วีดีโอ

ต้องยอมรับว่าดนตรีที่เราเล่นและฟังกันอยู่ทุกวันนี้คือ American Music ถ้าฝั่งยุโรปมีแนวคลาสสิค ฝั่งอเมริกันก็มีแจ๊สนี่แหละ ที่พอเชิดหน้าชูตาได้ เสียงของคอร์ดในดนตรีแจ๊ส บ้างก็ฟังเสนาะหู บ้างก็ฟังกระด้างกัดหูซะจนจิตตก แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ จริงๆแล้วคือความคุ้นชิน ถ้าเราฟังบ่อยๆ สิ่งสมมุตเหล่านี้ก็จะหมดไป เฉกเช่นคนที่มีบ้านอยู่ใกล้ทางรถไฟ หรือ สนามบิน เสียงรถไฟและเสียงเครื่องบินสร้างความรำคาญแค่ไหน.. แต่ถ้าเราอยู่จนคุ้นชิน ความรำคาญเหล่านั้นก็หายไป กลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันไป สรุป ที่ผมนำเพลง Finger Style ในแนวแจ๊สมาให้ฟัง ให้เล่น ก็ด้วยเจนตนานี้แหละ จะได้คุ้นชิน และเชื่อหรือไม่ว่า ถ้าทำได้หูของคุณและการฟังของคุณจะเพิ่ม Level ขึ้นมาอีกระดับแน่นอน!

เพราะมากครับ

ชอบมากๆ ครับ ขอบคุณครับ

เพลงนี้มีลักษณะจังหวะของ Groove เป็น Shuffle Feel เมื่อเรา Extended Groove ออกมาแล้วก็จะได้ 12th. Note Groove แต่ไม่ใช้ Time Signature เป็น 12/8 ยังเล่นเป็น 4/4 อยู่ เหตุเพราะ Shuffle Feel นั้นมีฐานพื้นเดิมมาจาก Simple Time นั่นเอง! // ดังนั้น ลูกส่งของกลองและเบสก็สามารถเล่นเป็นโน้ต 3 พยางค์ได้ โดยไม่ติดขัดอะไร สังเกต.. Bass Line เดินเป็น Root & 5th. และ Passing Note เหมือนกับแนว Country แต่จังหวะของกลองไม่ใช่แนว Country สรุป ถ้าเราเข้าใจลักษณะเด่นของดนตรีแต่และแนวได้อย่างถ่องแท้ การผสมผสานแนวดนตรี ก็จะไม่ใช่เรื่องยากอะไร และถ้าทำออกมาแล้วมันใช่ สิ่งเหล่านั้นก็จะยังได้ยิน ได้ฟังและได้เล่นต่อมาจนถึงปัจจุบัน..

ต้นฉบับเป็นเพลงของอัสนี - วสันต์ วงBig Ass นำมา Cover ใหม่ในสไตล์ของตัวเอง ทำให้เราเห็นพัฒนาการของดนตรีของ 2 ยุคได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะด้าน Rhythm / สีสันของ Version นี้ยังมี Solo กีตาร์เป็นคู่ประสานเสียง โดยเล่นบน Rhythm ที่หลากหลายมีตั้งแต่ Half Feel - A Tempo และ Double Feel ( คนกลองควรศึกษาเรื่องนี้ให้เข้าใจมากที่สุด )

ชอบครับ

เพลงนี้มีทำนองสอดประสานที่เรียกว่า Cannon ( ไม่ใช่ยี่ห้อกล้องนะครับ ) เป็นการล้อเลียนทำนองหลักตามหลังทำให้เกิดความรู้สึกถาม-ตอบหรือตอบโต้กันระหว่าง 2 ทำนอง ดังนั้นเมื่อเรียบเรียงเป็น Finger Style สิ่งที่ต้องคำนึงก็คือ ช่องว่าง! ที่ทำนองประสานสอดดแทรกเข้ามาต้องไม่ไปกลบโน้ตทำนองหลักให้เสียหาย ดังนั้นการฝึกแยกฟังทำนองทั้ง 2 ออกจากกันจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในกรณีที่เราพบเพลงในลักษณะนี้..

คาโป้ช่องไหนหรอครับ

มือเบสสายล้วง ( ชอบเล่น Position ในๆ ) ต้องชอบเพลงนี้แน่นอนครับ เพราะ Bass Line อุดมไปด้วย Arpeggio / Diatonic Passing / Chromatic Passing / Neighbouring Note ไอเดียล้วนๆครับ ( ยิ่งกว่ากินอาหารเสริมวิตามินเสียอีก ) สิ่งสำคัญคือ การฝึกเล่นให้ได้และฝึกคิดให้เข้าใจสิ่งที่เล่น ถ้าทำได้ การฝึกนั้นๆจะมีประสิทธิผลที่สุดครับ // ส่วน Drum Part คุณจะได้เห็นแนวคิดการสร้าง Pattern แบบ Counter Line ที่เข้าไปสอดแทรกและส่งเสริม Bass Line ได้อย่างลงตัว เล่นไม่ยาก แต่คิดขึ้นมานั่นสิยากกว่า ( ยังมีบางคนที่คิดว่า Ringo Starr ไม่เก่งเท่าไหร่ ให้คิดใหม่ได้เลยครับ )

เพลงในตำนานอีกเพลงที่ไม่ลงคลิปคงไม่ได้.. นอกจาก Riff ที่เป็นตำนานแล้ว ลูกโซโล่เพลงนี้อุดมไปด้วยการดันสายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Bending , Pre - Bend , Bend & Release , Bend & Stop , Pre - Bend & Release เป็นต้น ดังนั้นความยากของการดันสายในเพลงนี้ก็คือการควบคุมน้ำหนักมือขวาที่ดันสายให้นิ่ง และหูที่แยกแยะระดับเสียงต่างๆอย่าง 1/4 เสียง , 1/2 เสียง , 3/4 เสียง และ 1 เสียงเต็ม..

เพลงนี้ในมุมมองของคอร์ดหรือ Harmony ได้วิเคราะห์ไปแล้ว ( ลองย้อนไปอ่านดูในบทความเก่าๆ ได้ครับ ) ส่วนในคลิปนี้เป็นการนำมาเรียบเรียงเป็น Finger Style ในแนว Jazz ดังนั้น ถ้าเราวิเคราะห์ที่โน้ตทำนอง หรือ Melody เราจะเห็นเลยว่า ผู้เรียบเรียงต้องการนำเสนอเรืองนี้พอสมควรเลย ซึ่งเรื่องนั้นก็คือ โน้ตทำนอง 1 เสียงสามารถใช้คอร์ดได้มากกว่า 1 คอร์ด อย่างในเพลงนี้มี 2 ตัวอย่างมาให้วิเคราะห์กัน ตัวแรกคือโน้ต A เราสามารถใส่เป็นคอร์ด F7 ( 3rd.) - Bbmaj7 (7) และ Em7(11) ก็ตัว 11 นั่นแหละ // โน้ตตัวที่ 2 คือโน้ต E เราสามารถใส่เป็นคอร์ด Fmaj7(#11) เป็นตัว 7 - E7(#9) เป็นตัว Root - D9 (9) เป็นต้น สรุป เพลงทำนองเดียวกัน แต่เราสามารถใช้คอร์ดเพื่อสร้างสีสันให้กับบทเพลงได้ และนี่ก็คือเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเพลงแนว Jazz // หมายเหตุ : มีอาจารย์ท่านหนึ่งของผมเคยบอกว่า Jazz เขาไม่ได้เสพ Melody แต่เขาเสพ Harmony กัน..

เป็นอีก 1 เพลงของ Bodyslam ที่ไลน์ของ Bass กับ Drum สอดคล้อง สัมพันธ์กันดีมากๆ สิ่งสำคัญของเพลงนี้ก็คือ Feel หรืออารมณ์ในทางดนตรี ที่แสดงออกมาในลักษณะของเสียงทางดัง - ค่อย หรือ Dynamic นั่นเอง ตามปกติเพลงแนว Rock จะไม่ค่อยสนใจสิ่งนี้เท่าไหร่ พูดง่ายๆคือ เสียงดัง ตังค์มา เพราะอารมณ์ในด้านซาว์ดส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ความสนุก ความมันส์ ความหนักแน่นของจังหวะ ส่งผลทำให้ Dynamic ถูกลดทอนความโดดเด่นไป แต่เพลงนี้ ครบทุกอารมณ์ มือเบส มือกลองควรฝึกครับ หรือเครื่องเครื่องดนตรีชิ้นอื่นถ้าไม่ฝึกก็ควรฟังครับ รับรองคุณต้องได้อะไรไม่มากก็น้อย ไม่เสียเวลาเปล่าแน่.. // หมายเหตุ : แนวเพลงที่โดดเด่นเรื่อง Dynamic ที่สุดก็คงหนีไม่พ้นแนว Blues ครับ ดังนั้นดนตรีแต่ละแนวก็จะมีจุดแข็ง และจุดอ่อนเสมอ เปรียบดังเช่นคนเรานี่แหละครับ ไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง..

เพลงนี้ลงให้เต็มเพลงเลยนะครับ เจตนาก็เพื่อให้เห็นการแบ่งหน้าที่กันของกีตาร์ 2 ตัว ที่สอดรับกันอย่างลงตัว ดังนั้นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งในการเล่นดนตรี หรือการเรียบเรียงเพลงก็แล้วแต่ สิ่งนั้นก็คือ การรู้จักบทบาทและหน้าที่ของตัวเองในวง ว่าทำได้แค่ไหน? ตรงไหนมากไปหรือน้อยไป? ตรงไหนควรลด ตรงไหนควรเพิ่ม? เหมาะสมไหม? ที่จะทำอย่างนี้ ถ้าเราหาคำตอบกับคำถามที่เราสร้างขึ้นมานี้ได้ ความลงตัวก็จะเกิด ปัญหาก็จะลดน้อยลงหรือจนถึงไม่มี สิ่งเหล่านี้ถ้าคิดและฝึกฝนเป็นประจำ มันก็จะนำไปสู่การปฏิบัติตัวของเราในสังคมด้วย! มีแต่ข้อดี ทำได้แค่ไหน ก็ดีแค่นั้น รับรองไม่มีเสีย อ.ตี๋ การันตี..

Tab pls😢😢

เพราะมากครับ

ลดคี่ลงไม่ครับอาจาร์​

บทเพลงในแต่ละยุคสมัย จะมีกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ในตัวของมันเองอยู่ แม้ไม่ใช่คนดนตรีก็สามารถฟังแยกแยะออก แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ถ้าเราเป็นคนดนตรีจริงๆ ควรที่จะแยกแยะได้มากกว่าการฟังเพียงอย่างเดียว ควรที่จะรู้ลึกขึ้นว่าความแตกต่างนั้นมันมีอะไรบ้าง? เช่น เทคนิคการเล่นเครื่องดนตรีชิ้นนั้นๆ - ทำนองเพลง - เสียงประสานหรือคอร์ด - การเรียบเรียงเพลง - ฟอร์มเพลง - ลักษณะการร้องและเทคนิคการร้อง และ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็น ค.ห.ส.ต. เราไม่จำเป็นต้องรู้ทั้งหมดหรือรู้ทุกเรื่อง เพียงแต่ถ้าเราจะวิจารณ์หรือออกความเห็นทางด้านดนตรี ควรจะมีข้อมูลเหล่านี้สนับสนุนด้วย ซึ่งส่วนตัวมองว่าเราจะสามารถแยกแยะและเห็นความแตกต่างได้อย่างแท้จริง! ที่สำคัญสามารถได้ข้อสรุปที่ชัดเจนขึ้น เมื่อเกิดความเห็นแย้งกันในด้านดนตรี..

เป็นเพลงที่ Bass Line ได้เล่น Riff เท่ๆ เจ๋งๆ เปิดขึ้นมา แล้วตามด้วยกลองก่อนที่จะเข้าทั้งวง เพลงนี้มี Riff หลักๆ 3 ชุด ไอเดียหลักๆคือ Passing Note กับ Sequence // บทเพลงแนว Rock Basic Groove จะเป็น 8th. Note Feel หรือโน้ตเขบ็จ 1 ชั้น ดังนั้น ถ้าเราเข้าใจ Groove พื้นฐานของแต่ละแนวดนตรี เล่นอะไรมันก็เข้า ใส่อะไรเข้าไปมันก็ดูดี แต่ถ้าขาดความเข้าใจในเรื่องนี้ บอกได้คำเดียวว่า คุณจะถูกเพื่อนๆนักดนตรีเรียกว่า " ไอ้คร่อม " ทันที! ( ไม่ใช่ " น้าค่อม " นะครับ ) " คร่อม " ในทีนี้คือ " คร่อมจังหวะ "

การเล่นโซโล่กีตาร์โปร่งนั้น จะมีข้อจำกัดมากกว่ากีตาร์ไฟฟ้า ทั้งในเรื่องของเทคนิคและเอฟเฟ็ค ดังนั้น! ถ้าเราอยากฝึกโซโล่ให้ได้สำเนียงที่ดีขึ้น ลองวางกีตาร์ไฟฟ้า แล้วมาเล่นกีตาร์โปร่งดู เพราะข้อจำกัดเหล่านั้น มันจะบีบให้คุณใช้ได้เท่าที่มี และทำให้สิ่งที่มีอยู่อย่างจำกัดได้ถูกใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อคุณฝึกสิ่งเหล่านี้ได้อย่างชำนาญ พอกลับไปจับกีตาร์ไฟฟ้าอีกครั้ง คุณจะเห็นถึงความแตกต่างของตัวเองว่าพัฒนาขึ้นอย่างไร?