สวัสดีครับพี่น้องที่รักในพระคริสต์
ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงเปิดตาให้ได้
1.เข้าใจเรื่องราชอาณาจักรสวรรค์ที่จะมาตั้งอยู่เป็นเวลาพันปีในยุคหน้า
2. เข้าใจเรื่องแสวงหาความชอบธรรมของพระคริสต์หรือพระเจ้าทำแทนเราหรือพระคริสตทำแทนหรือด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณที่ทำผ่านเรา
# พระองค์ผู้ทรงทำกิจอยู่ในเราจะทรงทำกิจสำเร็จในชีวิตของเราที่พึ่งพาพระองค์จนถึงวันที่พระองค์เสด็จมาแน่นอน
2 เธสะโลนิกา3:12-18
12เราจึงกำชับและเตือนสติคนเช่นนั้นโดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราว่า ให้เขาทำงานด้วยใจสงบ และกินอาหารของตนเอง
*** สำหรับบุตรพระเจ้า พระองค์ไม่ประสงค์ให้เราเป็นคนเกียจค้าน
ชอบยืม(เป็นหนี้)ขอการช่วยเหลือจากผู้อื่นอยู่เสมอ
นอกเสียจากว่า บางคนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ฐานะยากจนและพบเจอปัญหาจริง ๆ จึงขอการช่วยเหลือตามความเหมาะสมจากพี่น้องหรือคริสตจักรได้
และคริสตจักรก็จะรับการเร้าใจโดยพระวิญญาณและช่วยเขา
คำอธิษฐานที่ว่า ข้าควรทำอะไร ให้ใคร ช่วยเหลือใครโดยพระองค์ในวันนี้ จึงเป็นสิ่งที่เราควรทำอยู่เป็นประจำ
การให้เป็นหนึ่งในสามสิ่งที่ทำแล้วจะได้บำเหน็จจากพระบิดาอย่างแน่นอน
#เราจึงกำชับและเตือนสติคนเช่นนั้นโดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า คือ เป็นการยืนยันว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าจริงๆ ไม่ได้พูดเอง
#ให้เขาทำงานด้วยใจสงบ คือ ใจที่แน่วแน่ ตัดสินใจที่จะขยันอดทนทำงานเลี้ยงชีพเลี้ยงดูตนเองและผู้อื่นและเพื่อสนับสนุนการงานของพระเจ้า
#กินอาหารของตนเอง คือ ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ขอใคร ไม่รบกวนใคร แต่จะทำงานเลี้ยงชีพด้วยตนเอง
# อย่างไรก็ตามคริสตจักรเองก็ต้องค้นหาการทรงนำจากพระวิญญาณเพื่อจะได้รับการเร้าใจให้ช่วยใครในบางกรณีเช่นกัน หาว่าใครคือคนที่เราต้องช่วยจริงๆ และรวมถึงพิจารณาว่าใครไม่สมควรได้รับการช่วยเหลือด้วย
13พี่น้องทั้งหลาย ท่านอย่าอ่อนใจที่จะกระทำการดีเลย
*** การทำดีในที่นี้คือการกระทำโดยไม่หวังผลตอบแทนหรือหน้าตาจากมนุษย์ คือการกระทำด้วยหัวใจรักและเมตตา
# ปัญหาอย่างหนึ่งของผู้เชื่อคือ อ่อนใจที่จะทำดี หรือ เรียกว่า "ท้อ"
การตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เมื่อการเกิดผลเป็นตามเวลาของพระเจ้า มีเหตุให้ท้อใจต่างๆ
ขอให้เราเป็นคนที่มั่นคง ไม่หวั่นไหว
เรามาถูกทางแล้ว มีพระคำที่แปลถูกยืนยัน เราไม่เอาทุกเชื้อยีสต์
พระเจ้าตรัสว่าอย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดีเพราะถ้าเราไม่ท้อใจแล้วเราจะได้เก็บเกี่ยวในเวลาของพระองค์
14ถ้าผู้ใดไม่เชื่อฟังถ้อยคำของเราในจดหมายฉบับนี้ จงจดจำคนนั้นไว้ อย่าสมาคมกับเขาเลย เพื่อเขาจะได้อาย
*** เนื่องจากว่าเปาโลเขียนโดยพระวิญญาณซึ่งก็คือมาจากพระเจ้า ถ้าหากไม่เชื่อฟังถ้อยคำของท่านในจดหมายก็คือไม่เชื่อฟังพระเจ้าเช่นกัน
คำว่าอย่าสมาคมกับเขาเลย
1. เพื่อเขาจะได้รู้ตัว ละอายใจ และกลับใจเสียใหม่ เพราะถ้าไม่กลับใจ การตีสอนจะมาถึงพี่น้องทั้งยุคนี้และยุคหน้า
2.เราไม่เกลียดพี่น้องที่หลงผิด แต่เรารักเขา อธิษฐานเผื่อเขา ขอให้พระวิญญาณชำระเขา
15อย่าถือว่าเขาเป็นศัตรู แต่จงเตือนสติเขาฉันพี่น้องคนหนึ่ง
*** ตราบใดที่เป็นผู้เชื่อและอยู่ในพระกาย ทุกคนก็เป็นพี่น้อง เราจะไม่มีศัตรู เป็นหนึ่งเดียวและไม่แบ่งแยกเป็นสอง ถ้าหากมีเราต้องรีบแก้ปัญหาโดยรีบด่วน
# การเตือนสติพี่น้องที่ไม่ดำเนินตามน้ำพระทัยพระเจ้า ไม่ยอมให้พระเจ้าเป็นที่หนึ่ง เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
1. เตือนให้เขาให้พระเจ้าเป็นที่หนึ่ง
2. เตือนเขาให้ฝึกเดินในวิญญาณเพื่อพระคริสต์จะได้ชำระเขาจากความบาปของเขา
3.เตือนให้เขาอย่าเอาโลกนี้แลกกับเกเฮนาหรือการได้เข้าอาณาจักรในยุคหน้า
4.เตือนเขาว่าถ้ายังไม่เห็นผลก็อย่าท้อแท้แต่ให้มั่นคงไว้
16บัดนี้ ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสันติสุข ทรงโปรดประทานสันติสุขให้แก่ท่านทั้งหลายทุกเวลาและทุกทาง ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าดำรงอยู่กับท่านทุกคนเถิด
*** พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าแห่งความสงบสุข The Lord of peace เราได้รับความสงบสุขดังกล่าวเป็นของขวัญทันทีที่เราเชื่อ เป็นความสงบสุขภายในที่ทุกคนในโลกนี้ต่างก็แสวงหา แต่ขอบพระคุณพระเจ้าที่เราได้รับมาฟรีๆ ทางความเชื่อ ไม่ว่าจะอยู่ในสถาณการณ์ใด ๆ ก็ตามเราจะไม่ขาดความสงบสุขได้เลย
17นี่แหละเป็นคำคำนับของข้าพเจ้าคือ เปาโล ที่เขียนด้วยมือของข้าพเจ้าเอง ซึ่งเป็นเครื่องหมายในจดหมายทุกฉบับ ข้าพเจ้าจึงเขียนเช่นนี้
18ขอให้พระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด เอเมน [จดหมายฉบับที่สองถึงชาวเธสะโลนิกาได้เขียนจากกรุงเอเธนส์]
*** ดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด หรืออยู่กับพวกท่านทุกคนเถิด คือเปาโลขอให้พระกายแห่งนี้ได้รับและได้มีประสบการณ์แห่งพระคุณของพระเยซูคริสต์ซึ่งก็คือการกระทำกิจภายในของพระคริสต์ในผู้เชื่อทุกคนมากขึ้นในแต่ละวัน
# ข้อ 16-18
ขอให้ได้รับในที่นี้คือขอพระเจ้าทรงเปิดตาให้ได้รู้ว่าในพระคริสต์สิ่งเหล่านี้เราได้รับครบแล้วแค่เชื่อเอาเท่านั้น
1.สันติสุขก็อยู่ในเราแล้ว
2. องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงดำรงอยู่ในเราแล้วไม่ไปไหนเลย
3.ได้มีประสบการณ์แห่งพระคุณของพระเยซูคริสต์ซึ่งก็คือการกระทำกิจภายในของพระคริสต์ในผู้เชื่อทุกคนมากขึ้นในแต่ละวัน