วีดีโอ

ทำได้ตามคลิปนี้เลยครับ th-cam.com/video/DOb6foa_4Kw/w-d-xo.htmlsi=TUz4IDKFOykwGnGU

ระวังนับบรรทัดผิดนะครับ แต่ก็เป็นคำสั่งที่น่าจะไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ครับ

อ่าน comment แล้วใจฟู 💓ดีใจที่ชอบนะครับ ขอบคุณมากๆ สำหรับ feedback ครับ

Pdf ก็ทำได้นะครับ เพราะมันอ้างอิงแค่ชื่อไฟล์ กับ location ลองส่งไฟล์ excel ที่ทำไว้ กับ pdf ให้ผมดูทาง Facebook inbox หน่อยครับ

พอเอา pathfile ไปแทนค่า ขึ้นแบบนี้ค่ะ ​@@excelbegin Formula.Firewall: Query '2401 pdf' (step 'Source') references other queries or steps, so it may not directly access a data source. Please rebuild this data combination.

ขอบคุณครับ 🙂

ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดครับ 🙂

ขอบคุณที่ติดตามเช่นกันครับ 🙂

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ relationship เดี๋ยวจัดให้ครับ รอดูใน Playlist Pivot Table ได้เลยครับ 🙂

ดีใจที่คลิปมีประโยชน์นะครับ รอติดตามคลิปชุด Excel Pivot Table นะครับ ยังมีอีกหลายคลิปทยอยโพสครับ 🙂

สามารถคลิกที่ column แล้วเปลี่ยนชื่อได้เลยครับ

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ 🙂

ขอบคุณที่ติดตามและคอมเม้นนะครับ 🙂

ขอบคุณที่คอยติดตามและ comment กันตลอดเลยครับ 🙂

ขอบคุณที่สนใจและติดตามนะครับ รบกวนช่วยทักมาใน Facebook Messenger หน่อยครับ

ขอบคุณที่ติดตามครับ 🙂

ขอบคุณมากครับ 🙂

ผมลองทดสอบฟังก์ชั่น FILTER โดยใน cell มีข้อมูล 7000-8000 ตัวอักษร ก็ไม่มีปัญหานะครับ คิดว่าคุณน่าจะเขียนสูตรไม่ถูกต้อง หรือมีปัญหากับ excel version ลองโพสไฟล์ถามในกรุปนี้ดูครับ facebook.com/groups/ExcelSuperFan/

@@excelbegin ตอนนี้ใช้ version 365 cell ที่น้อยว่า 200-300 แสดงปกติเลย

วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะ Excel ครับ PowerBI ไม่มี get data from range เพราะข้อมูลไม่ได้ถูกเก็บอยู่ใน sheet แบบ excel ครับ ถ้าใช้ PowerBI ดึงข้อมูลจาก Excel ต้องใช้ get data from excel workbook (จะมีอธิบายในคลิปถัดไปครับ)

@@excelbegin ครับ พอดีว่าจะทำแบบ File Location ครับ ตามที่ท่านอาจารย์ได้แจ้งว่า หากมีการเปลี่ยนหรือโยกย้าย Data Source ครับ --- ชอบคุณมากครับผม --

ขอบคุณที่ติดตามเช่นกันครับ 🙂

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ 🙂

ขอบคุณที่ติดตามคลิปนะครับ 🙂

ว้าววว ขอบคุณมากๆ เลยครับ 😍🙏

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะครับ ส่วนที่ยากน่าจะหมายถึงการเขียนสูตร CELL("filename") และการสร้างชื่อ file location ใน Power Query หรือเปล่าครับ.. ส่วนนี้อาจจะซับซ้อนหน่อยครับ ผมมีทำคลิปเรียบเรียงอธิบายใหม่จะโพสปลาย มิย นี้ครับ น่าจะเข้าใจดีขึ้นครับ จะลองปรับวิธีอธิบายในคลิปถัดๆไปนะครับ ถ้าคลิปไหนดูแล้วไม่เข้าใจ ลอง pause หรือดูซ้ำน่าจะช่วยได้อีกทางครับ 🙂

@@excelbegin ใช่ครับ ผมวนดูมา 3-5 รอบแล้วครับ

ขอบคุณที่ติดตามครับ🙂

ขอบคุณที่ติดตามดูคลิปนะครับ 🙂

ขอบคุณครับ

ขอบคุณที่ติดตามเช่นกันครับ ดีใจที่ชอบคลิปนะครับ 🙂

ขอบคุณที่ติดตามคลิปเช่นกันครับ 🙂

ขอบคุณครับ ดีใจที่ชอบคลิปนะครับ 🙂

ใช่ครับ ไม่ต้อง merge ก็ได้ ขอบคุณที่ comment แจ้งนะครับ 🙂

เวลา unpivot ค่าที่เป็น null จะไม่กลายเป็น 0 นะครับ แต่ข้อมูลที่เป็น null จะหายไปจากตารางเลย หากต้องการแสดงข้อมูลที่เป็น null ก็อาจแทนค่า null ด้วยค่าสักค่า และ เมื่อ unpivot เสร็จแล้ว ก็ค่อยแทนค่านั้นกลับเป็น null ครับ

@@excelbegin แล้วในกรณีผมอัพขึ้น sharepoint แล้วค่า null กลายเป็น 0 พอมีวิธีจัดการไหมครับ ให้เป็น null

ขอบคุณที่ติดตาม และ comment นะครับ 🙂

ขอบคุณครับ ตอนอัดคลิปนึกไม่ออก😅

ลองดู link นี้ครับ comment ของ kdicamillo มีไฟล์ให้ download ครับ powerusers.microsoft.com/t5/General-Power-Automate/Unpivot-excel-data-in-Power-Automate/m-p/2443941#M146047

@@excelbegin ถ้าผมมี data บน sharepoint จะให้มัน unpivot ก่อน แล้วมาแสดงค่าอีก listอะครับ

Get data from SharePoint แล้ว unpivot ใน power query ได้ครับ

ขอบคุณที่ติดตามครับ ดีใจที่คลิปมีประโยชน์นะครับ 🙂

Many thanks for watching clips 🙂

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ ผมขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ เราสร้างตารางตัวอย่างข้อมูลแล้ว transform ข้อมูลในตารางตัวอย่าง จากนั้นก็ copy code จากตารางตัวอย่างข้อมูลไป paste แปะในตารางหลัก (แทนค่าใน Group Row ส่วนที่เป็น AllRow 1. ค่า underscore (_) ที่อยู่ใน AllRow มีค่าเป็นตาราง ซึ่งตารางนี้เราดึงออกไปทำตัวอย่างและแปลงข้อมูลในอีก query นึง ดังนั้นเวลา copy code กลับมาแปะ ก็แปะแทนที่ตรง underscore ครับ แต่ต้องระวังชื่อ column และ ชื่อ step Query ว่าต้องสอดคล้องและตรงกันด้วย 2. ถ้าไม่ใส่ let ในชั้นที่ 2 จะทำให้เขียนสูตรยากขึ้นอีกหน่อยครับ เพราะต้องปรับการอ้างอิงค่าตัวแปรอีกหลายที่ สาเหตุที่คลิปนี้เป็น let ซ้อน 2 ชั้น เพราะ let ชั้นที่2 เกิดจากการ transform ตารางตัวอย่างข้อมูล ดังนั้นการ copy มา paste จึงง่ายกว่าการไปแก้สูตรเพื่อไม่ใช้ let ครับ ปล. รบกวนทัก inbox ใน facebook Excel Begin มาหน่อยนะครับ

ขอบคุณที่สนับสนุนและติดตามนะครับ 🙂

ขอบคุณครับที่ติดตามนะครับ 😊

ขอบคุณที่ติดตามกันทุกคลิปเลยครับ 😄🙏

ขอบคุณที่ติดตามและ comment นะครับ 1. Dynamic File Path ตามสูตรในคลิป เป็นการแสดง location ของไฟล์ต้นทางซึ่งเป็นไฟล์ที่เก็บข้อมูล เราทำไว้พื่อจะดึงข้อมูลจาก sheet ของไฟล์ต้นทางได้โดยไม่ต้องเปลี่ยน data source ใน power query ครับ (เพราะโดยปกติ การดึงข้อมูลจาก sheet จะต้องเลือก get data from file ซึ่งจะได้ชื่อไฟล์และ location เป็น hard code), ดังนั้นการใช้ dynamic file path ในตัวอย่าง จึงเป็นการดึงข้อมูลจากไฟล์โดยที่ไฟล์ต้นทางที่ใช้เก็บข้อมูล และไฟล์ปลายทางที่แสดง report เป็นไฟล์ไฟล์เดียวกันครับ 2.หากต้องการทำ file path รวมไว้เป็น list เพื่อดึงข้อมูลจากหลายๆไฟล์ ก็สามารถทำได้โดยใช้หลักการเดียวกัน แต่ไม่ต้องเขียนสูตรเป็น dynamic ครับ แค่พิมพ์ชื่อไฟล์และ location ใน sheet ได้เลย แล้วก็ตั้งชื่อ cell นั้นตามตัวอย่างในคลิป แล้ว get data from range, แต่ต้องไปปรับ mcode ใน power query นิดหน่อยครับ (คลิปนี้ไม่ได้อธิบายไว้) เดี๋ยวผมจะทำคลิปอธิบายข้อ 2 ให้ครับ

ขอบคุณครับ ดีใจที่ชอบคลิปนะครับ 🙂

มีหัวข้อและลิ้งค์สำหรับโหลดไฟล์ อยู่ใต้คลิปนะครับ 🙂 3:28 Fuzzy Matching Options and defination 6:16 Maximum Number of Matchs 7:30 Similarity Threshold 9:49 Ignore Case 12:06 Match by Combining Text Parts 14:22 Transformation Table 17:52 Precautions in Using Fuzzy Matching

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ 🙂

ขอบคุณที่ติดตามสนับสนุนนะครับ 🙂

ดีใจที่ดูแล้วชอบและคอยติดตามนะครับ เป็นกำลังใจทำคลิปต่อๆไปครับ 🙂

ดีใจที่ชอบ และคอยติดตามนะครับ 🙂

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ คลิปนี้ทำเป็นคลิปแรกๆ เสียงอาจจะยังไม่ค่อยดี ผมเตรียมทำวิธีรวมข้อมูลจากไฟล์, worksheet ไว้อีกหลายๆ แบบครับ คอยติดตามได้นะครับ 🙂