วีดีโอ

ได้ดู Xbox Showcase 2024 ไหมครับมีแต่เกมตึงๆน่าสนใจทั้งนั้นเลย ผมว่าน่าจะเป็น Game Showcase ที่ดีที่สุดในปีนี้ละ

ตอนเห็น Title Batman Arkham Shadow ขึ้น: ฮึ้ยยย Arkham ภาคใหม่!!!😀 🤩 ตอนเห็นมันบอก Qnly Meta Quest VR ขึ้น: .......😟😑 ผมก็ไม่ได้เกลียด VR หรือ อะไรนะ แค่แบบ.....อยากให้มันเป็นเกม PC มากกว่าตอนเห็นทีแรกคือดีใจมากแต่ดันสำหรับแค่ VR 🥲ดูเหมือนนี่จะไม่ใช่ปีที่ดีเท่าสำหรับซีรี่ย์ Arkham 😂

ถ้ามีเกมให้โหลดเดโมมาเล่นก่อนก็ดีนะ​ คนซื้อจะได้ตัดสินใจได้ว่าจะไปต่อกับเกมส์นั้นหรือเปล่า​ ส่วนการละเมิดลิขสิทธิ์เกมส์เป็นการกระทำที่ไม่ควร เพราะกว่าผู้สร้างเกมส์ๆ​ หนึ่งออกมามันมีต้นทุน​สูง เค้าลงทุนทำของมาขายก็เพราะอยากมีรายได้จากยอดซื้อ​ ทีนี้เราก็กลับมาคิดเรื่องที่ช่องพูดถึงว่ามีคนสร้างเกมส์ที่หลับตาข้างนึงปล่อยให้มีการเข้าถึงเกมส์แบบละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อให้เกมส์ยังคงอยู่ต่อไปได้ในโลกออนไลน์​ อ้นนี้เราเองก็คิดไปไม่ถึงเหมือนกัน​ นี่เรียกว่าเป็นกลยุทธ์​ได้ใช่มั้ย

เคยเปิดดูเรื่องแมดแมกซ์สมัยเมล​ กิบสันแสดง​ ความรู้สึกแรกคือหนังอะไรวะเนี่ย​ คือ​ ทั้งเสื้อผ้า​ หน้าผม​ การแต่งรถและแนวโน้มความรุนแรงของหนังทำให้สตั๊นไปหลายวินาที​ จากนั้นก็เลื่อนมันผ่านไป​ บอกเลยว่าไม่ถูกจริต​ แต่พอมาฟังช่องนี้เราคิดว่าเราคงต้องกลับไปหาดูใหม่​ละ​ ดูว่าจะใจแข็งทนดูได้จนจบหรือเปล่าอ่ะนะ​ แล้วเรายังรู้สึกว่ามันยังคงความไม่ถูกจริตเหมือนเดิมมั้ย​ ต้องลองเปิดใจดู​

✌🏻

ราคาผมไม่สนใจเลยชักนิด สนใจที่ต้องเล่นเป็น ซามูไรคนดำมากกว่า โคตรไม่น่าเล่น (อยากเล่นเป็น นินจาญี่ปุ่นผู้ชายนักฆ่าเท่ๆมากกว่า)

ผมไม่ได้มีปัญหาเรื่อง Woke คนผิวดำและ LGBTQ+ ในสื่อมีเดียรวมถึงวิดีโอเกมหรอก ถ้าทำออกมาดีใส่มาเนียนก็โอเค แต่นี่คือมันยัดเยียดมันเลย Broke คือในปวส.ญี่ปุ่นก็มีกลุ่มคนผิวดำอยู่จริงแต่มันเป็นส่วนน้อยมาก ถ้า Ubi จะใส่ Yasuke เข้ามาจริงให้เป็นตัวละครรองหรือคนให้ภารกิจยังดีกว่าให้เป็นตัวเอกหลัก จะไม่มีดราม่าเลย

ถ้าไม่gayก็อย่าไปจีบผู้ชายก็แค่นั้น

ราคา4000 ไปซื้อเกมส์อื่นเถอะไปซื้อ เกมส์ใหม่ๆที่จะมาในอีกไม่กี่เดือน เกมส์ฟรียังสนุกว่าอีก😂

ผมว่าคนไม่ได้โกรธที่ต้องเล่นเป็นคนดำนะ แต่โกรธตรงที่ไม่ได้เล่นเป็นชายชาวญี่ปุ่นอ่ะ ผมเป็นผู้ชายที่ชอบเล่นเป็นตัวละครชาย ชอบการที่ตัวเองสวมบทคิดว่าเป็นตัวละครนั้น พอเล่นเป็นผู้หญิงแล้วมันไม่ค่อยอิน เหมือนเล่นเป็นลูกสาว หรือน้องสาว ซึ่งส่วนตัวเราไม่อยากเอาตัวเค้าไปบาดเจ็บเสี่ยงตาย

พี่เป็นติ่งยูบิใช่มั้ยครับ

ความผิดร้ายแรงคือไม่ลงsteam และตอนนี้รุ้สึกlauncher Ubi กากพอๆกับEA

ในฐานะทึีเป็น FC Ubi มานาน ขอทำนายเป็น 2 route ดังนี้ a. day1 เกมจริงออกมา ถ้าดี ถ้าสนุก เอาระดับแค่ภาค Basim ก็พอ ทุกคนก็จะลืมไปหมดว่าเคยเถียงอะไรกัน อาจจะมีกระแสออกมาต้านบ้างช่วงแรก (ที่เป็นแบบนี้ เพราะ anti-woke ที่ออกมาเย้วๆ กันแค่ตามกระแส ไม่ได้เล่นเกม และเกมเมอร์ anti-woke ก็ด่าตามกระแสเช่นกัน สุดท้ายถ้าเกมมันสนุก คุณก็ซื้ออยู่ดี กลืนน้ำลายกันไป) b. เกมมันออกมาไม่เสร็จ ไม่สนุก bug กระจาย อารมณ์คล้ายๆ ตอน Ghost Recon Breakpoint ถ้าเป็นตามนี้ Ubi ก็จะรับเละจากทั้ง woke และ เกมเมอร์ ส่งผลให้หุ้นตก และนำไปสู่การลดขนาด Studio ตาม Microsoft ไปเลยจ้า ส่วนตัวคิดว่ายังไงมันก็ควรจะต้องเป็นทาง A เพราะ Ubi กล้าวัดดวงกับ Marketing Practice แบบนี้ (hater bait) สงสัยคงมั่นใจแหละ ว่ารอบนี้เกมเขาสนุกกว่าเกมที่ผ่านๆ มา

เรื่องการเป็น lgbtq+ ของคาแรคเตอร์นั้นไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะภาคโอดิสซีย์และวัลฮาลลาก็จีบข้ามเพศได้มาก่อน แต่ที่ติดใจจริงๆของภาคนี้คือการเลือกเอาเรื่องของยาสึเกะ ผู้มีตัวตนจริงแต่ข้อมูลไม่ชัดเจนมาทำเป็นตัวเอก ทั้งๆที่บุคคลในประวัติศาสตร์ยุคเซ็นโกคุที่ข้อมูลมีมากมายก็มีให้เลือกหยิบหลายตัว เรารู้สึกเหมือนที่คุณพูดค่ะ ว่าเพราะข้อมูลน้อยเลยคิดว่าเอามายำเล่นได้ง่ายกว่ารึเปล่า ตลค ที่ข้อมูลชัดเจนกว่านี้ ถ้าทำไม่ถึงก็โดนด่าแน่นอน ไม่ว่าจะจาก geek ปวส ญี่ปุ่น หรือจากคนญี่ปุ่นเอง / ในทางกลับกันการเลือกใช้ยาสึเกะเพราะเหตุนี้ก็หมายถึงค่ายจะไม่ค่อยโฟกัสเรื่องความละเอียดละออของประวัติศาสตร์ จะไม่ค่อยศึกษาก่อนสร้าง context ในเกม ใช่รึเปล่า? ใน ubisoft blog ชูโรงว่ายาสึเกะเป็น real life samurai แต่ซักพักพูดว่าคนๆนี้เต็มไปด้วยคำถามมากมาย แอบงงว่สจะเอาไงกันแน่555 เข้าใจแหละว่ามาออกเกมธีมญี่ปุ่นยุคพีเรียดมันเจอมาตรฐานสูงมาก่อน จะฉีกยังไงให้ไม่ถูกตราหน้าว่าซ้ำกับค่ายอื่นละ แต่พอมาแนวนี้ก็โดนเรื่อง blackwash ที่ช่วงนี้ sensitive กันมากจริงๆ ส่วนเรื่องราคา ถ้าไม่มีเกมเพลย์ใหม่ๆน่าสนใจ ถ้าไม่ใช่แฟนเดนตายต้อง day 1 เท่านั้น ก็รอลดเถอะ แพงเกิ้นนนนนน😅

เสียดายมากๆครับ ราคาก็แพง ดันต้องมาเล่นเป็นคนดำอีก

ผมก็เริ่มคิดแบบนั้นเหมือนกันแล้วครับว่า Ubisoft อาจใช้ประเด็นเรื่อง Woke, LGBTQ+, เป็น Bait ในการล่อและเรียกความสนใจเหล่าผู้คนและเกมเมอร์โดยที่กลบปัญหาที่น่าห่วงจริงๆอย่าง ราคาเกมที่มันแพงดูมั่นหน้าเกินไป คุณภาพของเกมที่ไม่รู้ไม่แน่นอน เป็นต้น และอีกเรื่องที่ผมไม่ค่อยชอบ Ubisoft ในปัจจุบันเลยคือทำไมถึงต้องสงวนการซื้อเกมไว้ที่ Launcher ตัวเองก่อนซักระยะด้วย ทำไมไม่เอาไปลงในที่ๆคนทั้งโลกนิยมใช้เยอะกว่าอย่าง Steam อะ Launcher ของ Ubisoft มันก็ไม่ได้ดังหรือนิยมอะไรขนาดนั้นนะ ผมคิดว่าพอทำแบบนี้คนก็คงอยากซื้อน้อยลงไปอีก(ถ้าไม่ได้อยากเล่นมากๆจริงๆอะนะ) ไม่ค่อยชอบการตลาดของ Ubisoft ในปัจจุบันเลยชื่อเสียงก็ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้นอยู่แล้วด้วย(อย่างน้อยๆก็ในมุมของผม) อยากรู้มากว่าตอนเกมออกมาจริงๆจะเป็นยังไงจะรุ่งหรือร่วงคงต้องลุ้นละ พอมาคิดดูเรื่องเอา Woke, LGBTQ+, เป็น Bait น่าจะเป็นไปได้มาก เรื่องพวกนี้ในปัจจุบันเป็นประเด็นที่เสียงแตกและหลายคนให้ความสนใจมากๆ(ในแง่ลบนะ)และไหนจะเชิญนักวิชาการหรือการใช้บางคำพูดที่เหมือนจะเคลมว่านี่ประวัติที่เป็นจริงๆอีก คือเอาจริงๆตอนมาทีแรกเรื่อง Yasuke ผมก็คิด Ubisoft คงไม่ได้ต้องการให้เป็น Bait อะไรขนาดนั้นหรอกมั้งแต่พอต่อมามีข่าวว่า 2 ตัวเอกเป็น LGBTQ+ ปุ๊ปผมเริ่มเอ๊ะละ รึว่ามันตั้งใจจริงๆวะ ซึ่งยอมรับเลยว่าก็ได้ผลจริงและได้ผลในแง่ลบด้วยเพราะให้หลายๆคนที่อาจอคติไม่ชอบอยู่แล้วยิ่งเกลียดไปใหญ่เลยแต่นั้นก็ทำให้เกม Assassin's Creed Shadows เป็นที่จับตาและพูดถึงมากขึ้นจริงๆ(ในด้านลบด้วย)มากกว่าภาคก่อนมาก ถ้าเทียบกับภาค Mirage ที่ชูโรงว่ากลับไปสู่รากเหง้าแต่ดันเป็นประเด็นพูดถึงแค่นิดๆหน่อยๆแล้วก็เงียบไปเลยไม่ค่อยแปลกใจทำไมมาภาคนี้ Ubisoft ดันใช้วิธีนี้เป็น Bait... แต่โหถามจริงมันไม่มีวิธีดีๆกว่านี้แล้วหรอ มันดังจริงแต่คนก็มองซีรี่ย์นี้ในแง่ลบมากขึ้นอะ ในมุมที่ผมเป็นแฟนเกมซีรี่ย์นี้ผมเศร้าจริงๆนะที่เห็นคนเริ่มมองแง่ลบกับซีรี่ย์มากขึ้นขนาดนี้มันไม่ควรเป็นแบบนี้เลย😥

ญี่ปุ่นใช้อักษรจีนทําไมวะ หรือหลาอย่างก็เลียนเเบบจีนอีก มังกรบนหมวกก็จีน

ผมไม่ได้ติดอะไรเลยจากการที่ภาค Shadow คนผิวดำอย่างเอายาสุเกะมาเป็น1ในตัวเอก สิ่งเดียวที่ผมติดคือราคา(แต่ใดๆก็ต้องดูตอนเกมจริงๆออกมาก่อน) (555+ยาวหน่อยนะครับเพราะอยากระบายด้วย) ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นการยัดเยียดเพราะว่า 1. ตัวยาสุเกะนั้นมีอยู่จริงๆ "แต่" แค่ไม่ได้เป็นซามูไรออกแนวๆคนรับใช้และประวัติจริงๆนั่นคลุมเครือมาก ตรงนี้ผมมองว่าการเอายาสุเกะมาเป็น 1 ในตัวเอกก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจเพราะเนื่องจากประวัติที่น้อยและคลุมเครือมากๆมันจึงเหมาะกับการเติมแต่งได้ ซึ่งวิธีแนวๆนี้นั้นมีให้เห็นเป็นปกติในทั้งหลายๆวงการทั้งหนัง เกม การ์ตูน อนิเมะ นิยาย เพราะแบบนี้ผมเลยไม่ได้ติดอะไรเท่าไหร่ 2. ภาคนี้ตัวเอกไม่ได้มีแค่คนเดียว มี2คน(เหมือนภาค Syndicate) โดยเกมนี้มีตัวเอกอีกคนที่เป็นผู้หญิงญี่ปุ่นซึ่งคนนี้ก็น่าสนใจมากกๆเพราะเป็นนินจา...รึชิโนบินี่แหละ ผมเลยมองว่าก็ โอเคร อย่างน้อยๆUbiมันก็ไม่ได้บ้าขนาดที่จะเอาแค่ยาสุเกะอย่างเดียว ทำไมการมาของภาคนี้ถึงมีดราม่าและเป็นปัญหามากๆส่วนตัวผมมองว่า 1. ชื่อเสียงแย่ๆที่ Ubisoft มันทำตัวมันเอง แม้ว่าเริ่มปีมาจะเหมือนดีอย่างการมา prince of persia ภาคใหม่ที่ออกมาค่อนข้างดีแต่ ตู้มมม Ubi ก็เป็นผีบ้าออก Skull and Bone ที่ไม่สมกับการรอคอยแถมยังออกมาอวยแบบ Brainless มากๆว่าเป็นAAAAซึ่ง...ก็ตามสภาพ "เละ" คนเลยเริ่มไม่เชื่อใจและหมดศรัทธาไปเยอะและไม่จบแค่นั้นUbiยังจะทำตัวให้หน้าหมั่นไส้มากขึ้นไปอีกหลายเรื่องที่ตามมาจากตอนนั้น และดันมาเพิ่มราคาเกมพื้นฐารเป็น 2000 บาทอีก...ถถถไม่ดูสภาพตัวเองเลยค่ายเกมชื่อเสียงก็แย่ คุณภาพเกมก็ไม่ตามยุคแถมไม่ได้พัฒนาอะไรแบบก้าวกระโดดเลยขนาดค่ายเกมดังๆที่มีรางวัล GOTY เขายังไม่ค่อยกล้าดันราคาพื้นฐานเป็น 2000บาท กันเลย มั่นหน้าเกินไปจัดๆแย่ 2. ถึงผมจะบอกว่าไม่ติดเรื่องยาสุเกะ แต่! การที่เนื้อเรื่องเอายาสุเกะมาใช้ในปี 2024 นั้น "ผิดช่วง! และ ผิดเวลาสุดๆ!" เพราะ หลายๆวงการ ณ ตอนนี้นั้นกำลังเผชิญกับปัญหาผีบ้ามากๆก็คือเหล่า Wokeความหลากหลาย คุณภาพต่ำๆที่เก่งเรื่องยัดเยียดแบบไร้ชั้นเชิงเลยทั้งหลายที่ดันมีบทบาทอย่างมากเกินไป! มันได้ทำลายล้างอะไรหลายๆอย่างดีๆไปมากทำให้เริ่มอคติและมองแง่ร้ายทันทีจึงไม่แปลกที่จะเกิด Anti Woke ตามมาและมันก็ตามมาด้วยเหล่า Anti Woke คุณภาพต่ำๆตามด้วยและเมื่อทุกอย่างมันมาเจอกันผลคือ "เละโคตรๆ" เพราะฉะนั้นในปัจจุบันพอเจอคีย์เวิร์ดว่า "ดำ" "ข้ามเพศ" "หลากหลาย" มันทำให้เกิดความอคติและด้านลบทันทีและก็ตามมาด้วยคำด่าไร้สาระมากมายทั้งๆที่เอาจริงมันไม่ควรผิดเลยสักนิดในโลกปัจจุบัน แต่ก็นั้นแหละ....พวกWokeต่ำมันทำให้ทุกอย่างมันเละไปแล้วก็ทำใจได้เลยว่าต้องโดนด่าแน่ๆภาคนี้ จากทุกอย่างที่พูดมาก็เลยมันระเบิดเละในการปล่อยตัวอย่างภาคใหม่ครั้งนี้.....เห้ออออ ซึ่งเอาจริง Ubisoft ก็คงรู้แหละว่าต้องเป็นแบบนี้แต่ก็ยังเอาออกมา....

แฮปปี้กับความรู้ที่มาแชร์กันในวีดีโอนี้นะฮะ คิดว่าจะมีอัพเดตเรื่องนี้อีกรอบในวีดีโอถัดไป เพราะว่าไปเห็นคนที่ ubi ชวนมาให้คำปรึกษาละแบบ ไม่ได้นะ... ปล่อยให้ยาสึเกะเป็น npc แหละน่าจะดีกว่างี้ คนเมินนูเอะหมดแล้ว 555555

Woke ไงครับ

มองว่าเป็นการ Woke ครับ เพราะว่าทุกภาคมีการนำบุคคลที่มีประวัติศาสตร์จริงเข้ามาในเกม แต่ว่าเอามาฐานะ NPC แล้วคราวนี้พอมีประวัติคนผิวสีที่เข้ามาอยู่ในญี่ปุ่นจริง แล้วมีแค่คนเดียวถึงกับนำมาเป็นตัวละครหลักในเกมที่เราต้องเล่น ถ้าหากเทียบมุมมอง AC เอาประวัติศาสตร์ไทยมาทำ แต่ว่าตัวเอกเป็นชาวละแวก อยากทราบว่าพวกคุณจะรู้สึกยังไงครับ

เวลาเข้าเกมAc ทุกภาคจะมีประโยค Disclaimer บอกตลอดว่า "Inspired by historical events and characters, this work of fiction was designed, developed, and produced by a multicultural team of various beliefs, sexual orientations and gender identities”." Ficton คือเรื่องแต่ง แน่นอนว่า การเขียนให้ยาซึเกะเป็นซามูไรไม่ใช่เรื่องผิด

ผมว่า Ubi แค่อยากยัดเยียดเข้ามาเฉยๆ เพราะฝั่งประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมีตัวตนคนญี่ปุ่นที่จะเอามานำเสนอเป็นตัวเอกหลักเยอะแยะ ซึ่งในประวัติศาสตร์ yosuke ไม่ได้เด่นอะไรเลย ถ้าจะทำเกมผสมฟิกชั่นประวัติศาสตร์ ก็ควรให้เกียรเจ้าของประวัติศาสตร์หน่อย ถ้าอยากยัด yusuke ก็มาเป็นตัวประกอบในเกมก็ได้ ทั้งที่ภาคเก่าๆ มีแต่ตัวหลักท้องถิ่นทั้งนั้น อันนี้ไปดูตัวอย่างฝั่ง ubisoft japan คนญี่ปุ่นส่วนมากก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่

ใช่ค่ะ คนผิวดำในญี่ปุ่นขณะนั้นมีจริง แต่ ... เขาไม่ใช่ซามูไร ไม่เคยมีการแต่งตั้ง ... ไม่เหมือน วิลเลี่ยม อดัมส์ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น ฮาตะโมโตะ บันทึกชัดเจน ยะซึเกะ มีเพียงภาพวาด 2 - 3 ภาพจากเบียวบุ (ฉากกั้นห้อง) + การกล่าวถึงไม่กี่บรรทัด ในชินโชโคกิ 信長公記 กับในเซนไคคาคุบุนโกะ 尊経閣文庫 และ บันทึกของบาทหลวง Alessandro Valignano ถึงไม่ได้เป็นทาส แต่ก็เป็นคนใช้อยู่ดีค่ะ และการที่กลุ่มมิชชันนารีมอบยะซุเกะ แก่ โอดะ ก็เหมือนเป็น ของขวัญอะไรงั้น ให้มารับใช้แรงงานข้างกาย ยกแบกของอะไรทั่วไป การชูตัวตนของ UBIsoft ถึงจะออกมาอธิบายนั่นนี่ แต่มันเหมือนการชักแม่น้ำให้เกิดหลักฐานลวงให้คนเชื่อว่า ก็มีจริง แต่ไมไ่ด้ลงรายละเอียดชัดเจนว่า เขาอยู่ในฐานะอะไร มีส่วนกับประวัติศาสต์แค่ไหน ขนาดอายุ ยังไม่บันทึก เลยคาดเดากันไปเรื่อย (จริง ๆ มีตั้งแต่ 7 ขวบ ถึง 20 กว่า ๆ แปลว่า ที่เข้ามาในญี่ปุ่น อาจจะยังเป็นเด็ก พูดง่าย ๆ คือเด็กวัด ) มันเลยไม่เมคเซ้นต์ไง ที่อยู่ ๆ กลายเป็น ซามูไรผู้ใหญ่เด่น ๆ

ขอบคุณ​ที่แชร์ประสบการณ์แต่งคอสเพลย์ครั้งแรก​ วงการนี้ดูจะต้องมีเงินทุน​ เวลา​ และความตั้งใจพอสมควรเลยแหละ​ แต่ก็ดีใจที่คุณได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการทำอะไรที่ชอบออกมามากมายได้ขนาดนี้​ (ถ้าไม่มีแรงบันดาลใจจะพยายามได้ขนาดนี้เลยเหรอ​ คุณก็ดูมีความสุขดีนะเวลาเล่ารายละเอียดต่างๆ​ ที่คุณทำมา❤)​ รวมถึงที่พอไปร่วมงานแล้วก็ได้รับความรู้สึกดีๆ​ กลับมา ได้เพื่อนใหม่ด้วย​ แต่เราเสียดายที่ดาบหายไปนะ​ ใครเอาดาบปายยยย 😅 เอามาคืนด่วนๆๆ​

เห็นด้วยว่าควรเพิ่มรางวัลให้นักแสดงแทนฉากผาดโผนต่างๆ​ นะ​ ในไทยเองก็ควรมีเช่นกัน

29:14 มันเปลี่ยนไปแล้วววววว คนอยากระบาย ด่าแล้วดัง ด่าไว้ก่อน

25:43 รู้สึกว่าดูเพลินก็คือดี เพราะมันตอบความรู้สึกเขาได้พาเขาดูเพลิน ๆ ได้ รีวิวในมุมเขาคือ สนุกก็คือดี พฤติกรรมคนดูทีวี ดูบ้าน ก็เหมือนละคร ย่อยง่าย จบละดี ก็คือดี คะแนนความชอบส่วนตัวล้วน

คลิปนี้จะสนุกกี่โมงหรอครับ😅

ฉาก What kind of American are you? สังเกตุว่าพี่ทหารลังเล Joel อยู่เพราะเป็นคนFlorida หนึ่งในคู่สงคราม ปล. ทหารเสื้อฮาวายฝั่ง Florida Alliance ครับ

ว้าวๆๆ​ ดีใจด้วยนะกับประสบการณ์​คอสเพลย์​ครั้งแรก​ ขอบคุณ​ที่แชร์ประสบการณ์ทุกด้านนะ​ เห็นเลยว่ามีความพยายามสูงและทุ่มเทมากอยู่นะเนี่ย​ ชุดเท่ดูดีนะครับ​ แหม.. ​ แต่เสียดายดาบกับเสียดายที่เกมส์ไม่มาออกบูธจัง​

หวัดดีครับพี่ชาย