ดูแวบแรกเป็นคนดี นี่แหละตัวดี
“เคยเหนื่อยกับคนดีไหม
ที่เขาชอบทำร้ายใคร
โดยไม่รู้ตัวเองได้
ทำร้ายคนจนเคยชินไป”
“คนดี” เป็นคำพูดที่ใครๆในโลกนี้อยากให้โลกจารึกมากกว่าคนชั่วเป็นไหนๆ แต่ไหงซะงั้น คนดีกลับทำให้คนปกติเหนื่อยได้ถึงเพียงนี้และดูดพลังชีวิตไปได้มากขนาดนี้ หรือว่า “จริงๆแล้ว คนเหล่านั้นไม่ได้เป็นคนดีจริง แต่คนดีเหล่านั้นกลับมีป้ายห้อยติดว่า “ผีดูดเลือดหรือดูดพลังชีวิต” กันแน่หรือเปล่า” เพราะฉะนั้น ทุกคนจงตามกันมาดูความจริงของคนดีแสนดีสุดดีกันเถิด
“คนดีหน้าตาเป็นแบบไหน”
คำว่า “คนดี” คือ คนแบบไหนนะ แต่ละคนคงมีคำจำกัดความของคำว่า “คนดี” ที่แตกต่างกันไป แต่หลายคนคงต้องมาเครียดเพราะทนอยู่กับคนดีแสนดีเหล่านี้ไม่ไหวจริงๆ
บทที่ 1 ผีดูดพลังงานที่ช่วงชิงพลังงานไปจากคุณ
“ไซโคพาธ” คือ บุคคลที่ไม่ได้อันตรายแต่เป็นบุคคลที่ดูดพลังงานเราไปหมด จนจากการที่เรามองโลกในแง่ดีก็อาจจะเป็นคนมองโลกในแง่ลบ เพราะคนเหล่านี้มักทำตัวเป็นคนดีแต่กลับทำตัวเป็นคนชอบควบคุมทุกอย่างและเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง แล้วคนแบบนี้จะเรียกว่า “คนดี” ได้ไหมเนี่ย
บทที่ 2 ความหงุดหงิดคือเสียงกรีดร้องของความรู้สึก
ทุกคนมีหลากหลายความรู้สึกและหากคนเหล่านั้นขึ้นต้นด้วยว่า “เป็นที่รักของทุกคน” แต่กลับกลายไม่ใช่ที่รักของเราล่ะ จะเป็นแบบไหน เมื่อความรู้สึกของเราถูกคนที่ถูกตีตราหน้าว่า “ที่รัก” กลับกลายเป็น “ที่ชัง” ในความรู้สึกของเรา จึงทำให้เราแทบจะทนคนเหล่านั้นไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
บทที่ 3 ความทรมานจากการหมดแรง การระแวง และการเกลียดตัวเอง
ใครๆก็บอกว่า “คนนี้เป็นคนดี” แต่คนดีคนนี้กลับทำให้รู้สึก “หมดแรง” “ระแวง” และ “เกลียดตัวเอง” เพราะว่า “เวลาเราเจอคนดีแบบนี้ เรากลับรู้สึกระแวงว่า “แกล้งหรือแสร้งเป็นแม่พระหรือพ่อพระอยู่หรือเปล่า” แล้วทำไม เราถึงไม่ชอบคนเหล่านี้นะ หรือเราเป็นคนแปลกๆ เราเริ่มเกลียดตัวเองขึ้นมาจนหมดทั้งแรงใจและเหนื่อยแรงกาย
บทที่ 4 จงปกป้องตัวเองจากผีดูดพลังงาน
“ฝากด้วยนะ” เป็นคำพูดยอดนิยมของนายที่แสนจะดี แต่ความจริงกลับซ่อนบางอย่างเอาไว้ ซึ่งนั้นก็คือ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็อย่าลืมรับผิดชอบด้วยล่ะ แล้วเรื่องจริงก็เกิดขึ้น เพราะพอมีปัญหาอะไร นายที่แสนดีเหล่านี้จะลอยตัวเหนือปัญหา เหลือให้คนไม่ดีของเราที่ต้องทนรับทุกข์ทรมานจากนายที่แสนดีคนนี้นั้นเอง
บทที่ 5 5 วิธีการดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้ถูกคนที่ดูแวบแรกเป็นคนดีปั่นหัว
“คนเราไม่ควรมองข้ามความรู้สึกของตัวเอง” เพราะถ้าหากเรามองข้ามแล้ว เราจะเป็นทุกข์ได้ เพราะเรามัวแต่แคร์คนที่ถูกอ้างตัวว่า “เป็นคนดี” เท่านั้น โดยที่เราไม่แคร์ตัวเอง ดังนั้น หากเรากลับมาแคร์ความรู้สึกตัวเราเองและเป็นคนดีฉบับตัวเอง เราไม่ต้องทนทุกข์กับคนดีแสนดีเหล่านี้อีกต่อไป
“คนดีนั้น น่ากลัวกว่า ที่คิดไหม
เพราะหากใช่ น่ากลัวกว่า คนที่ดี
เพราะคนดี น่ากลัวกว่า คนแสร้งที่
คนแสร้งดี น่ากลัวกว่า คนชั่วไหม”
เราเคยคิดนะว่า “คนแสร้งดี” น่ากลัวกว่า “คนชั่ว” อีก เพราะคนชั่วมันแสดงออกให้เราเห็นว่า “เราอย่าเข้าไปยุ่ง” แต่คนแสร้งดีนี่มันทำให้เราต้องเข้าไปกลิ้งเกลือกกับคนแบบนี้ และหลายครั้ง เราทำอะไรคนเหล่านี้ไม่ได้ เนื่องจาก คนส่วนใหญ่รักคนเหล่านี้ เพราะฉะนั้น เราถึงกล้าพูดอย่างมั่นใจว่า “คนแสร้งดีน่ากลัวกว่าคนชั่วมาก”
“It’s a bad day, not a bad life.”
(วันที่แย่ไม่ได้แปลว่าชีวิตที่แย่)
ทุกคนคิดว่า “คนดี” มีความหมายแบบไหน และแตกต่างจาก “คนแสร้งดี” ตรงไหน เพราะฉะนั้นแล้ว หากใครอยากรู้จักคนแสร้งดี ทุกคนควรอ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วทุกคนจะเข้าใจคนแสร้งดี จนทุกคนจะเริ่มอยากหันกลับมารักตัวเองและหนีให้ไกลจากคนแสร้งดีเหล่านี้ให้ไกลที่สุด เพราะความรักตัวเองคือสิ่งสำคัญที่สุดและหาใครมาขโมยความรักนั้นไปไหนได้
LOOK A BREATHE