วีดีโอ

อามีนนน

وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته

อามีน ยาร๊อบ

อัลลอฮจะทรงตัดสินอย่างเป็นธรรม และพระองค์จะคืนสิทธิ์ให้แก่ผู้ที่ถูกอธรรมอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ แน่นอน

ได้เหมือนกันครับ

ทำร้ายร่างกายคนอื่นไม่ได้ครับ นอกจาก ชาเราะอ์กำหนด เช่น ผู้ที่ต้องลงโทษ ทำการตัดมือ หรือประหารชีวิต ผู้ที่กระทำความผิด จากคำตัดสินของกอฏี(ผู้พิพากษาอิสลาม) ที่ได้ตัดสินไป เพราะร่างกายนั้น ขนาดของตนเอง ศาสนายังให้รักษาเลยครับ เนื่องจากอัลลอฮจะสอบสวนทุกอย่างที่เราได้ใช้ไป “แท้จิงเราเป็นสิทธิ์ของพระองค์ และเราจะต้องกลับคืนสู่พระองค์(คือกลับไปรับการสอบสวน)” ฉะนั้นร่างกายผู้อื่นยิ่งกว่า ครับ ส่วนฮาดีษนั้น ความหมายคือ ให้ห้ามปราบในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อันแรกคือให้ใช้มือ นั่นคือ มีอำนาจที่จะหยุดยั้ง ให้ทำซะ ให้สั่งการ ส่วนต่อมา คือให้ใช้ปาก นั่นคือ ให้ใช้การตักเตือนด้วยวาจา พูดยับยั้งหากทำได้ ส่วนสุดท้าย คือ ให้ใช้ใจ นั่นคือเอาใจออกห่างแล้วขอดุอาให้ เนื่องจากเราไม่มีอำนาจ จะไปสั่งเขาก้อไม่ได้ จะใช้ปาก จะไปพูดเตือน ก้อไม่ได้เพราะเค้าตำแหน่งสูงกว่า มีอำนาจกว่า อาจเกิดอันตรายได้ จึงต้องใช้ทางสุดท้ายคือ ดุอาให้ ตัวอย่าง เช่น คนมีอำนาจ มีอิธิพลทำความผิด เราซึ่งเป็นคนธรรมดา จะไปตบหัวเขา หรือจะไปพูดว่า จงหยุดนะ บางที อาจโดนยิง ก้อได้ เราจึงต้องขอดุอาให้เขา ให้อัลลอฮเปิดใจเขา ให้พิจารณาตามบริบท ถ้าคนนั้นเราพูดได้ ก้อพูด ถ้าคนนั้นเราห้ามได้เลย จับมือ เค้าจังหวะจะขโมยของ เช่นเด็กๆ นร จะขโมยของเพื่อน แบบนี้ เราก้อจัดการ จับมือ ห้ามได้เลย วัลลอฮุอะลัม

@@teacherkitr8994 ฮาดิษนี้ที่เขาสอนกันว่า ทำร้ายร่างกายคนอื่นได้ เพื่อความถูกต้อง หากมีความสามารถ ของวาฮาบีย์ สอนทั่วไปในโรงเรียนวาฮาบีย์ อิจติฮาตแบบนี้ ไม่มีสะนัด รายงานจากท่านอบู สะอีด อัล-คุดรีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่าแท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า مَنْ رَأَى مِنْكُمْ مُنْكَرًا فَلْيُغَيِّرْهُ بِيَدِهِ، فَإِنْ لَمْ يَسْتَطِعْ فَبِلِسَانِهِ، فَإِنْ لَمْ يَسْتَطِعْ فَبِقَلْبِهِ، وَذَلِكَ أَضْعَفُ الإِيمَانِ “ใครก็ตามในหมู่พวกท่านที่เห็นความชั่วร้ายเขาจงเปลี่ยนแปลงมันด้วยมือของเขา หากไม่สามารถก็ด้วยลิ้นของเขา และหากไม่สามารถก็ด้วยใจของเขา และนั้นคืออีมานที่อ่อนแอที่สุดแล้ว” (เศาะฮีหฺ มุสลิม 1/69 หมายเลข 49) ส่วนตัวเคยถูกทำร้าย ช่วงนั้นยังไม่มีความรู้ศาสนา จึงอภัยเขาไป แต่มาคิดๆดูใหม่ กลัวว่าจะมีคนถูกทำร้ายอีก

@@teacherkitr8994 นี้คือรากเหงาของปัญหา ที่วุ่นวายเกิดฟิตนะไปทั่ว เยอะมากๆ ทั้งๆที่ขัดแย้งกับฮุก่ม ในอัลกุรอาน คนไม่เข้าใจหลักการพื้นฐานทางชารีอัต แม้กระทั่งคนมีชื่อเสียงคนดังๆของกลุ่มสลาฟี วาฮาบี ก็ยังไม่เข้าใจเลย "อัลลอฮ.สอบสวนเราเฉพาะการกระทำของเรา การกระทำของผู้อื่น อัลลอฮไม่สอบสวนเรา" "หลักฐานที่ไม่ชัดเจนจะไม่ถูกใช้ในทางชารีอัต(กฎหมายมีสภาพบังคับลงโทษ)"

“หลายแบบ” ขอเรียกว่า หลาย รายงานนะครับ และทุกรายงานมาจากท่านนบีทั้งหมด นึกภาพตามนะครับ ท่านนบี ละหมาดอยู่ที่หนึ่ง แล้วทำแบบหนึ่ง พอละหมาดอีกที่หนึ่งแล้วทำอีกแบบ หรือ อยู่ที่หนึ่งอ่านแบบหนึ่ง อยู่อีกที่อ่านอีกแบบ คราวนี้ ซอฮาบัต ที่ได้ยิน ได้เห็น เขาก้อเล่าตามที่เขาเห็นและได้ยิน ฉะนั้น คำถามว่า นบีสอนคือแบบไหน ตอบแล้วนะครับ คือทุกแบบ ต่อมา ทำไม ท่านนบี สอน ไม่เหมือนกันละ คำตอบ เพราะเป็นการเปิดกว้างให้ประชะชาติของท่าน และไม่ทำให้ศาสนานั้นคับแคบ วัลลอฮุอะลัม

ไม่ต้องเหนียตครับ แต่ถ้านึกถึงความหมายไปด้วยในขณะอ่าน จะเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมครับ

@@teacherkitr8994 สุนนะเชยๆใช่ไหมครับ

@@saideesaming7556 มันไม่ใช่วายิบ ถูกต้อง ครับ อุลามาอฺมองว่า มันเป็นหนึ่งในการช่วย ให้มีสมาธิในละหมาดอีกด้วยครับ

@@teacherkitr8994 ต้องนึกถึงอะไรครับ

@@saideesaming7556 ความหมายของแต่ละประโยคที่อ่านครับ

ได้แล้วครับ

ได้ครับ ตามทรรศนะมัสฮับชาฟีอี นับเป็นสิ่งที่สมควรกระทำอย่างยิ่งครับ وذهب جماعة من أهل العلم وهو المعتمد عند الشافعية إلى استحباب زيادة لفظ "سيدنا" في الأذان والتشهد وغيرهما، قال الرملي في نهاية المحتاج: والأفضل الإتيان بلفظ السيادة -أي في التشهد في الصلاة- كما قاله ابن ظهيرة وصرح به جمع، وبه أفتى الشارح -المحلي- لأن فيه الإتيان بما أمرنا به وزيادة الإخبار بالواقع الذي هو أدب فهو أفضل من تركه وإن تردد في أفضليته الأسنوي، وأما حديث: لا تسيدوني في الصلاة. فباطل ولا أصل له كما قاله بعض متأخري الحفاظ، وقول الطوسي: إنها مبطلة غلط. انتهى

@@teacherkitr8994 อัลฮัมดูลิ้ลละ

แล้วถ้าไม่ใส่ไซยีดีนาหละผิดมั้ย

@@kungkung4512 ไม่ผิดครับ

นนทบุรี ครับ

ขออัลลอฮประทานความง่ายดายให้นะครับ

@@teacherkitr8994 ตรือลีมอกาเสหครับอาจาร์

มะอัฟด้วยครับ ตอนนั้น ที่อัด ทำไม่เป็นครับ