันที่ 2 ตอนที่ 3 ครับ😌

ความเป็นจริงมีหนีแน่นอนถึงรอด

ถ้ารบกันกลางสมรภูมิตรงๆแบบนี้ เก่งแค่ไหน300ก็แพ้ 6000 ยิ่งทั้ง6000 เป็นทหารม้า ด้วยยิ่งแล้วใหญ่

@@user-qk3li8ox6hถ้าพื้นราบยังไงก้อเเพ้ เเต่ถ้าให้ม้าวิ่งขึ้นเนินเขา ใช้พลธนูคอยยิงกินตัวม้ากับคนไปเรื่อยๆ ยิ่ง กำจัดหัวหมู่ หัวหน้า เเม่ทัพได้ไว ก้อทำได้เเต่อาจะจะเสียคนไปเยอะคับ

​@@user-qk3li8ox6hก็น่าจะมีภูมิประเทศเป็นตัวช่วยแหละครับเขาคงไม่โง่พอที่รู้ว่าตัวเองเป็นรอง20เท่าวิ่งใส่ตรงๆหรอกมั้งครับ

@@NataphongSrisawang จะภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศ หรือกลลวงอันใดก่แล้วแต่ ในยุคที่สงครามยังเป็นสงครามประชิด อย่างมากก็แค่ธนูแต่อย่าลืมว่าคู่ต่อสู้ก็มีธนูเหมือนกัน ไม่มีปืนหรืออาวุธหนักยิงระยะไกลเช่นปืนใหญ่ยุคปัจจุบัน ยังไง300คนก็ไม่มีทางชนะ6000คนหรอก ลองคิดดูง่ายๆ 1-1 ดาบคนล่ะเล่ม ผมให้ไม่เกิน 10 นาที ถ้าไม่บังเอิญแทงหรือฟันกันตายก่อน ยังไงก็หมดแรง ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วย ช่วยคำนึงถึงความเป็นจริงให้มากหน่อยนะ

ข้อมูลถูกต้องแล้วครับ ทั้งสอง ณ เวลานั้นคือจักรวรรดิครับผม😌

@@MythistoryTH ไม่ใช่จักรวรรดิ จีนคือจักรวรรดิฝ่ายเดียวเพราะยิ่งใหญ่มากเเละเจริญรุ่งเรืองมาก

😊❤

มีครับซีรีย์แต่ฉายในประเทศ

คนญี่ปุ่นบ้าผู้ชายไงถึงไม่สร้างให่ผู้เด่น