วีดีโอ

เทคโนโลยีประชาชื่นไม่ได้โดนปิดจากกระทรวงนะคับ. เพียงเเค่เปลี่ยนการเรียนการสอนใหม่นะคับ. ข้อมูลไม่ตรงคับ

😮😮😮😮😮😮

😮😮😮😮

ทำเป็นเเอ็ค..ชาวบ้านไม่รู้เรื่องอะไรด้วยต้องมาเดือดร้อนโดนลูกหลง..มันเทห์มันสนุกหรอถามจริงๆ👎👎👎🥱🥱🥱

ประชาชื่น 19 G.66

อินทรg.32 สุดโคตร

Ju5 3ge😊❤ are 7😊

ผมทันยุคนั้นครับ โรงเรียนที่ผมเคยไปมา ก็มี บรู มี กนก บรูนี่มีนักเรียนเยอะนะครับ มีนักเรียน เป็น หลัก พันคนเลย ส่วนโรงเรียนอีก 3 โรงเรียน คนเรียนหลัก100เท่านั้นละ ไปไหนเราจึงเจอ บรูมากกว่า อีก3โรงเรียน ผมจบ ม3 ก็จะไปเข้าบรู แต่พ่อไม่ให้ไปเรียน เลยต้องไปอีกอีกแห่งหนึ่ง ไม่ขอเอยละกัน ยุคนั้น เราแบ่ง ประเภท โรงเรียน ช่าง เป็น 3 ระดับ 1.สูง หมายถึง มีการตีกันในอัตราที่สูงมาก 2.กลาง หมายถึง มีการตีกันพอประมาณ ไม่สูงมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นที่รู้จักในโรงเรียนช่างด้วยกัน 3.ต่ำ หมายถึง มีการตีกันค่อนข้างต่ำมาก สาเหตุมาก โรงเรียนเข้มงวดมาก ในเรื่องการแต่งกาย และ ระเบียบโรงเรียน บางโรงเรียนถึงขนาด มีเรื่องไล่ออกทันที กลุ่ม3 จึงเป็นโรงเรียนที่ มีการเปิดสอน อยู๋ ณ ปัจจุบัน หลายโรงเรียน ส่วนกลุ่ม 1 ส่วนใหญ่ปิดตัวลงไปหมดละ หลายคนเข้าใจว่า สมัยนั้นตีกันบ่อยๆมาก อันนี้ไม่จริงๆนะครับ เพราะแต่ละโรงเรียน อยู่ไกลกันมากนะครับ โอกาสเจอกันแบบ เยอะ ตะลุมบอนนี้ไม่ง่ายนะครับ จะมีก็แค่ งานดนตรี และ งานนัดกันไปตีจริงๆ และอีกสาเหตุหนึง การเลื่อมเวลา ในการเข้าเรียน เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอกัน แต่ถามว่ามีตีกันทุกวันไหม ผมว่าก็ทุกวันละ ขึ้นอยู่กับจะตีกันตรงไหน เพราะนักเรียนช่างยุคผม เยอะมากนะครับ และโรงเรียนช่างก็มีเยอะมาก ซึ่งกลุ่มที่ตีกันบ่อย ก็ ระดับ สูง และ กลางน่านละ การตีกัน ก็ตอน ไปโรงเรียน และ ตอน กลับบ้าน น่านละ แต่ละสถาบันจะมี กลุ่มแก๊ง ของแต่ละสถาบัน ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งตาม สายรถเมล์ ที่นังไปกลับโรงเรียน เพราะส่วนใหญ่อาศัยรถเมล์ในการเดินทางเป็นหลัก ซึ่งต่างจากสมัยนี้มาก และ จะมีจุดนัดพบ เพื่อรวมตัวก่อน ไปโรงเรียน และ ตอนกลับจากโรงเรียน การตีกันมันจึง ดูเยอะเพราะเหตุนี้น่านละ ไม่ค่อยมีเด็กช่างไปเรียนคนเดียว กลับคนเดียว นะครับ อย่างแย่สุด ก็ 2 คน ถ้าเยอะๆนี้ 50คนเลยนะ นั่งกันเต็มรถเมล์เลยนะ ทุกโรงเรียน นั้นมี สเน่ห์ ของแต่ละโรงเรียนนะ มันจึงเป็นการดึงดูด เด็กให้เข้าไปเรียนโรงเรียนนั้นๆ ยุคนั้นเราแบ่ง โรงเรียนเป็น 2 ประเภท ใหญ่ 1 รัฐบาล คือต้องสอบเข้าไปเรียน 2 เอกชน คือเข้าเรียนได้เลย และเราแบ่งกลุ่มโรงเรียนไว้ 6 กลุ่มคือ 1.ช่างกล 2 ช่างก่อสร้าง 3พาณิชย์ 4 ศิลปะ 5 ขาสั้น 6.มหาลัย เริ่มมีการใช้ปืนอย่างกว้างขวาง ก็ ตอน ยุค 90 ตอนกลางนะครับ และเล่นกันแรงมากด้วย แต่ผมไม่ทันแล้ว ผมอยู่ยุค 80ตอนปลายและต้น90นะ และยุคนี้ ส่วนใหญ่จะมีการเปิด สอน ภาคค่ำด้วย และจะเริ่มเป็นยุคเสื่อมของเด็กช่างแล้วนะ คือมีการเรียนช่างน้อยลง จนทำให้หลายสถาบัน ปิดกิจการลงเพราะขาดทุน และ โรงเรียนไม่สามารถทำกำไรได้แล้ว บวกกับ นักเรียนยิงกันบ่อย ไม่ใช่ตีกันนะ ครับ คือ ยิงกัน เพราะจะใช้คนไม่กีคน ยิงเสร็จหายตัวเลย อีกอย่างคือ หลังจบ ปวช ก็ต้อง เรียนต่อ ปวส และ ปริญญาตี การเรียนช่างมันเลยเปลี่ยนไป ยุคผมจบ ปวช ก็ทำงาน จะเรียนต่อน้อย ถ้าเรียนนิยมเรียน ภาคค่ำกัน ยุคนั้นสนุกกว่าสมัยนี้มาก เพราะไม่มีโทรศัพย์ ต้องอยู่ร่วมกันคนอื่นๆ จะทำไร ต้องนัดเจอกัน การทำกิจกรรมร่วมกัน มันจึงเยอะ ก็มีทั้ง ในด้านบวกและ ลบ แต่ส่วนใหญ่ ชอบเล่าด้านลบกัน ก็ไม่รู้ทำไม และเป็นยุค ที่ มีดนตรีเล่นเยอะมาก เรียกได้ว่ามีทุกวันเลยนะ เพียงแต่เรารู้ไม่รู้น่านละ

ฟังแล้วน่ามากมากคะ

เกิดไม่ทัน😅😅

เพชร

อิน บู กนก สายลม สากล ไทยสุริยะ ชื่น เหลิม กสด ดุสิต พกท ตลิ่งชัน แสบๆทั้งนั้น

ไก่ตัวหัวหมูแต่ไม่รักษาคำพูดดูอนาคอนด้าจบน่ะรู้ลึกรู้ดีแต่หาวิธีแก้ไม่ได้ดูแอฟริกาจบแค่รูใต้น้ำ

เรากินพลังชีวิตผ่านของบนบาน

เมายามาทำงานตรวจเลือดเยี่ยวเอายังโทษนาคแค่แบ่งค่าคอมกันไม่ลงตัว

ดูรูกบเขียดพอ

ทำไม่ไม่คิดแค่เจ้าของที่สุมหัวขายที่ภาครัฐตรวจเอาใคร

บ้านวังเขาโดนตอม่อเขฃจาะพังไม่ดร้วได้ไง

ไปบนอะไรไว้แค่เขาทวงหนี้

สมควร