กลุ่มเยาวชนจิตอาสาเชียงใหม่รวมตัวกันในชื่อทีม WE LOVE
,WE CARE ,WE SHARE สามารถคว้ารางวัลยอดเยี่ยมระดับประเทศ และรับทุนดําเนินโครงการ 35,000 บาท
จากผู้ร่วมแข่งขันทั้งหมด 213 ทีมทั่วประเทศภายใต้โครงการจิตสํานึกรักเมืองไทย
ปีที่16 ร่วมคิด ร่วมทํา สร้างสรรค์สังคมไทยด้วยสิ่งเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ “ปันให้ล้วนสุขใจ”
จัดโดยสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นเวทีสานต่อเสริมพลังให้เยาวชน
สามารถนําความรู้ ความสามารถ ความสนใจมาคิดสร้างสรรค์เป็นโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะ การแก้ปัญหา หรือ ส่งเสริมชุมชนหรือสังคมให้ดีขึ้นในมิติต่างๆ อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน
ชื่อ-นามสกุล สมาชิกในทีม
1. นางสาวศิริปรียา ผกามาศ
2. นางสาวพลอยนิตา ธนะพงศ์นิธิศ
3. นางสาวน้ําทิพย์ พงษ์มณี
4. นายปุญญพัฒน์ จันทร์ใจ
5. นายปัณณทัต สุขหอม
6. นางสาวพิมพ์ชนก เลื่อนประไพ
7. นายกฤตบุญ โตสุวรรณ
8. นายนิธาน ลิดจันทร์
9. นายสธนธร สมสอน
10.นางสาวณภาภัช นาคเรืองศรี
วัตถุประสงค์ของการท าโครงการ
1. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนมีคุณธรรม จริยธรรม ทัศนคติ ค่านิยมที่ดีร่วมกัน น้อมนํา เอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพียงไปใช้เป็นแนวทางในการดําเนินชีวิตและเสริมสร้างความสามัคคีในกลุ่ม
2. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนจัดกิจกรรมที่เอื้อให้ได้แสดงออกถึงความร่วมมือร่วมใจ ความเสียสละในรูปแบบจิต
อาสา นําไปสู่การพัฒนาตนเองและพัฒนาจิตใจอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
3. เพื่อช่วยลดปริมาณทรัพยากรของเหลือใช้ จากคนกลุ่มหนึ่งโดยการแบ่งปันและส่งต่อไปยังกลุ่มคนที่ขาดแคลน
ผู้ด้อยโอกาส เพื่อเปลี่ยนแปลงทรัพยากรเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ
ผลการดำเนินการ
โครงการปันให้ล้วนสุขใจนี้ จัดทําขึ้นมาด้วยแนวคิด อยากแบ่งปันให้กับผู้อื่น โดยพวกเราระดมความคิดแล้วสรุปรูปแบบกิจกรรม คือ การขอรับบริจาคสิ่งของที่ไม่ใช้แล้ว แต่ยังมีสภาพที่ดี เพื่อนํามาขายในตลาดนัดมือสอง
หนองฮ่อ จากนั้นนํารายได้ทั้งหมดที่หาได้มาพัฒนาโรงเรียนในชุมชน คือ โรงเรียนบ้านสันป่าสัก ตําบลหนองควาย อําเภอเมือง จังหวัดชียงใหม่
ส่วนกิจกรรมที่จะนํามาจัดให้กับน้องๆนักเรียนที่นี่คือ
1. การมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เป็นเด็กดี มีจิตสาธารณะ
2. การปรับปรุงภูมิทัศน์ห้องเรียนวิทยาศาสตร์
3. การจัดฐานความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์แก่เด็กๆกลุ่มเป้าหมาย
ในการจัดโครงการจิตสํานึกรักเมืองไทยครั้งนี้ ทางกลุ่มได้รับการสนับสนุนเงินจากนายสงวน พงษ์มณี อดีตสส.จังหวัดลําพูน เป็นจํานวนเงิน 5,000 บาท เพื่อให้นํามาใช้ในการทําเสื้อทีมจํานวน 26 ตัวและจัดทําไวนิลประชาสัมพันธ์โครงการในครั้งนี้
กิจกรรมวันดีเดย์ วันเปิดงานเริ่มเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567 ณ โรงเรียนวารีเชียงใหม่ โดยในวันงานมีการประชาสัมพันธ์โครงการให้นักเรียนในโรงเรียนร่วมบริจาคสิ่งของมือสองที่เหลือใช้ ซึ่งปรากฏว่าจะรับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี เพราะมีนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลายนําสิ่งของมาบริจาคเป็นอย่างมาก
อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า ตุ๊กตา ของเล่นตลอดจนของใช้มากมาย
นอกจากนี้มีกลุ่มจิตอาสา มีการไปประชาสัมพันธ์ในหมู่บ้าน องค์การบริหารส่วนตําบล เพื่อไปประกาศเสียงตามสาย และให้ผู้นําหมู่บ้านแจ้งในการขอรับบริจาคสิ่งของมือสองอีกด้วย
จากนั้นเมื่อมีการรวบรวมสิ่งของได้แล้ว มีการติดต่อไปยังผู้จัดการตลาดนัดมือสองหนองฮ่อ (ตลาดประชารัฐ) ของมทบ.33 เพื่อทําการนําสินค้ามือสองมาขายในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 22-23 และ 29-30 มิถุนายน 2567
การขายสินค้าครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้จัดการตลาดนัดมือสองหนองฮ่อในการจัดสรรสถานที่และไม่เก็บเงินค่าเช่าสถานที่ อีกทั้งยังช่วยประชาสัมพันธ์โครงการผ่านเสียงตามสายตลอดเวลาที่มีการขายของและมีการอํานวย
ความสะดวกในเรื่องการให้ยืมเต้นขายของอีกด้วย ส่วนรายได้ในการขายสินค้าทั้งหมด คือ 42,103 บาท
ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2567 มีนักเรียนกลุ่มจิตอาสาจากโรงเรียนต่างๆ มาร่วมถึง 4 โรงเรียน ได้แก่
โรงเรียนวารีเชียงใหม่
โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย
โรงเรียนนวมินทราชูทิศพายัพ และโรงเรียนบ้านสันป่าสัก
ซึ่งมีจํานวนนักเรียนที่ร่วมกิจกรรมทั้งหมด 41 คน ในการมาร่วมกันทาสีห้องวิทยาศาสตร์จํานวน 2 ห้องเรียน และมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ให้สวยงาม น่าเรียนรู้ ตั้งแต่เวลา 8: 30 - 15:00 น.
และในวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 มีการจัดฐานวิชาการให้กับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านสันป่าสัก โดยกิจกรรมฐานแบ่งออกเป็น 3 ฐาน ดังนี้
1. ฐานไมโครบิต
2. ฐานหุ่นยนต์โรบอต
3. ฐานจรวดหลอดกาแฟ
นักเรียนที่เข้าร่วมฐานวิชาการ ต่างได้รับความรู้ ความสนุก ความแปลกใหม่ที่มีความตื่นเต้นในการได้สัมผัสกับฐานความรู้ครั้งนี้ และทุกคนต้องการให้พวกพี่ๆจิตอาสาได้กลับมาร่วมจัดกิจกรรมอย่างนี้อีก
และในวันนี้กลุ่ม WE LOVE ,WE CARE ,WE SHARE สามารถนําเงินรายได้ที่ได้จากการขายของมาเป็นทุนการศึกษาได้ถึง 66 ทุน รวม
ยอดเงินทุนการศึกษา 33,000 บาท และเป็นเงินในการซื้ออุปกรณ์กีฬาและซื้อขนมในการเข้าฐานวิชาการ เป็นเงินอีก 4,923 บาท